COVID-19 เป็นชื่อที่ทุกท่านได้รับรู้พบเห็นได้ในข่าวสารประจำวัน สร้างความตระหนักระคนตระหนกให้แก่ผู้คนทั่วไปต่อการแพร่ระบาดที่ขยายลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้ทุกคนหันมาใส่ใจต่อสุขภาพอนามัยในการดำเนินชีวิตมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ภาคธุรกิจชะงักงันทั้งจากภาคการผลิตที่มีวัตถุดิบต้นน้ำเชื่อมโยงกับประเทศที่มีการแพร่ระบาดและผู้บริโภคซึ่งต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค มาใช้ด้านสุขอนามัยและซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นก่อนจับจ่ายด้านอื่นๆ
Sharing Economy เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องมาจากการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิตอลและสังคมออนไลน์ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชอบความหลากหลายไม่จำเจ การเช่าเพื่อตอบสนองความต้องการในช่วงเวลาหนึ่งแทนการซื้อเพื่อถือครองในระยะยาวทั้งที่ผู้ซื้ออาจไม่ได้ใช้สินค้านั้นอีก จึงเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ลูกค้าและมีการเติบโตสูง โดยบริษัทชื่อดังที่เป็นที่รู้จักได้แก่ Uber, Grab, Airbnb, Etsy หรือ eBay เป็นต้น ข้อมูลจาก Forbes ประเมินว่า ธุรกิจ Sharing Economy ในสหรัฐอเมริกาจะมีมูลค่าถึง 335 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 เมื่อเทียบกับมูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2014 แต่ท่ามกลางโรคระบาดอย่างเช่น COVID-19 การใช้สินค้าที่มีผู้ใช้รายอื่นก่อนหน้าตัวเราย่อมสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยและเกิดความวิตกกังวล จึงกล่าวได้ว่าธุรกิจนี้เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง
Rent the Runway ธุรกิจเช่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับชื่อดัง ถือเป็นเจ้าแรกที่มีการส่งอีเมลหาลูกค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและการให้บริการ โดยแจ้งถึงมาตรการที่บริษัทใช้การอบไอน้ำด้วยความร้อนสูงถึง 248-302 องศาฟาเรนไฮต์ (120-150 องศาเซลเซียส) ในแต่ละสินค้าที่ได้รับคืนจากลูกค้าที่ใช้งาน ซึ่งตามมาตรฐานของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า การใช้ความร้อนอุณหภูมิ 167 องศาฟาเรนไฮต์ขึ้นไป (75 องศาเซลเซียส) สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ดังนั้น เสื้อผ้าทุกชิ้นจะถูกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกเพื่อป้องกันและผ่านการทำความสะอาด รวมทั้งกระเป๋า แว่นกันแดด และเครื่องประดับ รวมถึงกล่องใส่ จะถูกทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์และยาฆ่าเชื้อก่อนส่งต่อไปยังลูกค้าคนถัดไป
นอกจาก Rent the Runway แล้ว ยังมีบริษัทชั้นนำที่มีการให้เช่าเครื่องประดับออนไลน์ชื่อดัง ได้แก่ Flont, Red Carpet Rocks, Haute Vault, Switch และอื่นๆ อีกมากมาย การสร้างมาตรฐานด้านสุขอนามัยดังกล่าวจึงถือเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจ Sharing Economy ควรให้ความสนใจและสามารถลดความกังวลใจแก่ผู้บริโภคได้อีกด้วย
ทั้งนี้ มีข้อมูลจาก http://www.china.org.cn ระบุว่า ธุรกิจ Sharing Economy ในจีนนั้น ในปี 2019 มีมูลค่าการซื้อขายระหว่างกันอยู่ที่ 3.28 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 473.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อัตราการเติบโตสูงเฉลี่ยปีละ 15% แต่หลังจากเกิดการระบาดของ COVID-19 มีการคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตในปีนี้จะอยู่ที่ 8-10% และจะฟื้นตัวในช่วงปี 2021-2022 มีการประมาณว่าธุรกิจ Sharing Economy ในจีนมีผู้เกี่ยวข้องถึง 800 ล้านคน โดยเป็นผู้ให้บริการถึง 78 ล้านราย
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
มีนาคม 2563
-----------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที