เมื่อเอ่ยถึงเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ (Elizabeth Taylor) ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ‘ลิซ’ แน่นอนว่าจะต้องนึกถึงภาพของอดีตดาวจรัสแสงผู้ล่วงลับที่เคยฝากผลงานไว้ในมากมายในเมืองมายา ผู้ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากความสวย และความสามารถอันโดดเด่นด้านการแสดงแล้ว เธอยังเป็นนักสะสมเครื่องประดับตัวยงอีกด้วย เครื่องประดับของเธอนั้นมีนับไม่ถ้วน แต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยความงาม สูงด้วยมูลค่าทั้งในแง่ของราคาและคุณค่าทางจิตใจ บางชิ้นยังมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานอีกด้วย
ภายหลังการลาลับดับแสงของดาวดวงนี้ ทายาทของเธอได้เปิดกรุสมบัติและให้บริษัทจัดการประมูลชื่อดังอย่างคริสตี้ (Christie’s) นำข้าวของเครื่องใช้รวมถึงเครื่องประดับสุดรักสุดหวงของเธอจำนวนกว่า 500 ชิ้น (ในจำนวนนี้เป็นเครื่องประดับถึง 80 ชิ้น) ออกประมูลเพื่อนำเงินรายได้จากการประมูลบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลเพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ของเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ (The Elizabeth Taylor AIDS Foundation) การประมูลครั้งประวัติศาสตร์นี้จัดขึ้นในมหานครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 3-17 ธันวาคม 2001 และมียอดเงินประมูลรวมกว่า 156 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในกระบวนเครื่องประดับที่ถูกนำออกประมูลนั้น ชิ้นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดชิ้นหนึ่งคือสร้อยคอไข่มุกประดับเพชรและทับทิมสุดวิจิตรจาก Cartier ซึ่งถูกประมูลไปในราคาที่สูงกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ความพิเศษของสร้อยไข่มุกเส้นนี้อยู่ที่ไข่มุกธรรมชาติรูปทรงหยดน้ำเม็ดเขื่องน้ำหนักกว่า 55 กะรัต ซึ่งเป็นหนึ่งในไข่มุกเม็ดที่โด่งดังที่สุดในโลก นามว่า ‘La Peregrina’
|
เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ขณะสวมสร้อยไข่มุกของ Cartier
ภาพโดย: http://www.glamconfidential.com |
|
สร้อยไข่มุกประดับเพชรและทับทิมของ Cartier
ภาพโดย: Christie’s |
La Peregrina เป็นคำในภาษาสเปน แปลว่า “ผู้พเนจร” ซึ่งไข่มุกเม็ดนี้ก็สมกับฉายาผู้พเนจรโดยแท้ เพราะเมื่อย้อนดูเรื่องราวอันน่าสนใจของไข่มุกเม็ดนี้ก็จะพบว่า มันใช้เวลาเดินทางยาวนานกว่า 500 ปี ข้ามผ่านเขตแดนมานับไม่ถ้วน แรกเริ่มเดิมทีนั้นมันถูกพบที่เกาะไข่มุก บริเวณอ่าวปานามา ในปี 1513 โดยทาสชาวแอฟริกัน ผู้ซึ่งได้มอบมันให้แก่ผู้ปกครองปานามา ประเทศในอาณานิคมของสเปนเพื่อแลกกับการขอเป็นไทแก่ตัว จากนั้นผู้ปกครองปานามาก็ได้นำไข่มุกเม็ดนี้กลับมายังสเปนเพื่อถวายต่อพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 5 แห่งสเปน ซึ่งพระองค์ได้นำไปประดับบนมงกุฎ โดยมงกุฎองค์นั้นได้ตกทอดสืบต่อไปยังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 และพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ก่อนถูกนำไปทำเป็นเข็มกลัดเพื่อมอบให้แก่สมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ ในพิธีอภิเษกสมรสกับพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ในปี 1554
ภายหลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 ในปี 1558 ไข่มุก La Peregrina ก็ถูกนำ กลับมายังสเปนอีกครั้ง โดยถูกนำไปประดับบนหมวกของพระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งสเปน และมันยังเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชินีแห่งสเปนหลายพระองค์ บ้างก็นำไปทำเป็นจี้ บ้างก็สร้อยคอ บ้างก็เข็มกลัด จนกระทั่งเมื่อนโปเลียนที่ 1 ได้ส่งพี่ชายคือ โจเซฟ โบนาปาร์ต ไปปกครองสเปนในปี 1808 เขาจึงได้นำไข่มุกนี้กลับฝรั่งเศสและมอบให้กับนโปเลียนที่ 3 ก่อนถูกขายต่อให้กับครอบครัวแฮมิลตัน ดยุกแห่งอเบอร์คอน (The Dukes of Abercorn) ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 1848 ไข่มุกเม็ดนี้จึงได้เดินทางกลับมายังเกาะอังกฤษอีกครั้ง และอยู่ในความครอบครองของตระกูลแฮมิลตันเรื่อยมา
จนกระทั่งเมื่อปี 1969 ครอบครัวแฮมิลตันได้นำไข่มุก La Peregrina ออกประมูลกับโซเธอบีส์ (Sotheby’s) ในกรุงลอนดอน โดยริชาร์ด เบอร์ตัน พระเอกชื่อดังในวงการฮอลลีวูด ได้ชนะการประมูลที่ราคา 37,000 เหรียญสหรัฐ เขาได้มอบไข่มุกเม็ดนี้ให้แก่เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ผู้เป็นภรรยา เพื่อเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ โดยเธอได้มอบความไว้วางใจให้ Cartier เป็นผู้ออกแบบและผลิตสร้อยคอไข่มุกประดับเพชรและทับทิม ซึ่งต่อมาสร้อยเส้นนี้ได้กลายเป็นของรักของหวงของลิซ ด้วยเธอมักจะสวมสร้อยเส้นนี้ออกงานอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่สวมเพื่อเข้าฉากถ่ายทำภาพยนต์
ล่าสุดไข่มุก La Peregrina ก็ออกเดินทางอีกครั้ง เมื่อสร้อยเส้นนี้ถูกนำออกประมูลภายหลังการเสียชีวิตของเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ โดยมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามชนะการประมูลด้วยราคาสูงกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าไข่มุก La Peregrina เดินทางไปอยู่ ณ ที่แห่งใด
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
--------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
1. In The Sales Room: The Collection of Elizabeth Taylor. Christie’s. (13 December 2011). https://www.christies.com/elizabethtaylor/saleroom.aspx
2. In The Sales Room: The Collection of Elizabeth Taylor-The Legendary Jewels, Evening Sale (I). Christie’s. (13 December 2011). https://www.christies.com/elizabethtaylor/saleroom_legendary_jewels.aspx
3. La Peregrina Pearl. House of Lavande. (25 June 2013). https://houseoflavande.com/la-peregrina-pearl/
4. La Peregrina Pearl. King Jewelers. (29 October 2012). http://www.kings1912.com/blog/2012/10/la-peregrina-pearl-monday-mystery-part-6/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
