สัมผัสแรกในแดนปลาดิบ สนามบินคันไซ

     แล้วในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ซึ่งประเทศที่ไปก็คือประเทศในฝันของผมนั่นเอง ประเทศนี้อาจเป็นประเทศที่ใครอีกหลายคนใฝ่ฝันที่อยากจะไปเที่ยว ใครหลายคนอาจเคยไปมาแล้ว ประทับใจหรือไม่ประทับใจแตกต่างกันไป แต่ครั้งแรกที่ผมเห็นภาพประเทศ­ี่ปุ่นอย่างใกล้โดยมองจากบนเครื่องบินขณะเครื่องกำลังร่อนลงจอด ที่สนามบินคันไซ จังหวัดโอซาก้า ความภูมิใจได้เกิดขึ้นอยู่ลึกๆ "ผมทำได้แล้ว" ผมดีใจมากที่ผมสามารถทำความใฝ่ฝันของผมให้สำเร็จไปขั้นหนึ่งได้ 

 

     หลังออกจากสนามบินคันไซ ผมได้สูดอากาศของประเทศ­ี่ปุ่นอย่างเต็มที่ ความแตกต่างทำให้ผมรู้สึกได้ถึงในเรื่องของอุณหภูมิของสภาพอากาศที่เย็นกว่าเมืองไทย และความสะอาดในอากาศ มันทำให้ผมรู้สึกสดชื่น ซึ่งความรู้สึกนี้อาจหาได้ยากถ้าอยู่ในกรุงเทพ ช่วงที่ไปนั่นเป็นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา และผมรู้สึกอุ่นขึ้นเมื่ออยู่ในรถรับ-ส่งที่จะพาเข้าสู่โรงแรมคันไซ รามาดา ซึ่งห่างจากสนามบินคันไซเพียงไม่กี่นาที

     
 

     สนามบินนานาชาติคันไซ สถานที่แรกที่ผมได้เยือนในครั้งแรกที่มาถึงประเทศ­ี่ปุ่น ถึงแม้เป็นเพียงสนามบินธรรมดาๆ ที่ใช้เพื่อรองรับสายการบินระหว่างประเทศ เหมือนกับสนามบินทั่วไปในประเทศอื่นๆ แต่ก็มีอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ค­นญี่ปุ่นนี่ช่างน่าทึ่งในเรื่องของความคิดจริงๆ นั่นคือ ที่ตั้งของสนามบินที่อยู่บนเกาะกลางทะเล อาจฟังดูธรรมดาเนื่องจากประเทศ­ ี่ปุ่นนั้นเป็นเกาะ ก็คงไม่แปลกถ้าสนามบินจะอยู่บนเกาะ แต่ที่แปลกคือเกาะที่ใช้สร้างสนามบินที่ว่านี้ เป็นเกาะเทียมที่เกิดจากการก่อสร้างโดยการถมทะเล ซึ่งมีความกว้าง 1 กิโลเมตรและยาว 4 กิโลเมตร โดยออกแบบป้องกันพายุใต้ฝุ่น แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์และภัยธรรมชาติอื่นๆเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการคำนวณการทรุดตัวของเกาะและอายุการใช้งานเป็นที่เรียบร้อย 

 

     การวางแผนและความคิดที่รอบครอบนี้เอง ทำให้ผมรู้สึกว่าคน­ญี่ปุ่น คิดอะไรไปไกลเกินคาด และเน้นเรื่องคุณภาพของประชากรในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศด้วย โดยยังคงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของตนไว้ จนถูกเรียกว่า "ชาตินิยมสูง"

     เพียงก้าวแรกกับสถานที่แรกในสัมผัสแรก ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมาก สำหรับก้าวที่สองใน "สัมผัสแรกในแดนปลาดิบ" นั้นจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้ที่นี่นะครับ