คนึงนิจ

ผู้เขียน : คนึงนิจ

อัพเดท: 28 ต.ค. 2021 17.19 น. บทความนี้มีผู้ชม: 515135 ครั้ง

รวมเรื่องน่ารู้ทางการเงิน สินเชื่อ SME สินเชื่อเพื่อธุรกิจ สินเชื่อบุคคล ในเวอร์ชั่นที่อ่านง่ายสุดๆ


สอนมือใหม่ อยากเริ่มเล่นหุ้น ลองเทรดหุ้น ศึกษาหุ้น เริ่มแรกต้องทำยังไง ตามมาดูกัน

อยากเล่นหุ้น

เล่นหุ้นต้องทำยังไง เริ่มอย่างไร แล้วมีอะไรที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้ก่อนลงทุนในหุ้นบ้าง? อ่านบทความนี้แล้วไปเปิดพอร์ตเทรดหุ้นกันได้เล้ย

 

เปิดบัญชีหุ้นต้องทำยังไง

1. เลือกโบรคที่จะเปิดบัญชีหุ้นด้วย โดยอาจจะเลือกจากโบรคหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่รู้จัก หรือที่มีคนแนะนำก็ได้ ซึ่งการเลือกโบรคเปิดบัญชีหุ้นก็มีความสำคัญในแง่ของ บริการ ค่าธรรมเนียม และที่สำคัญต้องตรวจสอบด้วยว่าโบรคที่เลือกมีตัวตนและได้รับอนุญาให้ดำเนินธุรกิจถูกต้องหรือไม่

2. เมื่อเลือกโบรคเปิดพอร์ตหุ้นได้แล้ว ก็ติดต่อเข้าไปเพื่อเปิดพอร์ต และจัดเตรียมเอกสารต่างๆ โดยส่วนมากมักประกอบด้วยเอกสารสำคัญๆ ดังนี้

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

- สำเนาทะเบียนบ้าน

- สำเนาหน้า Book Bank 

- ค่าอากรณ์แสตมป์ 30 บาท (ถ้ามี)

- เอกสารอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้เตรียม เช่น เอกสารชุดเปิดบัญชี เป็นต้น

3. ส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเปิดพอร์ตหุ้นให้ อาจใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ ก็จะได้รับอีเมล์แจ้ง Username และ Password ก็เริ่มเทรดกันได้เลย

 

จะทำกำไรจากหุ้นได้อย่างไรบ้าง

ผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นเกิดจาก 2 ส่วนได้แก่ ส่วนต่างจากราคาซื้อ-ขายหุ้น และอีกส่วนหนึ่งมาจากเงินปันผลที่บริษัทปันผลออกมาให้แก่นักลงทุนตามนโยบายของแต่ละบริษัท ได้แก่

1. เล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไร - มักหมายถึงนักลงทุนในหุ้นระยะสั้น อาศัยความผันผวนของราคาหุ้นเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ และขายเมื่อหุ้นมีราคาที่สูงขึ้น 

2. เงินปันผล - ผลตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ เช่น หุ้น ABC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1 บาท และถ้านักลงทุนมีหุ้น ABC อยู่ 10,000 หุ้น ก็จะได้ปันผลอยู่ที่ 10,000 บาท นั่นเอง 

 

เล่นหุ้นต้องมีขั้นต่ำไหม

ผู้ลงทุนสามารถซื้อเศษหุ้น หรือที่เรียกว่า Odd Lot ได้ ทำให้การเล่นหุ้นไม่ต้องมีจำนวนเงินขั้นต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการซื้อหุ้นที่มีราคา 25 บาท จำนวน 20 หุ้น คุณก็สามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเพียง 500 บาท ก็ได้ 

 

หุ้นขึ้น-ลงเกิดจากสาเหตุอะไร

ปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้นให้มีความผันผวนหรือการขึ้นลงของราคาหุ้น ได้แก่ 2 ปัจจัย คือ

1. ผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดว่าจะได้รับ โดยเมื่อนักลงทุนมีการคาดการณ์เกี่ยวกับผลตอบแทนที่อาจจะได้รับในการลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆ เช่น คาดการณ์ว่าผลตอบแทนของหุ้น ABC จะสูง ก็จะทำให้นักลงทุนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อหุ้น ABC มากขึ้น ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย เป็นต้น

2. ความเสี่ยงในการลงทุน ในทางกลับกันหากนักลงทุนมองว่าการลงทุนในหุ้น ABC มีความเสี่ยงมาก ทำให้นักลงทุนไม่ยอมจ่ายเงินในราคาปัจจุบันเพื่อซื้อหุ้น ABC ก็จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาได้นั่นเอง 

 

สำหรับใครที่อยากเล่นหุ้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลของบริษัทที่สนใจจะลงทุนให้ดีเพื่อใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์การลงทุนให้ถี่ถ้วน ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นได้มากกว่าอีกด้วย 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที