Gemfields กำลังสร้างมาตรฐานให้ผู้ประกอบการพลอยสีด้วยโมเดลธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน โดยวางเป้าหมายที่จะดำเนินงานด้วยความโปร่งใสและนำเสนอการค้าที่ลื่นไหลคล่องตัว
Gemfields Group Ltd. เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านพลอยสีที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือมาเป็นเวลานานหลายปีในฐานะผู้จัดหามรกตและทับทิมคุณภาพดีที่สุดรายสำคัญของโลกและกระแสเรียกร้องเรื่องความโปร่งใสและการจัดหาสินค้าด้วยความรับผิดชอบที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วทั้งวงการอัญมณีและเครื่องประดับ ขณะนี้บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็น De Beers แห่งวงการพลอยสี นั่นคือการจัดหาอัญมณีที่ผลิตอย่างมีจรรยาบรรณไปพร้อมๆ กับรักษาฐานของบริษัทในแวดวงการค้าอัญมณีโลกไว้อย่างมั่นคง
ในการพูดคุยกับ JNA นั้น Sean Gilbertson ซึ่งเป็น CEO ของ Gemfields เปิดเผยว่าบริษัทได้กำหนด portfolio ของผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจของบริษัทเน้นพลอยสีสามชนิดได้แก่ ทับทิม มรกต และแซปไฟร์
ที่มา : https://blogs.cuit.columbia.edu/rightsviews/2019/
01/20/gemfieldss-quest-for-conflict-rubies-in-nthoro-mozambique/
กลยุทธ์การขยายธุรกิจนี้เป็นไปตามการขยายกิจการและการพัฒนาการดำเนินธุรกิจต่อไปของ Gemfields ในแอฟริกา ซึ่งเป็นแหล่งอัญมณีหลักของบริษัท โดย Gemfields ครอบครองร้อยละ 75 ของเหมืองมรกต Kagem ในแซมเบีย และเหมืองทับทิม Montepuez ในโมซัมบิก
Gilbertson ชี้แจงว่า “เราวางแผนจะเพิ่มกิจการทับทิมและมรกตเฉพาะในแอฟริกาเท่านั้น โดยเราได้รับใบอนุญาตใหม่ในพื้นที่ซึ่งติดต่อกับ Montepuez Ruby Mining Limitada (MRM) คือ Megaruma Mining ซึ่งเราได้เริ่มเก็บตัวอย่างแบบ bulk sampling แล้ว รวมทั้งขุดบ่อใหม่และโรงคัดแยกที่ MRM ด้วย”
ส่วนในแซมเบีย Gemfields ได้ย้อนกลับไปดำเนินการบ่อ Mbuva-Chibolele ซึ่งได้ผลผลิตอัญมณีมาสามล้านกะรัตแล้ว Gilbertson กล่าวว่า การมีหุ้นส่วนท้องถิ่นในแอฟริกาจำเป็นต่อความสำเร็จของเหมือง โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราตั้งความหวังและวางวิสัยทัศน์ที่จะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจพลอยสีที่เป็นที่ต้องการในทวีปแอฟริกา”
การทำเหมืองและกลยุทธ์การตลาด
Gibertson กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในโมเดลธุรกิจของ Gemfields คือ ความรับผิดชอบและความโปร่งใสในการค้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในประเด็นดังกล่าว Gemfields จึงเดินหน้าอย่างจริงจังในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการต่างๆ ในการทำเหมือง ปกป้องและทำประโยชน์ให้กับผู้คนในเหมือง ตลอดจนมีส่วนช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศ
หน่วยงานของ Gemfields ได้มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในแซมเบียและโมซัมบิกอย่างครอบคลุมผ่านการสร้างโรงเรียน สมาคมเกษตรกรรม สถานบริการด้านสุขภาพ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังได้สร้างโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ให้กับหน่วยงานท้องถิ่นของรัฐอีกด้วย
จากข้อมูลของบริษัท เมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2017 บริษัทจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลและค่าสิทธิการผลิตจำนวน 73 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับรัฐบาลโมซัมบิก ในขณะที่กิจการของบริษัทสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลแซมเบียถึง 91 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ Gilbertson ยังเปิดเผยอีกว่า Gemfields ได้พัฒนาระบบการจัดระดับกรรมสิทธิ์และริเริ่มแพลตฟอร์มการประมูลและการค้าเพื่อนำพลอยสีคุณภาพสม่ำเสมอออกสู่ตลาดเครื่องประดับโลก
ปี 2019 และอนาคต
จากการขยายกิจการตามแผนในแอฟริกา Gemfields ยังได้ตั้งเป้าที่จะต่อใบอนุญาตการทำเหมืองมรกตในเอธิโอเปีย รวมทั้งยังหมายตาพื้นที่ในมาดากัสการ์ ซึ่งบริษัทมีใบอนุญาตอยู่แล้ว โดยมองว่าเป็น “แหล่งพลอยสีที่น่าจับตามอง” แต่การดำเนินการต่างๆ ขึ้นอยู่กับภูมิทัศน์ทางการเมืองของมาดากัสการ์
ปีนี้ผลผลิตแซปไฟร์ใหม่ๆ จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว นับเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ Gemfields
Gemfields ยังคงมองเห็นโอกาสในการค้ามรกตและทับทิมในปีนี้ โดยอ้างถึงข้อมูลผลลัพธ์ในแนวบวกของการประมูลล่าสุด ในการประมูลทับทิมที่ยังไม่เจียระไนของบริษัทเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ที่สิงคโปร์ ซึ่งขายทับทิม Rose of Mozambique คุณภาพสูง หนัก 12.24 กะรัต ได้ด้วยมูลค่า 55.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ยอดขายมรกตของบริษัทกวาดรายได้ 28.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างการประมูลดังกล่าว Gemfields ได้ขายมรกตน้ำหนัก 5,655 กะรัต ซึ่งมีชื่อว่า Lion Emerald หรือ Inkalamu ที่พบในเหมือง Kagem
ที่มา : https://www.telegraph.co.uk/luxury/jewellery/
chopard-partners-with-gemfields-in-its-journey-to-sustainability/
Gilbertson ตั้งข้อสังเกตว่า “ฐานผู้บริโภคมีความแข็งแกร่งและพลอยสีทั้งสามชนิดเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างมากถึงสองหลัก ความต้องการที่สูงขึ้นนี้มาจากความมั่นใจของผู้บริโภคด้วยความเข้าใจถ่องแท้ถึงวิธีการทำเหมืองและผลิตพลอยสีของเรา ตลอดจนความสามารถของเราในการจัดหาสินค้าที่เชื่อถือได้”
Gilbertson กล่าวว่า โมซัมบิกได้กลายเป็นแหล่งทับทิมที่สำคัญที่สุดในโลกในระยะเวลาอันสั้น โดยสามารถผลิตทับทิมทุกระดับสีที่ตลาดรู้จัก รวมไปถึงสีแดงบริสุทธิ์ที่มีการเรืองแสงซึ่งหาได้ยากที่สุด
สีที่โดดเด่นที่สุดของมรกตแซมเบียของ Gemfields นั้นมีตั้งแต่สีเขียวอ่อนไปจนถึงสีเขียวเข้ม และค่อนไปทางสีฟ้าเล็กน้อยถึงสีเขียวอมฟ้า ผลึกของมรกตแสดงการสะท้อนแสงระยิบระยับจากภายในและมักจะมีความใสสะอาดเมื่อมองดูด้วยตาเปล่า
Gilbertson กล่าวย้ำว่า “ปัจจุบันนี้ผู้ซื้ออัญมณีให้ความสนใจเรื่องความเป็นมาของอัญมณี ตั้งแต่การหาวัตถุดิบไปจนถึงหลักการและคุณค่าของเหมืองไปจนถึงบริษัทที่อยู่เบื้องหลังสินค้านั้น ในการเลือกทับทิมและมรกตของ Gemfields ผู้ซื้อวางใจได้ว่าอัญมณีของพวกเขานั้นมาจากการทำเหมืองด้วยความรับผิดชอบ”
ที่มา : https://www.thejewelrymagazine.com/kagem-mine-passes-500m-in-auction-revenues/
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
พฤษภาคม 2562
------------------------------------------
ที่มา: “GEMFIELDS ushers in new era for gemstone trade” by Bernardette Sto. Domingo. JNA. (March
-April 2019: pp. 51-53).
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที