คุณหมอต๋อง

ผู้เขียน : คุณหมอต๋อง

อัพเดท: 28 มี.ค. 2007 22.54 น. บทความนี้มีผู้ชม: 55901 ครั้ง

ยินดีต้อนรับนักท่องเน็ตทุกท่านครับ

ยินดีรับปรึกษาปัญหาสุภาพทุกเรื่องและมอบเรื่องราวที่น่าสนใจให้ทุกท่านครับ


การชะลอความชรา

การชะลอความชรา
สังขารคนเราเป็นสิ่งไม่เที่ยง

การชะลอความชรา

สวัสดีครับพี่น้อง
สัปดาห์นี้ตามสัญญานะครับ พี่มดก็มีสิ่งดีดีนำเสนออีกเช่นเคยนะครับ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเวปและห้องของเรา และที่สำคัญต้องขอขอบใจแขกที่มาเยือน และคำถามสำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าตอบคำถามตรงเป้าบ้างหรือเปล่า ไงก็สามารถติชม และให้ข้อคิดเห็นเป็นการส่วนตัวได้นะครับที่ jrsupply@hotmail.com

วันนี้ก็ขอเปิดห้องรับแขกต้อนรับทุกท่านเลยแล้วกัน
พี่มดมีเคล็ดที่ไม่ลับมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการชะลอความชรา มาฝากครับ อย่างว่านะครับสังขารของคนเราเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง หลุดลอยไปตามกาลเวลา บ้างก็ไปตามทางที่วางไว้ บ้างก็ออกนอกเส้นทางไปสู่ผลร้ายในชีวิต แต่สำหรับทุกคนที่มีความระวังสูงก็ย่อมปลอดภัยมากกว่าใช่ไหมครับ

วันนี้เรามาวางแผนกันนะครับว่าจะทำอย่างไรดี ให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวนานมากยิ่งขึ้น และทำให้สังขารหรือความชราเกิดช้าลงกว่าเดิม

ผมมักจะบอกคนไข้ทุกคนเสมอว่า สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ทุกอย่างจะเกิดจากความเสื่อม ไม่ว่าจะเกิดจากความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายเรา จนลุกลามขึ้นไปเป็นความเสื่อมของเนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆตามมา สิ่งหนึ่งที่เราป้องกันได้คือ รู้จักว่าความเสื่อมนั้นมาจากไหนอะไรเป็นต้นเหตุ และที่สำคัญจะจัดการลดความเสื่อมนั้นได้อย่างไร แค่นั้นเองจะทำให้เรามีชีวิตที่ห่างไกลจากโรคร้ายสุขภาพเราจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ

ความเสื่อม หมายถึง การทำงานของสิ่งใดๆ ในร่างกายตั้งแต่หน่วยที่เล็กที่สุดที่เราเรียกว่า เซลล์ไปจนถึง อวัยวะนั้นทำงานอย่างผิดพลาด เสียรูปแบบไป โดยเกิดจากการกระตุ้นของสิ่งที่ไม่เป็นมิตรที่เราเรียกว่า อนุมูลอิสระหรือ ภาษาผมคือ Free radical ตัวนี้แหละครับที่คอยยุแยงให้คุณเซลล์ต่างๆ ของร่างกายเราเพี้ยนไป บ้างก็ทำให้ทำงานผิดพลาด บ้างก็ทำให้เจริญเติบโตไวก็ปกติเช่นในรูปแบบทีเราเรียกว่า การพัฒนาไปเป็นเนื้องอก หรือเนื้อร้ายหรือที่รู้จักกันว่า มะเร็งเป็นต้น ถ้าตัวนี้ไปก่อกวนกับเซลล์ผิวหน้าก็จะเกิดภาวะริ้วรอย ภาวะแก่กว่าวัย เป็นต้น หรืออาหารบางอย่างที่เรากินทุกวัน ซึ่งอาหารชนิดนี้อาจจะมีอนุมูลอิสระมากและต้องกินซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสมดุลของร่างกาย พัฒนาเป็นเนื้องอกตามที่ต่างๆ ที่สารนั้นกระตุ้นอยู่ได้ซึ่งเราก็คงเคยได้ยินบ่อยๆ เช่น คนที่ท้องผูกเรื้อรังก็อาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ตามา คนที่มีตับอักเสบบ่อยๆก็มักมีอาการของมะเร็งตับตามมา หรือบางครั้ง เราจะเห็นได้ว่าหลายคนที่วันๆ หมกมุ่นอยู่กับงานหรือเครียดเรื่องเรียนมากเกินไป เพื่อนๆ ก็จะเรียกว่า “ไอน์สไตน” ซึ่งจะมีหน้าตายับๆ ยุ่งๆ แก่ๆ เหมือนนักวิทยาศาสตร์คนนี้เป็นต้น หรือนางงามนางแบบที่ต้องผ่านกล้อง ผ่านแสง ผ่านการแต่งหน้ามากๆ บางครั้งเราดูแล้วใบหน้าก็จะมีอายุมากกว่าวัยที่แท้จริงเสียอีกครับ นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ตัวอนุมูลอิสระนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในอาหารที่เรากินเข้าไป หรือ จากอารมย์ที่ไม่ปกติ หรือจากความเครียดเป็นต้น

เป็นไงครับอย่าเพิ่งกลัวไปนะครับ ที่จริงแล้วผมอยากจะบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทำให้มนุษย์เราปนเปื้อนกับพวกอนุมูลอิสระมากที่สุดก็คือ อาหารและสภาพอากาศแวดล้อมครับ อาหารเป็นสิ่งที่เสี่ยงมากที่สุด เพราะทุกวันนี้เราบริโภคหลายๆ อย่างเข้าไปเราไม่ทราบหรอกว่า กระบวนการผลิตเป็นเช่นไร มีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง และที่สำคัญผลร้ายที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด จึงทำให้จับตัวการได้ยาก เพราะกว่าเราจะรู้ตัวส่วนใหญ่มักจะสายไปแล้ว เพราะเกิดอาหารแล้ว หรือไม่ก็แพร่กระจายไปแล้วครับ เดี๋ยวก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องอาหารโดยละเอียดนั้น ก็ขอพูดเรื่องสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดโรคหรือความเสื่อมมากๆ ก่อนนะครับ เช่นสภาพแวดล้อมที่อยู่ในมลพิษ อากาศมีควันเสีย หรือ บุหรี่ ทั้งหมดนี้เป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น คนที่สูบบุหรี่ หรือยาสูบชนิดต่างๆ จะเห็นว่าใบหน้าจะแก่เกินวัยทั้งนั้น ริมฝีปากจะคล้ำ ปอดเริ่มแย่มักไอบ่อย เป็นหวัดบ่อยหายช้าเป็นต้น ทั้งหมดนี้เกิดจากสารพวกนี้ไปรบกวนทุกระบบ ทำให้ทำงานแย่รวมถึงภูมิคุ้มกันต่ำลง ติดเชื้อต่างๆ ง่ายขึ้น ดีไม่ดีก็จะเกิดมะเร็งปอดขึ้นมาก่อน เพราะสารก่อมะเร็งพวกนี้ มีความไวต่อการเจริญในที่ที่มีออกซิเจนมากเช่นที่ปอดเป็นต้น มีอีกหลายสภาวะมากมายที่ก่อให้เกิดความเสื่อม เช่นสารพิษจากที่ทำงาน หรือจากท่อไอเสีย ซึ่งเราคงหลีกเลี่ยงกันดีอยู่แล้วนะครับ

กลับมาเรื่องอาหาร หากเราพิจารณาบริโภคอาหารให้ดีดี เราจะมีชีวิตที่เป็นสุขมากนะครับ คิดดูนะครับ ร่างกายเราเจริญเติบโตก็ด้วยสารอาหารที่กินไป เราฉลาดได้ก็เพราะกรดอะมิโน โปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นจากอาหารที่กินเช่นกัน แต่ถ้าเราบริโภคอนุมูลอิสระเข้าไปด้วย สารอันตายเหล่านี้ ก็จะเปลี่ยนแปลงการทำงานที่ปกติของเนื้อเยื่ออ่อนให้ผิดปกติขึ้นทุกวัน ตามการกระตุ้นถ้าเจอทุกวันก็จะเกิดเนื้อร้ายไวขึ้นครับ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเราควรที่จะเลือกบริโภคอาหารทุกอย่างไม่จำเจ ไม่ซ้ำซาก ควรเปลี่ยนรายการบ้างก็จะปลอดภัยได้ระดับหนึ่งครับ

เลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีการหลักดอง หรืออาหารเก็บไว้นาน จนอาจจะเกิดการหมักของเชื้อราที่มีสารก่อมะเร็งพวก อัลฟาท๊อกซินได้ ไม่ควรกินอาหารที่ปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมพวกยาฆ่าแมลง หรือสารเร่งโตต่างๆ ไม่ทานอาหารที่ประกอบด้วยน้ำมันที่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวสุงเช่นพวกน้ำมันจากสัตว์ หรือ น้ำมันมะพร้าวเป็นต้น ทานอาหารที่สุกใหม่ๆเสมอ ผลไม้ผักสดๆ ที่มีวิตามินซีสูงจะช่วยลดอนุมูลอิสระได้ดี รวมถึงเลือกวัตถุดิบที่ไม่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง เช่น ปลาบ่อ บางครั้งถูกเลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ที่อาจจะขึ้นรา ก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงต่อการสะสมพิษของอัลฟาท๊อกซินได้ หากกินเป็นประจำ จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่เราควรคิดพิจารณาในการเลือกบริโภคนะครับ และที่จะลืมเสียไม่ได้คือการเลือกสารต้านมะเร็ง หรือต้านอนุมูลอิสระบริโภคแทน เช่น วิตามินซีบริสุทธิ์จะช่วยลด และยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการลดความเสี่ยง จากการเกิดการหมักหมมของสารพิษในร่างกายเช่น การมีภาวะท้องผูกบ่อยๆ หรือการกินอาหารที่ย่อยยากๆ และอาจทำให้เกิดภาวะเสื่อมของกระเพาะ ลำไส้ ก็จะเป็นฉนวนให้เกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารตามมาได้ครับ ทุกอย่างในชีวิตประจำวันล้วนแล้วแต่ต้องระมัดระวัง ถ้าเรายังอยู่ในสังคม ที่มีสิ่งปนเปื้อนมากตามความเจริญของบ้านเมืองครับ ผิดกับแถวบ้านผมนะครับมีแต่ดอยแต่เขา ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าไม้สมบูรณ์ น้ำกินสะอาด กินอะไรก้มาจากธรนรมชาติจริงๆ แถวนี้อุ๊ย หรือ คนแก่ นะครับ เขามีอายุกันถึง 95 ปี หรือมากที่สุด ก็106 ปีกันครับ อย่างแนวๆหน่อยก็ประมาณ 70 ครับเป็นอายุที่เพิ่งพ้นวัยหนุ่มสาว 555 ใครอยากเป็นแบบนี้ก็ลองปฏิบัติตามกันนะครับ

สำหรับเรื่องจิตใจก็สำคัญ อย่าเครียดกับชีวิตให้มากนัก เดินทางสายกลางนะครับ มีหนักมีเบาแล้วเราจะเป็นคนที่เขลาน้อยที่สุด ครับ สำหรับสัปดาห์นี้พี่มดก็คงฝากเรื่องราวของห้องรับแขกแค่นี้ก่อนนะครับ สัปดาห์หน้าเรามานั่งคุยกันในห้องนั่งเล่นกันนะครับ พี่มดมีเรื่องราวดีดี มาเล่าให้ฟัง ใครอยากรู้ก็ลองติดตามดูนะครับ

ก่อนจากไปแวะห้องครัวกันหน่อย มีเคล็ดลับมาฝากว่า สำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่เคารพครับ หากเราต้องการจะเลือกน้ำมันที่คิดว่ามีประโยชน์สูงสุด ดีที่สุดต่อสุขภาพและมีส่วนช่วยป้องกันโรคร้ายเช่น โรคมะเร็ง โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน โรคไขมันในเลือดสูง น้ำมันที่ผมแนะนำให้ใช้ก็คือ น้ำมันมะกอกครับ รับรองว่าดีเลิศที่สุด เป็นไปได้ขอชนิด Extra virgin olive oil นะครับ เสียอย่างเดียวแพงไปหน่อย แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายหรือ นานๆ ผัดอาหารทีก็ควรเลือกใช้นะครับ

พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ

 




บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที