วิลลี่

ผู้เขียน : วิลลี่

อัพเดท: 25 ก.ย. 2006 00.59 น. บทความนี้มีผู้ชม: 29012 ครั้ง

ถ้าคอมพิวเตอร์ซ่อมแซมตัวเองได้ คงจะดีไม่น้อย เรามีวิธีทำครับ


วิธีทำ

ถ้าคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เหมือนหุ่นยนต์ในภาพยนตร์เรื่องคนเหล็ก 2029 ย่อมจะดีไม่น้อย  แต่ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง เพราะWindows ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้  หลายคนไม่เชื่อเพราะเห็นWindows มักจะชอบเมาไม่สร่าง (Hang) ตลอดทั้งปี ฮิ ๆ

 มาเริ่มกันเลย

1. Double Click ที่ icon My Computer บนหน้าจอ Desktop > คลิ๊กขวาที่ Drive C: (ถ้าจะซ่อม Drive D: ก็คลิ๊กขวาที่ Drive D ) > Properties > เลือก Tab Tools > จะได้ดังรูป 1 – 3 ตามเวอร์ชั่นที่ท่านใช้งาน

รูปที่ 1  Tools ของ Windows XP



รูปที่ 2  Tools ของ Windows Me


รูปที่ 3  Tools ของ Windows 98


2. Tools ตัวแรกคือ Error-checking  หรืออีกชื่อที่รู้จักกันดีคือการ Scan Disk หรือการ Check Disk จะซ่อมแซมอาการเพี้ยน ๆ ทั้งหลาย เช่นเครื่องช้า , เปิดไฟล์ไม่ได้ , เปิดได้แต่ไม่ครบ ,ไฟล์หาย , ฮาร์ดดิสก์มีจุดเสีย (Bad Sector) , เข้าแลน(LAN-Local Area Network)ไม่ได้  , Share File ไม่ได้ , Share Printer ไม่ได้ , Shut Down ไม่ลง อื่น ๆ อีกมากมาย เสมือนเป็นยาครอบจักรวาล  คือเวลาเครื่องมีปัญหา สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือการ Shut down เครื่องปกติ  อันดับสองหลังจากเปิดเครื่องใหม่ก็ให้ทำ Scan Disk ตัวนี้แหละ

2.1   สำหรับ Windows XP  > จากรูปที่ 1 คลิ๊กปุ่ม Check Now… >  กาถูกเฉพาะบรรทัดแรก (Automatically fix file system errors)  (ดูรูปที่ 4 ) > โปรแกรมบอกว่าต้อง Restart Windows > คลิ๊กปุ่ม Yes (ดูรูปที่ 5) > ปิดโปรแกรมทั้งหมด แล้ว Restart เครื่องคอมพิวเตอร์  > เครื่องจะทำการ Checking File System ก่อนเข้า Windows ปกติ (ดูรูปที่ 6)


รูปที่ 4  เริ่ม Check Disk


รูปที่ 5  ต้อง Restart Windows


รูปที่ 6  Checking file system on C: ของ Windows XP

2.2    สำหรับ Windows Me , 98 > จากรูปที่ 2 หรือรูปที่ 3  คลิ๊กปุ่ม Check Now… >  ให้คลิ๊ก 3 ที่คือ LocalDisk (C:) , Standard , Automatically fix errors > คลิ๊กปุ่ม Start  (ดูรูปที่ 7) > จะได้ดังรูป 8 > เมื่อเสร็จแล้วจะได้ดังรูปที่ 9


รูปที่ 7  เลือก Option ก่อน Start



รูปที่ 8  ขณะ ScanDisk (Checking folders…)


รูปที่ 9  ScanDisk Results


อธิบายเพิ่มเติม
 ระหว่างทำ ScanDisk ห้ามใช้งานโปรแกรมตัวอื่นไปด้วย (เช่น Word , Excel )
 จากรูปที่ 8  ถ้ามันวนไปวนมา ไม่ 100 % ซะที  ให้ Cancal แล้วไปปิดโปรแกรมป้องกันไวรัส (เช่น McAfee , Norton) หรือโปรแกรมที่อยู่ในหน่วยความจำ (Resident Program) แล้วค่อยกลับมา ScanDisk ใหม่ครับ
 จากรูปที่ 9   บรรทัดแรกบอกว่าไม่พบปัญหา  แต่ถ้าพบปัญหา โปรแกรมจะแก้ไขให้อัตโนมัติ (fix error)
บรรทัดที่ 3 ที่บอกว่า 0 bytes in bad sectors นี่คือค่าที่ถูกต้องคือศูนย์ แต่ถ้าพบว่า ScanDisk แต่ละครั้งมันมีค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่า Hard Disk มีปัญหาใกล้พังแล้ว ให้เปลี่ยนตัวใหม่ครับ  แต่ถ้ามีค่ามากกว่าศูนย์และไม่มากขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ยังใช้ได้ครับ

3. Tools ตัวที่สองคือ Defragmentation  เป็นการจัดระเบียบไฟล์ครับ  ปกติแต่ละไฟล์จะถูกตัดออกเป็นชิ้น ๆ เปรียบเสมือนโบกี้รถไฟซึ่งใน 1 ขบวน จะมีหลายตู้  โดยแต่ละส่วนของไฟล์จะถูกแยกเก็บโดยมี index บอกว่าส่วนต่อมันอยู่ตรงไหนใน Hard Disk ของเรา การทำ Defragmentaiton คือการทำให้แต่ละส่วนของไฟล์ที่กระจัดกระจายมาเรียงต่อกันไปอย่างเรียบร้อย สวยงาม ทำให้เวลาใช้งานไฟล์จะรู้สึกว่าเร็วขึ้น เพราะหัวอ่านไม่ต้องกระโดดไปกระโดดมา อีกทั้ง Defragmentation ยังสามารถแก้ไขปัญหาไฟล์ที่เปิดไม่ได้ (Index Lost) เนื่องจากปัญหา Shutdown ไม่ลงทำให้ต้องปิดเครื่องไปเฉย ๆ มีผลให้ไฟล์เสียหาย  หรือบางส่วนของไฟล์เจอ Bad Sector (จุดเสียบน Hard Disk)

ข้อควรปฏิบัติ
 ก่อนทำ Defragmentation  ต้องทำ Scan Disk แบบ Thorough  ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าแบบ Standard
- สำหรับ Windows XP ดูรูปที่ 4 ต้องกาถูกทั้ง 2 บรรทัดก่อน คลิ๊กปุ่ม Start
- สำหรับ Windows Me, 98  ดูรูปที่ 7  เลือก Drive C , เลือก Thorough , เลือก Automatically fix Errors
 ก่อนทำ Defragmentation ให้ปิดโปรแกรมทั้งหมด (เช่น Word , Excel , โปรแกรมป้องกันไวรัส)
 ขณะทำ Defragmentation ห้ามใช้งานโปรแกรมอื่นใด
 การทำ Defragmentation ใช้เวลานาน อาจจะนานกว่า 1 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าเป็นสำนักงาน ควรจะทำช่วงพักกลางวัน หรือหลังเลิกงาน

3.1    สำหรับ Windows XP > จากรูปที่ 1 คลิ๊กปุ่ม Defragment Now… > จะได้ดังรูปที่ 10 ให้คลิ๊กปุ่ม Defragment > รอจนเสร็จเรียบร้อย  หรือจากรูปที่ 10 เราอาจคลิ๊กที่ปุ่ม Analyze เพื่อให้โปรแกรมวิเคราะห์ก่อนว่าควรทำ Defragment หรือไม่ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์เสร็จจะได้ดังรูปที่ 11 จะเห็นว่าโปรแกรมแนะนำว่าควรทำ Defragment      เราก็สามารถ คลิ๊กปุ่ม Defragment  ได้ทันที แต่ถ้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำ เราก็ Close ปิดโปรแกรมนี้ไป วันหลังค่อยเข้ามาวิเคราะห์ใหม่


รูปที่ 10 Disk Defragmenter ของ Windows XP



รูปที่ 11  หน้อจอเมื่อ Analyze เสร็จ


3.2  สำหรับ Windows Me ,  98 > จากรูปที่ 2 หรือรูปที่ 3  คลิ๊กปุ่ม Defragment Now… >  จะได้ดังรูปที่ 12 > รอจนเสร็จเรียบร้อย หรืออาจจะคลิ๊กปุ่ม Show Details เพื่อดูว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ (ดูเพลินดีเหมือนกัน)


รูปที่ 12 Defragmenting ของ Windows Me, 98


รูปที่ 13  เมื่อคลิ๊กปุ่ม Show Details


จากที่กล่าวมาทั้งหมด การซ่อมแซมตัวเองของคอมพิวเตอร์  ในเบื้องต้นลอง Shut Down ปกติ ดูว่าหายหรือไม่ ถ้าอาการไม่หายก็ลอง Scan Disk แบบ Standard ถ้ายังไม่หายแสดงว่าอาการหนัก ต้อง Scand Disk แบบ Thorough และทำ Defragment ถ้ายังไม่หายอีก ก็ต้องลองวิธีอื่นครับ เช่น Scan Virus , Scan Spyware

อยากให้จับตาดูว่า Windows ตัวใหม่ที่จะมาแทน Windows XP ที่ตอนแรกใช้ชื่อว่า Windows Longhorn (ลองฮอร์น)  ตอนนี้เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า Windows Vista (วิสต้า) และได้ออกเวอร์ชั่นเบต้ามาแล้ว แต่ตัวจริงน่าจะมาปี ค.ศ. 2006  จะมีการซ่อมแซมตัวเองเก่งแค่ไหน ต้องอดใจรอแต่ถ้าอยากรู้ตอนนี้ ต้องไปให้หมอลักษณ์…ฟันธง หุ ๆ   พบกันใหม่ตอนหน้า สวัสดีครับ


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที