ที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมการทำเหมืองได้สร้างสรรค์นวัตกรรมมากมายเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ตลอดจนรับมือกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ในบรรดาแนวทางต่างๆ ที่บริษัทผู้ทำเหมืองทั่วโลกได้นำมาใช้นั้น มีบางส่วนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แก่ภาคอุตสาหกรรม ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ที่มา: http://frontierdiamonds.com/
1) Rio Tinto เริ่มใช้งานรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติซึ่งช่วยเพิ่มเวลาทำงานได้ 1,000 ชั่วโมง และมีต้นทุนในการบรรทุกและขนส่งต่ำกว่ารถบรรทุกทั่วไปอยู่ร้อยละ 15 โดยในจำนวนรถบรรทุกที่มีอยู่เกือบ 400 คันในเหมือง Pilbara นั้น ราวร้อยละ 20 มีระบบขนส่งอัตโนมัติ (Autonomous Haulage System: AHS) นอกจากนี้ Rio Tinto ยังเป็นผู้นำด้านการปรับเปลี่ยนรูปแบบเหมือง และมีเหมืองอีกหลายแห่งที่เตรียมจะใช้ระบบรางหนักอัตโนมัติอีกด้วย
2) ปัจจุบันเหมือง Star Diamond ในแอฟริกาใต้ใช้การสกัดแร่ด้วยมือซึ่งเปลืองเวลาและแรงงาน แต่ก็มีการวางแผนเพื่อเปลี่ยนไปใช้วิธีการฉีดน้ำแรงดันสูงแทนซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการสกัดแร่ และเพิ่มความมั่นใจในแง่การจัดการเพชรขนาดใหญ่ ด้วยกระบวนการฉีดน้ำแรงดันสูง บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณเพชรที่สกัดได้จาก 40 กะรัตต่อดินที่ขุดออกมาหนึ่งร้อยตัน เป็น 55 กะรัตต่อดินที่ขุดออกมาหนึ่งร้อยตัน
Sedibeng-Diamond-Mine
ที่มา: http://frontierdiamonds.com/
เหมือง Sedibeng ในแอฟริกาใต้ซึ่งดำเนินงานโดย Petra Diamonds ก็อาศัยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการทำเหมืองใต้ดินเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตในเหมืองสองแห่งที่มีอยู่ และเพื่อพัฒนาแนวทางการปฏิบัติงานจากฐานการผลิตแบบต้นทุนต่ำ
3) เหมืองเพชร Merlin ในออสเตรเลียใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้สูงที่สุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต มีการนำเครื่อง XRT Sorting Machine มาใช้แปรรูปแร่คิมเบอร์ไลต์ขั้นแรก นอกจากนี้เครื่อง Tomra X-Ray Transmission (XRT) ก็ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่เพื่อให้สามารถจัดการกับเพชรขนาดใหญ่ได้
4) ในแง่การพัฒนาเทคโนโลยี ALROSA ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรหลายฉบับในงานด้านการวิจัยและพัฒนา (Rospatent) ระหว่างช่วงปี 2016-2017
The Scientific Research Exploration Company ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ALROSA ได้พัฒนาระเบียบวิธีใหม่ในการประเมินแร่คิมเบอร์ไลต์ในพื้นที่โดยอาศัยพื้นฐานจากการศึกษาการเกิดแร่ขั้นที่สองในหินคิมเบอร์ไลต์หลังการเกิดแม็กมา หินแหล่งแร่ และผลผลิตจากการสลายตัวของหินคิมเบอร์ไลต์
ALROSA ร่วมกับ Technological Institute for Super Hard and Novel Carbon Materials ได้พัฒนาอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อการตรวจสอบเพชรเจียระไนและเครื่องประดับเพชร อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า ALROSA Diamond Inspector สามารถระบุเพชรเจียระไนธรรมชาติ รวมถึงเพชรสังเคราะห์และเพชรที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ วัสดุเลียนแบบเพชร (เพชรเทียม) เช่น คิวบิกเซอร์โคเนีย มอยซาไนต์ และอื่นๆ
5) เครื่อง SQUID (Superconducting Quantum Interference Device) ของ De Beers นับเป็นนวัตกรรมที่ปรากฏเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมเพชร โดยเทคโนโลยีทางอากาศนี้สามารถทำงานในพื้นที่ซึ่งทำงานได้ยากหากใช้ระบบสำรวจแบบดั้งเดิม เครื่อง SQUID สามารถบันทึกข้อมูลว่าสนามแม่เหล็กโลกส่วนต่างๆ เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่แตกต่างกันอย่างไร จากการทดสอบครั้งแรกในนอร์เธิร์นเคป แอฟริกาใต้ เครื่องนี้ตรวจพบรูปแบบผิดปกติซึ่งต่อมาได้รับการยืนยันว่าเป็นแร่คิมเบอร์ไลต์
ภาคการผลิตเพชร
ภาคการผลิตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในช่วงยี่สิบถึงสามสิบปีที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมนี้ได้ผ่านการพัฒนามายาวไกลจากวิธีการแบบโบราณจนกลายมาเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเช่นทุกวันนี้
6) นอกเหนือจากเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับเพชร เช่น Sarine Advisor™, ระบบการจัดแสดงเพชร Sarine Profile™, DiaMension™ และอื่นๆ บริษัท Sarine Technologies นับว่ามีส่วนสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาสู่ภาคการผลิตเพชรด้วยการเริ่มใช้ระบบ Meteorite™ เมื่อไม่นานมานี้เพื่อระบุตำแหน่งมลทินในเพชรก้อนขนาดเล็กกว่า 0.35 กะรัต
7) เครื่องมือคัดเพชรอัตโนมัติ Automated Melee Screening ของ De Beers ทำงานที่ความเร็ว 1 เม็ดต่อวินาที จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตได้ ห้องปฏิบัติการด้านการจัดระดับเพชรในเมืองสุรัต ประเทศอินเดีย สามารถจัดการกับเพชรมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปี นอกจากนี้ยังได้นำเสนอบริการ อันได้แก่ การตรวจหาเพชรสังเคราะห์ เพชรเทียม และเพชรที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ โดยปัจจุบันมีการใช้เครื่องมือต่างๆ ได้แก่ DiamondSure, DiamondSure Mount, DiamondView, DiamondPlus, เครื่อง Automated Melee Screening (AMS) และ PhosView
การโฆษณา
การโฆษณาเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมนี้นับตั้งแต่ยุคที่ De Beers เข้ามามีบทบาท
8) De Beers ใช้แคมเปญโฆษณารวม ‘A diamond is forever’ เพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้มานานหลายปี ปัจจุบันแบรนด์ Forevermark ของ De Beers ยังคงดำเนินแผนโฆษณาต่อไปแต่หันมาเน้นแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น
ที่มา: http://jckinsider.com/
9) สมาคม DPA (Diamond Producers Association) เข้ามารับหน้าที่ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเพชรผ่านแคมเปญโฆษณาในตลาดผู้บริโภคหลัก เช่น สหรัฐ จีน อินเดีย และอื่นๆ ด้วยการชูแคมเปญใหม่ ‘Real is Rare Real is a diamond’ เจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล
การตลาดและการขาย
กิจกรรมด้านการตลาดและการขายในอุตสาหกรรมนี้เป็นแนวโน้มที่เพิ่งเกิดขึ้นตามมาในระยะหลัง และมีการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสอดคล้องไปกับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม เมื่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับโลกเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการตลาดของสินค้าหรูหราเหล่านี้ให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
10) โครงการเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) โครงการแรกของ De Beers Group ช่วยวางรากฐานความเชื่อมั่นต่อสินค้าเพชรและอุตสาหกรรมเพชรด้วยการรับรองว่าเพชรที่ผ่านการลงทะเบียนทั้งหมดเป็นเพชรธรรมชาติและไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้ง โดยทางกลุ่มทำงานร่วมกับผู้นำด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบดังกล่าวครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกฝ่าย
------------------------------
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
พฤษภาคม 2561
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที