การลงทุนในตั๋วแลกเงิน (บีอี) หรือแม้กระทั่งซื้อกองทุนที่ลงทุนในบีอีนั้น ถือว่าน่าสนใจมาก แต่ก็มีความเสี่ยงหลักที่ควรระวังก็คือเมื่อครบกำหนดผู้ออกตั๋วไม่สามารถชำระหนี้ได้บางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงนี้ก็มีอยู่หลายด้าน ดังจะกล่าวต่อไปนี้
ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินคืนตามกำหนดเกิดจาก 3 ผู้เกี่ยวข้องหลักนั่นก็คือ
1.เจ้าหน้าที่บลจ. สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่บลจ. ก็คือการขาดความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ความสามารถการชำระหนี้ของผู้ออกตั๋ว โดยอาจคำนึงถึงแต่เพียงรายได้ที่ได้รับจากการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุน
2.ผู้ออกตั๋ว โดยผู้ออกตั๋วมองการออกบีอีเป็นเพียงช่องทางการกู้ยืมเงินที่คุ้มค่า เสียค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการน้อยเมื่อเทียบกับการกู้ยืมเงินแบบอื่น เช่นการขอกู้จากธนาคารพาณิชย์ โดยไม่ได้ประเมินถึงโอกาสหรือความสามารถในการชำระหนี้เมื่อครบกำหนด ซึ่งแท้จริงแล้วส่งผลต่อตัวผู้ออกตั๋วเองอย่างมากในแง่ของความน่าเชื่อถือในอนาคตและชื่อเสียงที่ส่งผลกระทบร้ายแรงและยาวนานกว่า
3.ผู้ลงทุน ตัวผู้ลงทุนเองขาดความรู้ความเข้าใจในการประเมินความเสี่ยง โดยพิจารณาแต่เพียงผลตอบแทนที่จะได้ ซึ่งส่วนมากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร และระยะเวลาในการรับผลตอบแทนสั้นกว่าหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล แต่ขาดการวิเคราะห์ข้อมูลและงบการเงินของผู้ออกตั๋วว่าน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด หรือบางรายวางใจคำแนะนำของเจ้าหน้าที่บลจ.มากเกินไป
และหากความเสี่ยงนี้สูงมากจนนำมาสู่ภาวะไม่สามารถชำระหนี้ได้จริงเมื่อครบกำหนด ผลที่เกิดขึ้นจะไม่ได้กระทบเพียงคู่กรณีที่มีปัญหานี้เท่านั้น แต่จะส่งผลไปถึงเจ้าหนี้รายอื่นของผู้ออกตั๋วนี้ที่อาจเรียกคืนหรือระงับการใช้วงเงินกู้ ส่งผลให้สภาวะทางการเงินของผู้ออกตั๋วที่ไม่คล่องตัวอยู่แล้วเสียหายมากขึ้นไปอีก จนไม่สามารถหมุนเงินมาใช้หนี้เจ้าหนี้แรกได้ และยังกระทบต่อราคาหุ้น ซึ่งส่งผลร้ายตามมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านี้แต่กระแสด้านลบที่เกิดขึ้นยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอื่นที่มีต่อผู้ออกบีอีเจ้าอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้กระทบต่อตลาดในวงกว้าง เกิดการปล่อยกู้ยากขึ้น บริษัทต่างๆ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ความเชื่อมั่นในหลักทรัพย์นี้ลดลง
จะเห็นว่าภาวะเช่นนี้ไม่ได้เกิดกับทุกบริษัทที่ออกบีอี แต่ผลที่เกิดขึ้นอาจทำให้นักลงทุนขยาดในการลงทุนกับบีอี ซึ่งจริงๆ แล้วหากเรากำจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้นี้ไปได้ ท่ามกลางข่าวคราวด้านลบนี้ก็จะยังสามารถทำเงินให้ผู้ลงทุนได้ โดยลดความเสี่ยงไปทีละข้อ เริ่มจากตัวผู้ลงทุนเองก่อนที่ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงบการเงินและสามารถวิเคราะห์ความสามารถของผู้ออกตั๋วเจ้าที่เราสนใจได้ โดยให้เลือกลงทุนในเจ้าที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะทำให้มั่นใจกว่า และอย่าลืมดูว่าระดับที่ได้น่าพอใจหรือไม่ หรือหากไม่ชำนาญก็ควรมีความรู้เบื้องต้นไว้บ้าง จากนั้นก็เลือกบลจ. ที่มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นอย่างดี พิจารณาจากชื่อเสียง ความมั่นคง และผลงานที่ผ่านมาของบลจ.นั้นๆ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงก็จริงแต่เราบริหารความเสี่ยงนั้นให้น้อยลงได้ ขอเพียงแค่มีความรอบคอบ และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที