ข้อมูลของ Diamond Registry กล่าวถึง 3 แนวโน้มในอุตสาหกรรมเพชรของปี 2020 ไว้ ดังนี้
หนึ่ง ยอดขายเพชรชะลอตัว แต่คุณภาพสินค้ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สอง ผู้หญิงมีอำนาจในการตัดสินใจซื้อเพชรมากขึ้น
สาม ผู้ซื้อจะยังคงหลีกเลี่ยงเพชรเปื้อนเลือด
จากทั้งสามข้อเห็นได้ว่า Lab Grown Diamond (LGD) หรือ เพชรสังเคราะห์นั้นมีคุณสมบัติทั้งสามข้ออยู่อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของเพชรที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้งของ
แบรนด์ระดับเล็กไปจนถึงระดับใหญ่ ด้วยราคาของเพชรโดยเปรียบเทียบกับเพชรที่มาจากธรรมชาติต่างกันพอสมควร อำนาจซื้อก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะซื้อเพชรด้วยตัวเองมากขึ้น และที่สำคัญแนวโน้มในการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น LGD จึงเข้ามาครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่ยาก
LGD คือ เพชรสังเคราะห์ที่มีองค์ประกอบทางเคมี และคุณสมบัติทางกายภาพเหมือนกันกับเพชรที่มาจากธรรมชาติทุกประการ ความต่างมีเพียงแค่แหล่งกำเนิดเท่านั้น ความน่าสนใจของ LGD ไม่ได้เพียงแค่คุณสมบัติที่
น่าทึ่งเท่านั้น มูลค่าและแนวโน้มทางการตลาดก็น่าสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน จากการสำรวจของ MVI ในปี 2010 พบว่า มีผู้ที่รู้จัก LGD เพียงร้อยละ 9 เท่านั้น แต่ในปี 2018 กลับเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 51 เลยทีเดียว ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น ไม่เพียงแต่การรับรู้ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ทัศนคติและความสนใจซื้อยังเพิ่มขึ้น ทั้งในผู้บริโภคกลุ่ม Millennials หรือนอกกลุ่มก็ตาม นอกจากนี้แล้ว ราคาและมูลค่าของ LGD ยังเป็นปัจจัยสำคัญอย่างชัดเจนที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาตัดสินใจซื้อมากขึ้น จากการสำรวจยังพบอีกว่า ถ้าให้ทางเลือกกับผู้บริโภคในการเลือกซื้อ LGD ที่มีขนาดใหญ่กว่าเพชรธรรมชาติ มีผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อ LGD แทนถึงร้อยละ 71 และถ้าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นว่าที่เจ้าสาวจะตัดสินใจซื้อถึงร้อยละ 82 เลยทีเดียว ซึ่งรวมไปถึงสีและความสะอาดของเพชรด้วยเช่นกัน ถ้าสีและความสะอาดของ LGD ดีกว่า ก็จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจที่จะซื้อ LGD มากขึ้นด้วยเหมือนกัน ไม่เพียงแต่ราคาและมูลค่าเท่านั้นที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ใบรับรองคุณภาพก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องการด้วย โดยเกือบครึ่งของผู้บริโภคมองว่าราคาเป็นเกณฑ์สำคัญที่สุดในการพิจารณา แต่ควรมีใบรับรองว่าเพชรนั้นเป็นเพชรแท้จากแล็บควบคู่กัน
นอกจากมุมมองในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแล้ว มุมมองที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ขายก็น่าสนใจไม่ต่างกัน ในการสำรวจเดิมพบอีกว่า ผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่ม Millennials คาดหวังว่าจะสามารถเลือกซื้อ LGD ได้ในที่เดียวกับเพชรธรรมชาติ ซึ่งนับได้ว่าเป็นโอกาสดีอย่างมากสำหรับผู้ขายรายย่อย
สำหรับมูลค่าตลาดของ LGD นั้น มีทั้งการคาดการณ์จาก Morgan Stanley ที่รายงานว่า ในปี 2016 มีมูลค่าตลาดอยู่ระหว่าง 75 – 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมีมูลค่าประมาณร้อยละ 1 จากมูลค่าเพชรดิบทั่วโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในส่วนของนักวิเคราะห์จาก Citi ประมาณมูลค่า LGD อยู่ที่ร้อยละ 2 ของมูลค่าเพชรดิบ อีกทั้งยังคาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 อาจจะมีมูลค่าสูงถึงร้อยละ 10 อย่างแน่นอน
แหวนหมั้น คุณค่าที่ผู้หญิงทุกคนคู่ควร
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการพิจารณามูลค่าของเพชรจากราคา สีสัน และความสะอาดที่ดีมากยิ่งขึ้นไป ตลาดแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานสำหรับ LGD จึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก การสำรวจของ MVI ในปี 2018 ที่พบว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennials ถึงร้อยละ 66 จะพิจารณาเลือก LGD เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน และเกือบ 1 ใน 4 หรือร้อยละ 23 ตัดสินใจซื้อ LGD เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจร้านค้ารายย่อยของ MVI นั้น ค้นพบว่า กว่าครึ่งของร้านค้ารายย่อยยังไม่ได้มีการให้ความสำคัญในการนำ LGD มาวางขาย ซึ่งในมุมมองของผู้บริโภคนั้นมีรายงานสำรวจว่า ถ้าในร้านมี LGD มาวางขาย ร้อยละ 34 ของผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อทันที และร้อยละ 47 อาจจะตัดสินใจซื้อ เห็นได้ว่า การมี LGD วางขายในร้านนั้นเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่สามารถกระตุ้นการขายได้ในอีกทางหนึ่ง
เครื่องประดับแฟชั่น เข้าถึงได้ทุกช่วงวัย
ร้านค้ารายย่อยส่วนใหญ่ที่วางขายแหวนหมั้น แหวนแต่งงานที่เป็น LGD นั้น มักจะวางขายเครื่องประดับแฟชั่นที่เป็น LGD ควบคู่กันไปด้วย เพราะผู้บริโภคเองก็เปิดรับเครื่องประดับแฟชั่นที่เป็นเพชรสังเคราะห์เป็นอย่างดี จากการสำรวจของ MVI เห็นได้ว่า กว่าร้อยละ 63 ของผู้บริโภคให้ความสนใจที่จะซื้อเครื่องประดับที่เป็น LGD ถ้ามีการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อกับกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ ที่มีอยู่ร้อยละ 22 นั้น ก็จะมีผู้ที่ให้ความสนใจซื้อสูงถึงร้อยละ 85
บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือมีอิทธิพลต่อผู้อื่น อีกหนึ่งผู้ช่วยคนสำคัญ
ในภาพล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของใครหลายคนเป็นอย่างมาก ในรูปแรก เป็นนางแบบของ Victoria’s Secret ที่สวมใส่ชุดชั้นในที่ทำจาก LGD ที่มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับงานแฟชั่นโชว์ รูปถัดมา นักแสดงชื่อดัง Penélope Cruz สวมเครื่องประดับที่เป็น LGD เข้าชมงานปารีสแฟชั่นโชว์ รูปถัดมา นักแสดงสาวอีกคนที่ใส่แหวนเพชรสังเคราะห์สีชมพูที่มีขนาดใหญ่สุดในโลกขนาด 5.01 กะรัต เข้าร่วมงาน People’s Choice Awards ณ เมืองลอสแอนเจลิส และรูปสุดท้าย เจ้าแม่แห่งวงการเพลงและแฟชั่นอย่าง Lady Gaga ก็ใส่ต่างหูที่ทำมาจาก LGD ร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ในกรุงลอนดอนด้วยเช่นกัน เห็นได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้เปิดรับ LGD อย่างเป็นทางการแน่นอน ซึ่งก็จะทำให้คนที่ติดตามและให้ความสนใจในบุคคลข้างต้น ให้ความสนใจกับ LGD ด้วยอีกเช่นกัน
ด้วยหลากหลายเหตุผลและมุมมองที่เกี่ยวข้องกับ Lab Grown Diamond (LGD) หรือ เพชรสังเคราะห์ทำให้ได้เห็นแนวโน้มและความเป็นไปได้สำหรับตลาดของ LGD ทั้งในระดับโลกหรือในระดับประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นประเด็นสำหรับคนในยุคปัจจุบันอยู่พอสมควร ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกในตอนนี้ ภาพข่าวปรากฎขึ้นเกือบทุกวันที่ธรรมชาติในที่ต่างๆ ได้ฟื้นฟูเป็นอย่างมากในช่วงที่ไม่มีผู้คนไปใช้งานหรือไปท่องเที่ยว ส่วนนี้เป็นข้อได้เปรียบสำคัญของเพชรสังเคราะห์ที่ไม่มีการทำลายธรรมชาติและใช้กำลังแรงงานอย่างไม่ถูกต้องแม้แต่น้อย อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญของทั้งผู้ขายที่สามารถมีทางเลือกให้การขายที่มีต้นทุนน้อยกว่าเดิมในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และก็ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้บริโภคที่มีทางเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคา แถมได้รักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมกันไปในตัว ฉะนั้น ควรได้เวลาแล้วในการเปิดรับและให้ความสำคัญกับ Lab Grown Diamond มูลค่าที่นานวันยิ่งน่าจับตามอง ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
มิถุนายน 2563
------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
1. The-Top-3-Trends-in-Diamond-Industry-for-2020. https://www.diamondregistry.com/The-Top-3-Trends-in-Diamond-Industry-for-2020/
2. http://www.goldandtime.org/pdf/THEIGDA2019.pdf
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที