นับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ มาแล้ว ที่ Pantone หน่วยงานจัดระบบการตั้งรหัสมาตรฐานสีและวิเคราะห์เทรนด์สีสากล สัญชาติอเมริกัน ได้คัดเลือกและประกาศเทรนด์สีประจำปี ซึ่งมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการผลิตสินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นวงการแฟชั่น เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงเครื่องประดับ โดยในครั้งนี้ Pantone ได้ประกาศให้สี “Classic Blue” สีน้ำเงินที่เรียบง่ายทว่าแฝงด้วยความหรูหรา ซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงความสงบและความมั่นคง ให้เป็นสีสันประจำปี 2020
สำหรับในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับนั้น นับได้ว่าค่อนข้างโชคดีด้วยมีอัญมณีสีน้ำเงินหลายชนิดสอดคล้องกับเทรนด์สีแห่งปีให้ได้เลือกซื้อเลือกหา อาทิ ไพลิน (Blue Sapphire) ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) และแทนซาไนท์ (Tanzanite) เป็นต้น โดยอัญมณีแต่ละชนิดนั้น นอกจากจะมีความงดงามตามแบบฉบับของมันแล้ว ยังมีความหมายดีๆ และความเชื่อมากมายที่เชื่อมโยงเข้ากับอัญมณีเหล่านี้อีกด้วย
เริ่มต้นกันที่ ไพลิน (Blue Sapphire) อัญมณีในตระกูลคอรันดัมเช่นเดียวกับทับทิม ชื่อของมันมีรากศัพท์มาจากคำว่า Saphirus ในภาษาละติน และ Sapheiros ในภาษากรีก ซึ่งต่างก็มีความหมายว่า ‘สีน้ำเงิน’ ไพลินเป็นอัญมณีสูงค่าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมาหลายพันปี ผู้คนในสมัยโบราณเชื่อกันว่าโลกของเรานี้ตั้งอยู่บนก้อนไพลินขนาดมหึมา เมื่อดวงอาทิตย์สาดแสงส่องลงมายังพื้นโลก จึงก่อให้เกิดการสะท้อนสีน้ำเงินกลับขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งยังมีความเชื่อว่าไพลินสามารถบำบัดรักษาอาการป่วยและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร รวมถึงโรคกระดูกและข้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ ไพลินยังเป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกันยายน รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญา ความฉลาดรอบรู้ และคำมั่นสัญญา อีกทั้งยังเป็นอัญมณีที่ถูกยกให้เป็นตัวแทนของความรักซึ่งคู่แต่งงานนิยมมอบให้กันเป็นของขวัญในโอกาสครบรอบการแต่งงานปีที่ 5, 15, 23 และ 45 อีกด้วย
ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) อัญมณีทึบแสง เนื้อแน่น ซึ่งมีความผูกพันกับอารยธรรมและความเชื่อต่างๆ มานานกว่า 6,000 ปี ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่ามันคืออัญมณีแห่งสรวงสวรรค์ จึงมักถูกนำไปใช้แกะสลักเป็นรูปเคารพของเทพองค์ต่างๆ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ นอกจากนี้ ลาพิส ลาซูลี ยังถูกใช้เป็นเครื่องรางที่เหล่าทหารโรมันนิยมพกติดตัว ด้วยเชื่อว่าจะทำให้เกิดความกล้าหาญ อีกทั้งยังเชื่อกันว่ามันสามารถช่วยรักษาเยียวยาอาการป่วยต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ความดันโลหิต และโรคหัวใจ ได้อีกด้วย
ปิดท้ายกันที่ แทนซาไนท์ (Tanzanite) อัญมณีสีน้ำเงินน้องใหม่ที่เพิ่งอุบัติขึ้นในวงการอัญมณีและเครื่องประดับเมื่อราวครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ชื่อนี้ได้รับการแต่งตั้งโดย Tiffany & Co. บริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยมาจากชื่อของประเทศแทนซาเนีย (Tanzania) ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการค้นพบพลอยชนิดนี้เป็นที่แรก
ด้วยความที่เป็นน้องใหม่ในวงการจึงไม่มีตำนานเล่าขานเฉกเช่นพลอยชนิดอื่นๆ มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นมนุษย์เราก็สามารถเชื่อมโยงความเชื่อต่างๆ เข้ากับอัญมณีชนิดนี้ได้ ด้วยเชื่อกันว่าสีน้ำเงินของแทนซาไนท์สามารถลดทอนและผ่อนคลายความตึงเครียด บรรเทาอาการปวดศีรษะ และขจัดความเศร้าหมองเซื่องซึม นอกจากนี้ มันยังถูกยกให้เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนธันวาคมร่วมกับเทอร์คอยส์ อีกด้วย และยังเป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคที่จะมอบให้เป็นของขวัญแก่คนรักและคนสำคัญในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น วันเกิด การหมั้นหมาย และวันครบรอบแต่งงาน เป็นต้น
อัญมณีในโทนสีน้ำเงินยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยโลกของเรายังมีอัญมณีสีน้ำเงินอีกมากมายให้ได้เลือกซื้อหาตามความชอบ และความพอใจ ไม่ว่าจะเป็น โทแพซ (Topaz) สปิเนล (Spinel) ไอโอไลท์ (Iolite) ไคยาไนท์ (Kyanite) เป็นต้น ซึ่งศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับจะขอนำเสนอแก่ท่านผู้อ่านในโอกาสต่อๆ ไป
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
-----------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
