ประกันรถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่ผู้ที่ออกรถใหม่ทุกคนจะให้ความสนใจในการทำเป็นอย่างยิ่งนะครับ เนื่องมาจากว่า การใช้รถใช้ถนนในปัจจุบันนั้น ย่อมมีความเสี่ยงในการใช้งานอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราตั้งใจขับดีมากๆ เราก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า รถของเราจะไม่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากในชีวิตประจำวันของเราก็มีผู้ร่วมทางอยู่เป็นจำนวนมากนะครับ หรือการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อุบัติเหตุต่างๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถึงแม้จะมีเลขทะเบียนรถมงคล ช่วยสร้างความปลอดภัย มั่นคง ก็อาจจะไม่สามารถช่วยได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ การทำประกันภัยรถยนต์ จึงถือเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญ เพราะว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงของผู้ใช้งาน ใช้รถใช้ถนน ไปอยู่ที่บริษัทประกันภัย ในการช่วยเหลือ ชดใช้ค่าเสียหายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนั่นเองนะครับ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในการทำเป็นอย่างมาก ในเรื่องของความคุ้มค่าในการเคลมประกัน เมื่อเกิดเหตุต่างๆ ถึงแม้ว่าเบี้ยประกันชั้น 1 จะค่อนข้างสูงกว่าเบี้ยประกันประเภทอื่นๆ แต่ก็สามารถแลกมาด้วยความคุ้ม และความสบายใจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้รับความนิยมนะครับ แล้วถ้าหากเด่นที่เรื่องการเคลม ในปัจจุบันการเคลมมีมีแบบทำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามาดูกันเลย
1. เคลมแห้ง เป็นการเคลมประกันรถยนต์ สำหรับรถที่เกิดเหตุมานานแล้ว แต่เพิ่งมาแจ้งเหตุกับบริษัทประกันภัยนั่นเองครับ เช่น มีรอยขูดขีด เนื่องจากการเฉี่ยวชน เป็นต้น โดยปกติแล้ว การเคลมแห้งมักจะเป็นการเคลมโดยไม่มีคู่กรณี ซึ่งจะทำให้ผู้เคลมประกันเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บางครั้งอาจจะเป็นความประมาทของเรา บางครั้งอาจจะเป็นเพราะคนอื่นถอยมาชนบ้าง สาเหตุอื่นบ้าง ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุและมีคู่กรณี คุณก็ควรรีบโทรแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยในทันที พร้อมทั้งขอข้อมูลของพนักงานที่จะมาเคลมให้ด้วย เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อกลับ เพื่อที่คุณจะได้ตามงานได้สะดวกครับ
2. เคลมสด หมายถึง เคลมที่รถชนกัน ณ ที่เกิดเหตุ และยังมีผู้เสียหายในเหตุการณ์รอพนักงานเคลมอยู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งการเคลมประเภทนี้ ผู้ขับขี่จะได้รับใบหลักฐานเพื่อใช้การติดต่อเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะนำรถไปซ่อมศูนย์ครับ
3. เคลมความเสียหาย เป็นการเคลมที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆ หรือเกิดขึ้นนานแล้ว แต่เสียหายมากและเพิ่งมาแจ้งเหตุครับ เช่น รถเสียหายจนขับไม่ได้นานมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่เพิ่งมาแจ้งเหตุ ทั้งนี้ ในระหว่างการเคลมนั้น พนักงานเคลมจะสอบถามข้อมูลต่างๆ ของผู้ขับขี่และคู่กรณี พร้อมทั้งให้คุณสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าใครถูกใครผิด ซึ่งตรงนี้ ทั้งตัวคุณและคู่กรณีควรที่จะให้ความร่วมมือกับพนักงานครับ ต่อจากนั้น พนักงานก็จะถ่ายรูปตัวรถ สถานที่เกิดเหตุ เป็นต้น จากนั้น เมื่อเคลมเสร็จแล้ว พนักงานเคลมก็จะสรุปผลทั้งหมดและให้ข้อมูลว่าคุณจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้าง ต้องนำรถไปซ่อมที่ไหน พร้อมทั้งสรุปค่าใช้จ่ายที่อาจจะมีเพิ่มเติม และพนักงานเคลมก็จะให้ใบเคลมเพื่อใช้ในการยื่นกับทางอู่หรือศูนย์ที่รับซ่อมครับ
เมื่อทราบข้อมูลประกันภัย และวิธีลักษณะการเคลมเรียบร้อยแล้ว ก็ลองหาขข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทำการสมัครประกันได้เลยนะครับ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที