ออสเตรีย ประเทศในฝันของผู้คนจำนวนมากที่ปรารถนาจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง ด้วยเป็นดินแดนอันแสนโรแมนติกที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามแห่งขุนเขาและสายน้ำ รวมไปถึงความไพเราะของดนตรีคลาสสิคที่เร้าโสตประสาทให้เคลิบเคลิ้มชวนให้อยากเต้นรำไปตามท่วงทำนองของตัวโน้ต
เมื่อครั้งที่ได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปในดินแดนอันน่าอภิรมย์นี้ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ได้พบกับรูปวาดของคีตกวีชื่อก้องโลกอย่างเช่น โมสาร์ท และโยฮัน สเตราส์ ปรากฎอยู่ตามสถานที่และสิ่งของต่างๆ เช่น ปกซีดี กล่องช็อกโกแลต หนังสือ และของที่ระลึกต่างๆ เป็นต้น นอกเหนือไปจากนี้ เรายังได้พบกับภาพของสุภาพสตรีโฉมงามผู้หนึ่ง ผู้ที่เพียงดูผิวเผินก็ทราบได้ในทันทีว่าเธอผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา หากแต่จะต้องเป็นสตรีสูงศักดิ์ผู้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ออสเตรียเป็นแน่แท้
ความสงสัยถูกเก็บเอาไว้ได้ไม่นานนัก เนื่องจากภาพของเธอที่ปรากฎตามสถานที่ต่างๆ ปลุกความใคร่รู้ให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายก็ได้รู้ว่าสุภาพสตรีเลอโฉมผู้นี้คือ ‘สมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธ แห่งออสเตรีย’
พระราชประวัติ
เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งบาวาเรีย ทรงมีชื่อเล่นที่เรียกกันในครอบครัวว่า ‘ซีซี่’ (Sisi) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1837 ณ เมืองมิวนิค ราชอาณาจักรบาวาเรีย เป็นธิดาองค์ที่ 4 ในจำนวนบุตร ธิดา 9 พระองค์ ของดยุกแม็กซิมิเลียน โจเซฟ แห่งบาวาเรีย และเจ้าหญิงลูโดวิก้า แห่งบาวาเรีย
ชีวิตวัยเด็กในบาวาเรียของซีซี่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สนุกสนานและมีอิสระ พระองค์มีอุปนิสัยร่าเริง รักธรรมชาติ นิยมการเล่นผาดโผนแบบเด็กผู้ชาย อาทิ การทรงม้า และล่าสัตว์ ไม่ค่อยโปรดระเบียบแบบแผนและกฎเกณฑ์ของราชสำนักอย่างที่กุลสตรีพึงกระทำ
แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้ซีซี่ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่พลิกชีวิตของพระองค์ไปตลอดกาล เมื่อได้เสด็จไปยังกรุงเวียนนา พร้อมกับพระมารดา และเจ้าหญิงเฮเลนอ ผู้เป็นพี่สาว ตามคำเชิญของอาร์คดัชเชสโซฟีแห่งบาวาเรีย พระมารดาของสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของเจ้าหญิงทั้งสอง การเดินทางไปเวียนนาครั้งนี้ ก็เพื่อให้สมเด็จพระจักรพรรดิ ฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 มีโอกาสได้พบปะพูดคุยและทำความรู้จักกับเจ้าหญิงเฮเลนอให้มากขึ้น ด้วยอาร์คดัชเชสโซฟีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้หลานสาวคนโตผู้แสนเรียบร้อยและเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วมาเป็นสะใภ้
แต่การณ์กลับไม่เป็นดังหวัง เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 ทรงพอพระทัยและเลือกที่จะอภิเสกสมรสกับซีซี่ ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา โดยพระราชพิธีอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นอย่างสวยงามสมพระเกียรติเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1854 ณ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน ในกรุงเวียนนา
ราชินีผู้เลอโฉม
ซีซี่’ หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธ แห่งออสเตรีย ทรงได้รับการชื่นชมว่าเป็นผู้มีพระสิริโฉมงดงามที่สุดคนหนึ่งของโลก ซึ่งนอกจากพระองค์จะมีรูปเป็นทรัพย์แล้ว การพิถีพิถันในเรื่องความงามของพระองค์นั้นถึงกับเป็นที่เลื่องลือ ซีซี่มักใช้เวลาส่วนใหญ่ในการดูแลรักษาความงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งยังทรงให้ความสำคัญและเคร่งครัดในเรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายเพื่อรักษาสรีระและน้ำหนักไม่ให้มากจนเกินไป
อวัยวะและส่วนต่างๆ บนร่างกายที่ซีซี่โปรดปรานและเอาใจใส่มากที่สุด คือ ‘เส้นผม’ ผมของพระองค์มีสีน้ำตาลแดงและมีความยาวเกือบถึงข้อเท้า ว่ากันว่าขั้นตอนการดูแลรักษาเส้นผมของซีซี่นั้นนับเป็นงานใหญ่เลยทีเดียว พระองค์จะทรงสระผมทุกๆ 3 สัปดาห์ จากแชมพูสูตรพิเศษที่ทรงคิดค้นและดัดแปลงด้วยพระองค์เอง โดยในการทำความสะอาดและจัดแต่งทรงผมในแต่ละครั้งจะใช้เวลานานถึง 1 วันเต็มๆ เลยทีเดียว!
เพียงแค่การทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี รวมถึงการเรียกช่างผมประจำพระองค์มาจัดแต่งทรงผมให้เข้ารูปทรงนั้นยังไม่พอ ขั้นตอนต่างๆ ในการดูแลเส้นผมจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อเรือนผมของพระองค์ถูกตกแต่งด้วยเครื่องประดับเป็นที่เรียบร้อยงดงามสมใจแล้ว โดยซีซี่ได้สั่งให้ KÖchert ช่างทำเครื่องประดับประจำราชสำนักออสเตรียจัดทำเครื่องประดับรูปดาว 10 แฉก ตกแต่งด้วยเพชรและไข่มุก จำนวน 27 ดวง เพื่อนำมาใช้สำหรับตกแต่งบนเรือนผมของเธอ
เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบันเครื่องประดับรูปดาวของซีซี่มีจำนวนเหลืออยู่ไม่ครบทั้ง 27 ดวง เนื่องจาก ซีซี่มักมอบให้แก่นางข้าหลวงไปบ้างเพื่อเป็นการปูนบำเหน็จรางวัล อีกทั้งยังเคยถูกคนร้ายขโมยไปในระหว่างการนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ 100 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของซีซี่ ที่พระราชวังเชินบรุนน์ ในกรุงเวียนนา เมื่อปี 1998 ก่อนจะตามกลับมาได้บางส่วน
ซีซี่ถูกลอบปลงประชนม์ด้วยมีดปลายแหลมจากชายผู้มีความคิดต่อต้านการปกครองระบอบกษัตริย์ และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 10 กันยายน 1898 ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระศพของพระองค์ถูกเคลื่อนกลับมายังกรุงเวียนนา และถูกฝังที่สุสานหลวงของราชวงศ์อัฟบวร์ก ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของประชาชนชาวออสเตรีย แต่ผู้ที่โศกเศร้ามากที่สุดราวกับว่าหัวใจจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ที่ 1 ผู้ซึ่งสูญเสียสตรีอันเป็นที่รักยิ่งอย่างไม่มีวันกลับ
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
--------------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
1. Sisi’s Diamond Stars. The Court Jeweller. (31 December 2013).
http://www.thecourtjeweller.com/2013/12/sisis-diamond-stars.html
2. The Legendary Sisi Diamond Stars. Rocks & Co. (22 December 2016).
http://worldofgemstones.rocksandco.com/2016/12/22/sissi-diamond-stars/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที