คนที่เป็นวิศวกรที่ทำเกี่ยวกับเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้าน หรือการสร้างบ้านก็ตาม คงจะรู้จักเทคโนโลยี หรือวัสดุชนิดนี้ดี นั่นก็คือ ไมโครไพล์ แต่สำหรับคนที่เป็นคนทั่วไปไม่ได้เป็นช่าง ก็มักจะได้ยินเสมอ ในคนที่ทำบ้าน หรือแก้ปัญหาบ้าน ก็มักจะพูดถึงเรื่องนี้กันทั้งนั้น
เราลองมาดูว่ามันหมายถึงอะไร และมันจำเป็นต่อการซ่อมแซมบ้าน หรือการสร้างบ้านของเราอย่างไร เพื่อที่ว่าเราจะได้เอามาใช้กับบ้านของเราบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาที่หลัง เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนนั่นเอง
ไมโครไพล์ ถ้าเราจะแปลตรงตัวเลย ก็คือ ไมโคร แปลว่า เล็ก ไพล คือ เสาเข็ม เมื่อมารวมกันก็คือเสาเข็มขนาดเล็กนั่นเอง บางคนอาจจะงงว่า เสาเข็มชนิดนี้มันจะสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับบ้านทรุดได้อย่างไร หรืออาจจะงงว่ามันจะตอกลงไปได้อย่างไร เพราะเสาเข็มส่วนใหญ่ เขาต้องทำเป็นอันดับแรกของการสร้างบ้านเลย
แต่นี่มาตอกทีหลัง มันเป็นไปได้ด้วยหรือ สำหรับเสาเข็มชนิดนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อที่จะใช้แก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านทรุด บ้านร้าว เพราะไม่มีเสาเข็ม หรือเสาเข็มเดิมไม่แข็งแรงเพียงพอก็ตาม การใช้การตอกเสาวิธีนี้ทีหลัง สามารถที่จะแห้ปัญหาพวกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับที่เราตอกเสาเข็มให้ดีในครั้งแรกนั่นเอง
สิ่งที่หลายๆคนกังวล เกี่ยวกับเรื่องการใช้ ไมโครไพล์ นั่นก็คือ เรื่องของค่าใช้จ่าย ถึงแม้จะเป็นเสาเข็มที่มีขนาดเล็กก็ตาม ราคามันก็ไม่ใช่เบาๆเลย เพราะราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นวัสดุดีๆที่มีการเคลือบด้วย ราคาอาจจะหลายหมื่นด้วย คนที่มองเห็นราคาตรงจุดนี้แล้ว ก็เลยไม่อยากจะสนใจมากเท่าไหร่ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ
แต่อยากจะบอกว่า ถ้าไม่แก้ปัญหาบ้านทรุด บ้านร้าว ด้วยวิธีการดังกล่าว ก็ไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่าวิธีนี้ และวิศวกรในปัจจุบัน เขาก็ยอมรับเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า การใช้เสาเข็มชนิดนี้ เป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด และดีที่สุดด้วย เหนือกว่าการซ่อมแซมด้วยวิธีอื่น ๆ
ใครก็ตามที่กังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย อยากจะให้ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ ว่าเราจะแก้ปัญหาครั้งเดียวให้มันจบ โดยยอมเสียเงินจำนวนมากหน่อย หรือจะแก้ปัญหาเรื่อยๆ แต่ใช้เงินครั้งละน้อยแบบไม่จบไม่สิ้น อยู่ที่เราว่าจะเลือกวิธีไหน ถ้าเลือกใช้ ไมโครไพล์ ครั้งเดียว ปัญหาทุกอย่างที่เกี่ยวกับบ้าน ไม่ว่าจะทรุดตัว หรือร้าว มันก็จะไม่เกิดขึ้นให้เราเห็นแน่นอน
เป็นการซ่อมครั้งเดียว สามารถที่จะอยู่ได้นานหลายสิบปี เพราะวัสดุที่ใช้ทำนั้น ส่วนใหญ่ จะเป็นเหล็กและล้อมรอบด้วยคอนกรีต สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 20-30 ตัน ต่อต้น ถือว่ารับน้ำหนักได้มากกว่าขนาดของตัวมันเองมาก ถ้าบ้านของเราหลังไม่ใหญ่ ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน
ดีกว่าการไปเอาของถูกๆมาซ่อม แล้วสุดท้ายบ้านเราต้องเสียหายมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการพังลงมาทั้งหลัง แบบที่ไม่สามารถซ่อมได้ อย่าให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นเสียก่อน แล้วค่อยมาเลือกใช้วิธีนี้ ควรใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
