วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันน้ำโลก เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ
ประเทศไนจีเรีย เป็นประเทศที่ขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมากและเห็นน้ำเป็นสมบัติล้ำค้า
ประเทศอียิปต์ซึ่งมีพื้นที่อยู่อาศัยเพียง 10 % ของพื้นที่ประเทศ และพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นทะเลทราย ขณะนี้กำลังทุ่มงบประมาณ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพื่อขุดอ่างเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ สำหรับเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยให้มากขึ้นเป็น 25 % ของพื้นที่ประเทศ และใช้ระบบเกษตรน้ำหยดเพื่อการใช้น้ำอย่างคุ้มค่า
ประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่แถบตะวันออกบางจังหวัด กำลังทำลายแหล่งน้ำตามธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว ด้วยการปลูกพืช 2 ขนิด คือ ยูคาลิปตัส และ มันสำปะหลัง
การปลูกต้นยูคาเพื่อป้อนโรงงานผลิตเยื่อกระดาษกำลังเป็นโรตระบาดไปทั่ว เนื่องจากเห็นว่ารายได้ดี ไม่ต้องดูแลรักษา และมีผู้รับซื้อแน่นอน
ผลชองการปลูกต้นไม้ชนิดนี้ ยังไม่งานวิจัยอะไรชัดเจนว่าจะเป็นเหตุให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ในอนาคต แต่โดยธรรมชาติของต้นยูคาจะเป็นไม้ยืนต้นสูง และมีรากชอนไชหาน้ำได้เก่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ต้นไม้ชนิดนี้จะสามารถอยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนจัด และแห้งแล้งได้
ใบของต้นยูคาจะระเหยน้ำออกไป และรากจะดูดน้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินจำนวนมากมายขึ้นมาเรื่อย ๆ ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่า แหล่งน้ำที่ขุดสระไว้ ซึ่งเคยมีตาน้ำอยู่ตลอดปี ปัจจุบันจะเหือดแห้งไปในช่วงหน้าแล้ง และต้องพึ่งพาการขุดบ่อน้ำบาดาลขึ้นมาใช้แทน
ในขณะเดียวกันยังมีการปลูกมันสำปะหลัง เพื่อป้อนโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ที่นำไปใช้ผลิตเป็นกาซโซฮอล์ เพราะในขณะนี้มันสำปะหลังมีราคาดีกว่าสมัยก่อนที่นำไปใช้ทำอาหารสัตว์ จึงมีการปลูกอยู่ทั่วไปในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย
มันสำปะหลังเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย เมื่อมีฝนแรกของปีตกลงแม้นเพียงเล็กน้อย เกษตรกรจะนำกิ่งพันธุ์มาปักทิ้งไว้เป็นแถว ๆ และรอให้กิ่งพันธุ์ แตกตาแตกรากเจริญเติบโตด้วยตนเอง โดยไม่ต้องดูแลรักษาแต่อย่างไร และสามารถขุดขายได้ในเวลา 1 ปี แถมยังมีผู้มารับซื้อถึงที
การปลูกมันสำปะหลังจะทำให้ดินเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว เพราะหัวของต้นมันจะมีความสามารถดูดซับแร่ธาตุในดินเพื่อสร้างอาหารสะสมไว้ในหัวใต้ดิน ดังนั้นการปลูกต้นมันสำปะหลังซ้ำ ๆ กันเป็นเวลาหลายปีจะทำให้ดินเสื่อมสภาพและขาดแร่ธาตุในดิน และเกษตรกรเหล่านี้ก็ไม่กล้าเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น เพราะกลัวความไม่แน่นอนในราคา ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ปัญหาแหล่งน้ำที่ต้องใช้ และการหาผู้รับซื้อ
สำหรับแนวทางแก้ไข มีอยู่หลายแนวทางขึ้นอยู่ว่าจะมีใครสามารถนำมาใช้ให้เกิดผลได้
บางประเทศมีนโยบายลดภาษีให้ ถ้าที่อยู่อาศัยมีการปลูกต้นไม้
การไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ
การรักษาป่าที่เป็นแหล่งต้นน้ำตามธรรมชาติ
การรณรงค์ปลูกป่า
ตัวอย่างที่น่าสนใจที่ได้พบเห็นมา
ในพื้นที่ที่มีการปลูกมันสำปะหลังติดต่อกันหลายปี มีเกษตรกรบางรายซื้อส่าเหล้ามาราดคลุมดิน เพื่อเพิ่มแร่ธาตุของดิน ซึ่งนับเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดี เพราะโรงงานเหล้าก็ไม่ต้องทิ้งน้ำเสียลงในแหล่งน้ำ และ ยังสามารถใช้เป็นปุ๋ยให้เกษตรกรได้ด้วย
มีโรงแรมขนาดใหญ่บางรายนำน้ำเสียจากห้องสุขามาใช้เป็นน้ำสำหรับรดน้ำสนามหญ้าในบริเวณที่มีแดดจัด ๆ บางส่วนแล้วใช้น้ำดีรดซ้ำในบางช่วงเวลา เป็นการนำน้ำกลับมาใช้และเพิ่มปุ๋ยตามธรรมชาติอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม อยากขอแสดงความเป็นห่วงใยในเรื่องนี้ เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่สนใจแต่รายได้ที่จะได้รับ ไม่ได้เห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ธรรมชาติ และแหล่งน้ำที่พวกเขามีอยู่ใต้ดิน มันยังเป็นเรื่องที่มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม และกว่าจะเห็นผลของการกระทำที่ชัดเจน วันเวลาคงล่วงเลยไปถึง รุ่นหลาน รุ่นเหลน แล้ว
หรือว่าบางส่วนของประเทศไทยจะถูกเปลี่ยนเป็นทะเลทรายเข้าสักวัน ในขณะที่ประเทศอื่นกำลังพยายามเปลี่ยนทะเลทรายเป็นทะเลสาบ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที