"ค่ำคืนนี้มืดมน แต่ตัวฉัน ยังคงนึกเธอเสมอ"
แม้ว่าจะไร้เดือนแต่อย่างน้อยคืนนี้ยังคงมีดาว
ดวงดาวส่องแสงพร่างเป็นประกายระยับจับตา ดวงดวงคงส่องแสงอย่างนี้มามากกว่าหลายสิบชั่วชีวิตคน
ช่างเป็นเวลาการทำงานที่ยาวนานนัก กว่าดาวหนึ่งดวงจะแตกดับไป
คืนนี้คงไม่ยาวนานเท่านั้น แต่คืนนี้สำหรับผมดูเหมือนยาวนานเหลือเกิน
ผมหยิบกระป๋องเบียร์ยกขึ้นมาซดเจ้าน้ำร้ายรสขมปนหวานเข้าไปคลุกเคล้าน้ำสุคนธารสที่เข้าไปรออยู่แล้วเมื่อตอนหัวค่ำ
อากาศรอบๆ ตัวผมซึ่งนั่งอยู่บนแคร่ไม้ด้านนอกกระต๊อบที่พักค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้ผมต้องรีบกระชับเสื้อกันหนาวให้แนบสนิทกับตัวมากยิ่งขึ้น และเร่งกระดกฟองเบียร์เข้าไปเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย
บรรยากาศที่เงียบสงบแลวังเวงทำให้อาการกลัวผีของผมผลิขึ้นมาอย่างกระทันหัน
เหลียวซ้ายแลขวาล้วนมืดและเหมือนมีเงาทะมึนๆ ซุ่มดูอยู่ แม้จะเป็นจริตที่วิตกไปเองแต่ความกลัวผีไม่เคยปราณีใคร แต่ผมยังคงกลั้นใจนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ใช่เพราะไม่กล้าลุก แต่เพื่อพิสูจน์ว่า ผมไม่กลัว
ผมเงยหน้ามองฟ้า ท้องฟ้ายามรุ่งสางมืดมิดสนิทดำเป็นสีนิลเหมือนเข้าไปในโรงภาพยนต์ใหม่ๆ
ดวงดาวกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดสนิท ผมผินหน้าหันไปทางซ้าย
ไม่มีเธอคนนั้นนั่งอยู่ ผมรู้สึกอ้างว้างปนเศร้าเล็กน้อย
ผมยกกระป๋องเบียร์ ขึ้นมากระดกอีกครั้ง แล้วคิดว่าผมมานั่งทำเท่อะไรอยู่ตรงนี้กันนะ
อ้อ พอดีเมื่อช่วงหัวค่ำ ร่ำสุรามากไปหน่อย ความจริงก็ไม่หน่อยหรอกนะ ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาดึกดื่นอย่างนี้ ไตเจ้ากรรมคงไม่เริ่มขับน้ำร้ายส่วนเกินออกมาเพื่อลดทอนการทำร้ายตับเพื่อนรักของมันไม่ไห้ถูกทำร้ายอีกต่อไปอย่างนี้หรอก แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกันเพราะ นานเท่าใดแล้วนะที่ผมไม่ได้มานั่งเหม่อมองดูมวลหมู่ดาว เงียบๆ คนเดียวอย่างนี้
คิดถึงสมัยที่เรานอนดูดาวด้วยกันกลางป่าสมัยเป็นนักเรียนรักษาดินแดนนะ
ผมยกกระป๋องเบียร์ ขึ้นมากระดกอีกครั้ง
แล้วนึกถึงราคาของมัน ราคาที่เป็นเงินเยน
ผมคิดถึงรสชาติของเบียร์ญี่ปุ่นยี่ห้อ ต่างๆ ที่ผมเสาะหาเอามาโลมลิ้นตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เมื่อผมก็คิดถึงราคาของมันที่เป็นเงินเยนแล้วแปลงกลับเป็นค่าเงินไทยก็ทำให้ความหวานปนขมของเจ้าน้ำร้ายที่บ่อนทำลายเซลล์สมองส่วนซีรีเบลลัมนั้นลดทอนความหวานลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ชาวญี่ปุ่นได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลก แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยใส่ใจเรื่องมารยาทในการสูบบุรี่ ซึ่งต่างก็รู้กันดีว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผมพบเจอประจำทั้งหญิงและชายที่พากันอัดนิโคตินเข้าสู่ถุงลมทั้งยามเช้า สาย บ่ายและย่ำค่ำ
นั่นอาจเป็นเพราะว่า
เวลาพักระหว่างทำงานสำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว คงมีแต่
1. สูบบุหรี่หนึ่ง
2. ไปเข้าห้องน้ำหนึ่ง
ยังจำที่เจ้าถั่วเล่าได้ไหมละว่าบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย(บางบริษัท) ที่มันไปทำแล้ว มันไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เลยโดยบ่นปรอยๆ ว่า ทำไมเข้าห้องน้ำบ่อยจัง สงสัยเค้าจับได้ว่ามันไปแอบหลับในห้องน้ำ 555
คุณลักษณะที่เคารพกฎเกณฑ์ของชาวญี่ปุ่นนั้นแสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดที่สุดก็ในการทำงานนี้เอง ชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานสาย กลับบ้านเร็ว หรือโดดงานนั้นมีอยู่น้อยมาก
นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นยังสามารถปฏิบัติงานตามขั้นตอนการทำงานที่ถูกกำหนดไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแล้วคุณลักษณะของชาวญี่ปุ่นที่ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบเช่นนี้นั้น เปรียบเสมือนอาวุธอันทรงอานุภาพที่จะช่วยให้พวกเขาเอาชนะประเทศอื่นได้ในสมรภูมิการค้าระหว่างประเทศ[1] ผมหันไปมองนาฬิกาเรือนโตที่แขวนอยู่ที่ผนังด้านหลังออฟฟิส อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลารถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้วสินะ จำได้ว่า ผมเคยเจอคนเมาสามคนล้อมวงกันฉี่กลางท้องถนนในซอยเล็กๆ มาแล้ว ประทับใจมาก ทำให้นึกถึงคืนวันที่เราเมากลิ้งด้วยกันแล้วไปยืนฉี่เรียงแถวหน้าตึกคณะ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นการทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นก็ตาม แต่ในยามที่ดื่มเหล้าเข้าไปเช่นนี้ ชาวญี่ปุ่นจะยอมรับได้ว่านี้คือพฤติกรรมของคนที่ตกอยู่ในอาการเมา ดังนั้นคนรอบข้างจึงไม่ค่อยถือสาหาความเท่าใดนัก
สรุปได้ว่า ชาวญี่ปุ่นเป็นคนใจกว้างในเรื่องการดื่มสุราและการสูบบุหรี่[1]
ผมยกกระป๋องเบียร์ ขึ้นมากระดกอีกครั้ง
เมื่อผมนึกถึงการกระทำและคำพูดของเธอคนนั้นแล้วมันทำให้ดวงดาวดูเบลอๆ อย่างไรชอบกลอยู่ แสงดาวส่องแสงกระจ่างตาคล้ายสายตาของเธอยามที่ผมเฝ้ามองอยู่ลำพัง เอ ดวงดาวหรือผมกันนะที่กำลังร่ำไห้ แต่คงไม่ใช่ผมเพราะผมกำลังร่ำเบียร์ให้หัวใจแข็งกระด้างไปพร้อมกับตับเพื่อให้มันร้องไห้ไม่ออกในคืนที่หนาวเหน็บทั้งกายและใจเช่นคืนนี้ [1] นี่ละ! คนญี่ปุ่น อัจฉรา โหตรภวานนท์ และ อุภาวรรณ เบ็ญจโภคี ชาวญี่ปุ่นไม่ถือสาเรื่องการดื่มสุราและการสูบบุหรี่ หน้า 147 -149
ณ ขณะนี้ ผมรู้เพียงแต่ว่า ผมอยากให้เธอคนนั้นมานั่งอยู่ด้วยกันอยู่ข้างๆ และมองกลุ่มดาวต่างๆ บนฟ้าเดียวกันตอนนี้เหลือเกิน
เธออาจจะมองหมู่ดาวแต่ผมคงจะแอบชำเลืองมองเธอเหมือนเช่นที่เฝ้ามอง(ไกลๆ)มาโดยตลอด
ทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำไปโดยปริยาย
ห้าทุ่มกว่าๆ เกือบเที่ยงคืน ผมเดินออกจากบริษัทอย่างมึนๆ เพื่อมาขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย ผมพยายามถามตัวเองหลายครั้งแต่ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดว่าแท้จริงแล้วคำตอบควรเป็นเช่นใดแน่ คำถามของปัญหาจากการงานที่ยังแก้ไม่ตกยังคงบินวนเวียนอยู่ในสมองที่อ่อนล้าของผมและดูเหมือนว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องการคำตอบจากผมให้ได้ภายในพรุ่งนี้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องประชุมเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น แต่ก็นั้นละผมจะทำอย่างไรได้เมื่อ การงานคือชีวิต และชีวิตคือการงาน
และได้แต่เพียงบอกตัวเองว่า อย่าลืมความผิดพลาดในวันนี้อย่างเด็ดขาด
ร่างกายที่อ่อนล้าและอ่อนแรงจากการงานมากกว่า 14 ชั่วโมงเริ่มทำให้กล้ามเนื้อขาแขนของผมเริ่มปวดร้าว
ขอเพียงเบียร์คำแรก! ให้มันชำแรกผ่านเส้นเลือดไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น - ผมคิด
ร่างกายของผมผ่อนคลายขึ้นมาทันทีที่ความร้อนของแอกอฮอล์เข้าไปทำให้เลือดในกายผมอุ่นขึ้น แต่สมองของผมเริ่มไม่ทำงานตามปกติแต่ก็เข้าทางผมพอดีเพราะทำให้ผมเริ่มลืมเลือนเรื่องในห้องประชุมไปได้
ขอเพียงผมไม่สลบหลับไปก่อนออกจากสถานีปลายทางและประคับประคองร่างกายอันอ่อนล้าไปพับยู่ยี่บนเตียงนอนได้แค่นี้ผมก็พอใจแล้วสำหรับราคาเบียร์ที่จ่ายไปในคืนนี้
ผมแอบยกกระป๋องเบียร์ ขึ้นมากระดกเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเบียร์ตรากิเลนที่ราคามันแพงกว่าที่เมืองไทยมากนั้น แต่ปรากฎว่ารสชาติของมันช่างกระด้างตุ่มรับรสที่ปลายลิ้นและเฝื่อนคอยิ่งนัก เพียงแต่ผมต้องพึ่งพามันเพื่อให้ผ่านคืนนี้ไปอย่างไร้สติเท่านั้นเอง
และได้ย้ำบอกตัวเองว่า อย่าลืมความผิดพลาดในวันนี้อย่างเด็ดขาด !! และพรุ่งนี้ต้องไปให้ทันประชุมตอนเช้าพร้อมๆ กับคำตอบที่ทุกคนต้องการ
อย่างไรก็ตามอย่างน้อยค่ำคืนนี้ขอผมเห็น เรือนร่างสูงโปร่งส่องประกายส้มของโตเกียวทาวเวอร์ให้ชื่นใจสักสองกระป๋องเบียร์ก็จะดียิ่งขึ้นในคืนที่มืดมนสนิทเช่นนี้ เผื่อว่าบางทีประกายของเธออาจทำให้ผมซาโตริเห็นทางสว่างสำหรับพรุ่งนี้ที่มืดมนของผมก็ได้
มีผู้รู้ท่านหนึ่งบอกผมว่า ทุกๆ ครั้งที่คนเราดื่มของมึนเมาเข้าไปมันไม่ได้เพียงแต่ทำลายสมองของเราโดยตรงเท่านั้นแต่มันยังทำลายสติของคนเราอีกด้วย
สติที่ควรจะมีไว้เพื่อเป็นจุดเริ่มแห่งปัญญา แต่คนเรากลับดื่มของมึนเมาเพื่อทำลายสติ ถ้าอย่างนั้นแล้ว ปัญญาจะกำเนิดเกิดมาจากที่ใด แต่ห้วงยามนาทีนี้ผมคงต้องดับสติผมก่อนด้วยแอลกอฮอล์เพราะผมอ่อนล้าเหลือเกินแล้วจริงๆ
หรือบางทีผมอาจจะเมาจนเผลอหลับไประหว่างนั่งชมเธอ(โตเกียวทาวเวอร์) แต่ก็คงไม่แปลกอะไร
เพราะชาวญี่ปุ่นมักใจกว้างในเรื่องการดื่มสุราด้วยเช่นเดียวกันกับการสูบบุหรี่ จนอาจกล่าวได้ว่า พอตกกลางคืนก็จะต้องมีคนที่เมามายอยู่ตามท้องถนนหรือบนรถไฟอย่างแน่นอน ในการรับรองลูกค้า ชาวญี่ปุ่นมักจะถือโอกาสดื่มอย่างเต็๋มที่ จนกระทั่งเกินขีดความสามารถของตนเอง บุคลิกภาพจะเปลี่ยนไปกลายเป็นคนอารมณ์ดี ส่งเสียงดังหรือล้อเลียนผู้อื่น
เฮ่อ ทำไปได้นะ
ผมถอนหายใจและยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมากระดกเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับเบียร์ไฮเนเก้นกระป๋องนี้กลายเป็นตัวช่วยผมได้อย่างยิ่งทีเดียวที่จะทำให้ผมกลับไปนอนหลับได้สนิทโดยไม่ต้องคิดถึงใบหน้าเธอและเข้าใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอ
แล้วผมก็เริ่มฮึมฮัมเพลงฮิตติดตัว ส่งสำเนียงอ้อแอ้ งึมๆ งัมๆ ไปกับเพลง ฉันไม่ใช่ ของ เดอะซัน
" ฉันมันไม่ใช่คนที่เธอต้องการ
ไม่ใช่คนในฝันที่เธอเฝ้ารออยู่
ฉันเข้าใจ(ฉันไม่ใช่)
ต้องยอมปล่อยเธอไป
หากเป็นเราก็คงจะเหมือนกัน ไม่รักก็จากไป "
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที