เด็ก 4 เดือน และ เด็ก 5 เดือน หรือเด็กที่ยังอายุไม่ถึง 1 ปี สิ่งสำคัญที่สุดในวัยนี้ที่คุณพ่อและคุณแม่ควรให้ความสำคัญนั่นคือ เรื่องของ พัฒนาการของเด็ก การเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับ อาหารของลูกน้อย ควรให้ลูกน้อยทาน แต่เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ช่วยในเรื่องการสร้างภูมิต้านทานต่าง ๆ ของร่างกายป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย การเลือกอาหารที่ดี มีประโยชน์ให้กับลูกน้อยนั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับในช่วงวัยนี้เลย
คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลของอาหารให้มีความเหมาะสมสำหรับลูกน้อย ตามแต่ละช่วงวัย ดังนั้นอาหารจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก ทั้งอาหารเด็ก 4 เดือน อาหารเด็ก 4 เดือน และ อาหารเด็ก 8 เดือน ด้วย คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาว่า ลูกวัยนี้ควรได้รับสารอาหารที่จำเป็นใดบ้างต่อการเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อย อาหารชนิดไหนที่สามารถย่อยได้ง่าย อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้วย ฟักทอง ตับ เนื้อปลา เนื้อไก่ แครอท หรือผักผลไม้ชนิดอื่น ๆ การทำอาหารให้ลูกน้อยควรทำการบดละเอียดก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการกลืนและรับประทาน เนื่องจากเด็กในวัยนี้ ยังไม่มีฟันที่จะมาทำหน้าที่คอยช่วยในการบดเคี้ยวอาหารนั่นเอง สิ่งสำคัญในการปรุงอาหารให้ลูกน้อยนั้น นอกจากเน้นเรื่องโภชนาการที่เหมาะสมต่อทารกแล้ว ความสะอาดถือเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง หากคุณพ่อคุณแม่ปรุงอาหารหรือซื้ออาหาร หรือใช้ภาชนะที่ไม่สะอาด อาจทำให้ลูกน้อย ทารกท้องเสีย ได้เพราะ แม้ว่าทารกจะอยู่ในวัยที่มีพัฒนาการของการทานอาหารแล้ว แต่รางกายของทารกยังคงบอบบาง และจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเอาใจใส่ และคุณพ่อคุณแม่ควรค่อยๆ ให้ทารกเริ่มปรับตัวทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชินกับสิ่งนั้นๆก่อนด้วย ความสะอาดจึงยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึง
แม้ว่าลูกน้อยจะอยู่ในวัยที่สามารถทานอาหารได้บ้างแล้ว แต่สิ่งสำคัญและจำเป็นต่อทารกนั่นคือ นม คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกน้อยได้ทานนมอย่างต่อเนื่อง ทารกบางรายอาจเกิดอาการท้องเสียหลังจากที่ได้ดื่มนม ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ทารกที่ทานนมของนมแม่ ที่คุณแม่หลาย ๆ ท่าน ใช้วิธีการปั้มนมใส่ถุงไว้แล้วค่อยนำมาใส่ขวดให้ทารกทานภายหลัง แม้ว่า นมแม่นั้นถ้าเราวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง หรือการนำไปแช่เย็น แช่แข็งนั้นก็จะทำให้น้ำนมนั้นมีอายุที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยการที่เรานำน้ำนมออกมาวางที่อุณหภูมิห้องที่ค่อนข้างร้อนก็จะอยู่ได้เพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ดังนั้น หากเราขาดความระมัดระวังในการเก็บรักษาน้ำนมก็อาจจะทำให้ ทารกท้องเสีย ได้
จะเห็นได้ว่า การดื่มนมแม่และการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ถือเป็นสิ่งที่ช่วยในการเสริมสร้างและเสริมพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและสมองให้กับทารกได้เป็นอย่างดี
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที