สถานการณ์นำเข้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-ตุลาคม 2562
การนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2562 มีมูลค่า 14,126.39 ล้านเหรียญสหรัฐ (324,427.47 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 27.90 (ร้อยละ 34.01 ในหน่วยของเงินบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 เป็นการนำเข้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบ และกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการนำเข้าทองคำฯ ซึ่งลดลงมากถึงร้อยละ 45.27 อันเป็นผลจากราคาทองคำฯ ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2562 เติบโตสูงถึงร้อยละ 37.59 (ร้อยละ 34.01 ในหน่วยของเงินบาท) หรือมีมูลค่า 13,974.58 ล้านเหรียญสหรัฐ (434,752.85 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีมูลค่า 10,156.54 ล้านเหรียญสหรัฐ (324,427.47 ล้านบาท) นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 3 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.70 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ เมื่อหักทองคำออก การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 6,900.81 ล้านเหรียญสหรัฐ (214,778.72 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 6.24 (ร้อยละ 3.43 ในหน่วยของเงินบาท)
รายการ |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) |
||
ม.ค.-ต.ค. 61 |
ม.ค.-ต.ค. 62 |
ม.ค.-ต.ค. 61 |
ม.ค.-ต.ค. 62 |
||
มูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด |
10,156.54 |
13,974.58 |
100.00 |
100.00 |
37.59 |
หัก มูลค่าส่งออกทองคำฯ |
3,660.74 |
7,073.77 |
36.04 |
50.62 |
93.23 |
คงเหลือมูลค่าการส่งออกที่ไม่รวมทองคำฯ |
6,495.80 |
6,900.81 |
63.96 |
49.38 |
6.24 |
หัก มูลค่าสินค้าส่งกลับจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และอื่นๆ |
418.35 |
443.04 |
4.12 |
3.17 |
5.90 |
คงเหลือมูลค่าส่งออกสุทธิ |
6,077.45 |
6,457.77 |
59.84 |
46.21 |
6.26 |
เมื่อแยกพิจารณาการส่งออกในรายผลิตภัณฑ์สำคัญพบว่า
ตลาด/ภูมิภาคสำคัญในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำ) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 คือ ฮ่องกง ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.82 ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า และสถานการณ์การประท้วงที่ยืดเยื้อและเพิ่มความรุนแรง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในฮ่องกงลดลง กระทบต่อร้านค้าปลีกที่ต้องปิดตัวลงหลายแห่ง ผู้นำเข้าฮ่องกงจึงลดการนำเข้าจากไทยลง ส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าหลักอย่างเพชรเจียระไน และสินค้าสำคัญถัดมาอย่างเครื่องประดับทอง ได้ลดลง ส่วนสินค้าที่ยังเติบโตได้ในตลาดนี้ คือ พลอยเนื้อแข็งเจียระไน
มูลค่าการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปลดลงร้อยละ 3.54 เป็นผลมาจากการส่งออกไปยังเยอรมนี และเบลเยียม ตลาดใน 2 อันดับแรกซึ่งมีสัดส่วนรวมกันราวครึ่งหนึ่งได้ลดลงร้อยละ 30.78 และร้อยละ 5.25 ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังเยอรมนีเป็นเครื่องประดับเงิน ในสัดส่วนเกือบร้อยละ 80 หดตัวลงร้อยละ 23.47 ส่วนสินค้าหลักส่งออกไปยังเบลเยียมเป็นเพชรเจียระไน ลดลงร้อยละ 5.81 สำหรับตลาดที่เติบโตได้ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ อิตาลี และสหราชอาณาจักร ขยายตัวได้ 1.25 เท่า และร้อยละ 13.33 ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังอิตาลีและสหราช-อาณาจักรเป็นเครื่องประดับทอง ที่เติบโตได้เป็นอย่างดี
การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาลดลงร้อยละ 7.61 ส่วนหนึ่งยังคงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เริ่มอ่อนแอลงจากผลกระทบของสงครามการค้า ผู้บริโภคจึงระมัดระวังการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย โดยการส่งออกเครื่องประดับเงิน ซึ่งเคยเป็นสินค้าหลักในปีที่ผ่านมาและเครื่องประดับทอง ซึ่งเป็นสินค้าหลักส่งออกในปีนี้ ต่างมีมูลค่าลดลงร้อยละ 23.82 และร้อยละ 3.86 ตามลำดับ ส่วนการส่งออกพลอยเนื้อแข็งเจียระไนและเพชรเจียระไน ยังสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 13.76 และร้อยละ 11.07 ตามลำดับ
มูลค่าการส่งออกไปยังญี่ปุ่นปรับตัวลดลงร้อยละ 6.54 จากการส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการได้ลดลงไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทอง เพชรเจียระไน และเครื่องประดับเงิน ที่ล้วนมีมูลค่าลดลงร้อยละ 0.99, ร้อยละ 39.85 และร้อยละ 20.48 ตามลำดับ
ส่วนการส่งออกไปยังจีนลดลงร้อยละ 23.31 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการบริโภคลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้า ทำให้ไทยส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการไปยังจีนได้ลดลงทั้งสินค้าหลักอย่างเครื่องประดับเงิน และสินค้าสำคัญรองลงมาอย่างพลอยเนื้อแข็งเจียระไน และเครื่องประดับทอง ที่ต่างหดตัวลงร้อยละ 10.08, ร้อยละ 57.58 และร้อยละ 65.91 ตามลำดับ
ส่วนการส่งออกไปยังประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกมีมูลค่าลดลงร้อยละ 23.33 จากการส่งออกไปยังออสเตรเลีย ตลาดหลักอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคนี้ ได้ลดลงถึงร้อยละ 26.85 เนื่องจากการส่งออกเครื่องประดับเงิน ในสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งได้ลดลงมากถึงร้อยละ 34.60 รวมถึงสินค้ารองลงมาอย่างเครื่องประดับทอง ก็หดตัวลงร้อยละ 22.67 ส่วนการส่งออกไปยังนิวซีแลนด์ ตลาดในอันดับ 2 เติบโตได้ร้อยละ 15.03 อันเป็นผลจากการส่งออกเครื่องประดับเงิน ในสัดส่วนเกือบร้อยละ 60 และสินค้าสำคัญถัดมาอย่าเศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่าได้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 17.69 และร้อยละ 3.23 ตามลำดับ
การส่งออกไปยังรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชปรับตัวลดลงร้อยละ 65.74 เป็นผลจากการส่งออกไปรัสเซีย ตลาดที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดราวร้อยละ 78 และยูเครน ตลาดในอันดับ 3 ได้ลดลงร้อยละ 69.37 และร้อยละ 83.24 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปยังรัสเซียที่ลดลง เป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและความไม่มั่นคงในรัฐภูมิศาสตร์ ผู้บริโภคจึงลดการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย และเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะทองคำเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ไทยส่งออกเครื่องประดับเงิน ซึ่งเคยเป็นสินค้าหลักในปีที่ผ่านมาลดลงเกือบเท่าตัว ในขณะที่ไทยส่งออกทองคำไปยังตลาดนี้เป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของการส่งออกไปยังรัสเซียทั้งหมด รวมถึงเพชรเจียระไน ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.16 และ 5.55 เท่า ตามลำดับ ส่วนตลาดยูเครนนั้น ไทยส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการไปได้ลดง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับเงิน อัญมณีสังเคราะห์ พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน และเครื่องประดับทอง ที่ต่างมีมูลค่าหดตัวลงมาก ในขณะที่การส่งออกไปยังอาร์เมเนีย ตลาดในอันดับ 2 ยังเติบโตได้ดีกว่า 1.04 เท่า เนื่องจากการส่งออกสินค้าหลักอย่างพลอยเนื้ออ่อนและพลอยเนื้อแข็งเจียระไนได้เพิ่มขึ้นกว่า 3.79 เท่า และร้อยละ 55.39 ตามลำดับ อีกทั้งเพชรเจียระไน สินค้าลำดับถัดมาก็มีมูลค่าสูงขึ้นกว่า 1.09 เท่า
สำหรับการส่งออกไปยังอินเดีย อาเซียน และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เติบโตได้ร้อยละ 98.25, 1.98 เท่า และร้อยละ 0.95 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปยังอินเดียส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบอย่างเพชรเจียระไน พลอยก้อน พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน โลหะเงิน และพลอยเนื้อแข็งเจียระไน ที่ต่างขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 22.67, 6.44 เท่า, 5.73 เท่า, 3.80 เท่า และร้อยละ 40.42 ตามลำดับ
มูลค่าการส่งออกไปยังอาเซียนเพิ่มขึ้นกว่า 1.98 เท่า จากการส่งออกไปยังสิงคโปร์ และกัมพูชา ตลาดใน 2 อันดับแรก ได้สูงกว่า 3.06 เท่า และ 1.46 เท่า ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังสิงคโปร์เป็นเศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่า รองลงมาเป็นเครื่องประดับเทียม และเครื่องประดับทอง ซึ่งเติบโตได้ 112.17 เท่า, ร้อยละ 13.09 และร้อยละ 3.37 ตามลำดับ ส่วนสินค้าหลักส่งออกไปยังกัมพูชาเป็นเพชรเจียระไน สินค้าสำคัญรองลงมาเป็นเครื่องประดับทอง มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 1.13 เท่า และ1.87 เท่า ตามลำดับ ส่วนการส่งออกไปยังมาเลเซีย ตลาดในอันดับ 3 หดตัวลงร้อยละ 13.22 เนื่องจากการส่งออกสินค้าหลักอย่างเครื่องประดับเงิน และสินค้าสำคัญลำดับถัดมาอย่างพลอยเนื้อแข็งเจียระไน และเพชรเจียระไน ได้ลดลง ในขณะที่เครื่องประดับทองยังเติบโตได้ในตลาดนี้ร้อยละ 35.70
ส่วนการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.95 จากการส่งออกไปยังสหรัฐ-อาหรับเอมิเรตส์ ตลาดอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคนี้ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.85 จากการส่งออกสินค้าสำคัญอย่างเพชร-เจียระไนได้เพิ่มขึ้นกว่า 1.18 เท่า ในขณะที่สินค้าหลักอย่างเครื่องประดับทอง ยังคงปรับตัวลดลงร้อยละ 3.78 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมและทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปีในเดือนสิงหาคม ทำให้ความต้องการเครื่องประดับทองของชาวยูเออีลดลง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2562 ความต้องการเครื่องประดับทองลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ส่วนการส่งออกไปยังกาตาร์ ตลาดในอันดับ 3 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.35 จากการส่งออกเครื่องประดับทอง สินค้าหลักในสัดส่วนราวร้อยละ 97 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.26 ส่วนการส่งออกไปยังอิสราเอล ตลาดในอันดับ 2 หดตัวลงร้อยละ 4.99 เนื่องจากการส่งออกสินค้าหลักทั้งเพชรเจียระไนและเพชรก้อนได้ลดลงร้อยละ 6.04 และร้อยละ 6.44 ตามลำดับ
ประเทศ/ภูมิภาค |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง |
||
ม.ค.-ต.ค. 61 |
ม.ค.-ต.ค. 62 |
ม.ค.-ต.ค. 61 |
ม.ค.-ต.ค. 62 |
(ร้อยละ) |
|
ฮ่องกง |
1,852.61 |
1,781.91 |
28.52 |
25.82 |
-3.82 |
สหภาพยุโรป |
1,405.44 |
1,355.62 |
21.64 |
19.64 |
-3.54 |
สหรัฐอเมริกา |
1,154.62 |
1,066.76 |
17.77 |
15.46 |
-7.61 |
อินเดีย |
283.12 |
561.29 |
4.36 |
8.13 |
98.25 |
อาเซียน |
183.05 |
545.56 |
2.82 |
7.91 |
198.03 |
กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง |
467.43 |
471.89 |
7.20 |
6.84 |
0.95 |
ญี่ปุ่น |
195.61 |
182.81 |
3.01 |
2.65 |
-6.54 |
จีน |
238.13 |
182.63 |
3.67 |
2.65 |
-23.31 |
ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก |
165.51 |
126.89 |
2.55 |
1.84 |
-23.33 |
รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช |
53.17 |
18.22 |
0.82 |
0.26 |
-65.74 |
อื่นๆ |
497.10 |
607.23 |
7.65 |
8.80 |
22.16 |
รวม |
6,495.80 |
6,900.81 |
100.00 |
100.00 |
6.24 |
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที