แม้ว่าการทุ่มเงินซื้อแหวนจะเบาบางลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและยุคเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ แต่กระแสก็กลับมาอีกครั้งในยุคทศวรรษ 1940 เมื่อ De Beers ได้ออกแคมเปญโฆษณาอันโด่งดังที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่าง ‘A Diamond is Forever’ ซึ่งคนทั่วโลกต่างก็เห็นพ้องด้วย
นอกจากความงามและความทนทานของเพชรจะใช้เป็นสัญลักษณ์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังมีแนวคิดช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ว่าแหวนหมั้นเพชรนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถทางการเงินของเจ้าบ่าวในการเลี้ยงดูภรรยาอีกด้วย หลังจากนั้นจึงเกิดเป็นแนวคิดที่นิยมกันว่าแหวนหมั้นควรมีมูลค่าเท่าเงินเดือนหนึ่งเดือนของเจ้าบ่าว ขณะที่แนวโน้มในระยะหลังกำหนดว่าแหวนหมั้นควรมีมูลค่าเท่าเงินเดือนสองเดือน (หรืออาจถึงสามเดือน)
เครื่องประดับแต่งงานที่ตรงใจ
เช่นเดียวกับสิ่งอื่นๆ เครื่องประดับแต่งงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยการออกแบบและสไตล์เป็นสองสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตามความเห็นของ David Knapp จากฝ่ายขายและบริการลูกค้าของ RNB Bijoux Jewellery
นักออกแบบ Etienne Perret ผู้มีชื่อเสียงจากงานออกแบบอันแปลกใหม่กล่าวว่า คู่แต่งงานมักมองหาชื่อของเขาเมื่อต้องการเครื่องประดับแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร เขาระบุว่าราคาเครื่องประดับแต่งงานพุ่งสูงขึ้นอย่างสังเกตได้ “เราพบว่าการใช้จ่ายในกลุ่มเครื่องประดับแต่งงานเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง แต่งบส่วนใหญ่นั้นหมดไปกับแหวนสำหรับเจ้าสาว” เขากล่าว
รายงาน Real Wedding Survey ประจำปี 2016 ของ The Knot ระบุว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อแหวนหมั้นนั้นสูงกว่า 7800 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากข้อมูลที่รวบรวมได้ในปี 2015 ขณะที่ The Wedding Report ระบุว่าคู่แต่งงานจะใช้งบประมาณราว 4500 เหรียญสหรัฐโดยเฉลี่ย
ไม่ว่าคุณจะติดตามสถิติจากสำนักไหน ก็เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันคู่แต่งงานใช้เงินมากขึ้นในการซื้อแหวนหมั้น ความแตกต่างระหว่างผลสำรวจจากสำนักต่างๆ อาจสะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างกลุ่มประชากร ชาติพันธุ์ และระดับรายได้ของผู้ตอบแบบสำรวจจากแต่ละสำนัก
แนวโน้มที่มาแรงมักเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นผู้ผลิตเครื่องประดับที่เชี่ยวชาญจึงมักปรับแต่งสินค้าให้ตรงกับความต้องการของฐานลูกค้าหลัก “ผู้บริโภคหันมามองหางานออกแบบที่แตกต่างและสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งทำให้สิ่งที่ตนซื้อดูแตกต่างจากของคนอื่นๆ” Richard Lewis ผู้จัดการฝ่ายเครื่องประดับของ Leibish & Company กล่าว เพื่อตอบรับกระแสนี้ Leibish ได้สร้างเครื่องมือ ‘Design Your Own’ เอาไว้ในเว็บไซต์ “ที่จริงแล้ว ยอดขายจากการใช้เครื่องมือนี้บนเว็บไซต์ได้แซงหน้าเครื่องประดับที่เรามีอยู่ในคลังสินค้าไปแล้ว” Lewis กล่าว
การเข้าถึงผ่านอินเตอร์เน็ต
ในยุคที่การเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องง่าย คู่แต่งงานที่ต้องการซื้อเครื่องประดับสามารถหาข้อมูลได้มากมายเพียงปลายนิ้วสัมผัสและผู้ซื้อมักศึกษาข้อมูลอย่างกว้างขวางก่อนจะยอมจ่ายเงินที่หามาได้อย่างยากลำบาก ในตลาดเครื่องประดับเพชรสีแฟนซีที่เฉพาะกลุ่มมากๆ Lewis พบว่าการศึกษาข้อมูลกับแนวทางการซื้อของผู้บริโภคนั้นมีความสัมพันธ์กัน
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการได้รับข้อมูลความรู้นั้นเป็นกุญแจสำคัญสู่พัฒนาการไปยังเพชรสี ด้วยการที่ผู้บริโภคพึ่งพาอินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์ให้ความรู้กันอย่างกว้างขวาง บุคคลทั่วไปจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลและช่องทางสู่ตลาดเฉพาะกลุ่มอย่างเพชรสีได้ง่ายกว่าเดิมมาก” เขากล่าว ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเพชรสี ดังนั้นแบรนด์ออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้จึงสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้มากกว่าผ่านทางอินเตอร์เน็ต จนกลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจและมีการเติบโต
เมื่อผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงฐานความรู้ด้านเครื่องประดับมากขึ้น ผู้ขายก็จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มขึ้นด้วย “ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงขึ้น และผู้ซื้อก็ค้นหาข้อมูลทางออนไลน์อย่างละเอียดก่อนเข้าร้านเครื่องประดับ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่พนักงานขายจะต้องมีความรู้เป็นอย่างดีเพื่อให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ” Sandra Minister ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดของ Corona Jewellery กล่าว
ผู้บริโภคบางกลุ่มมีแนวโน้มชัดเจนว่ามักศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ Simon Avetisian ผู้จัดการขายของ Malo Bands กล่าวว่า “ในกรณีของเครื่องประดับเพชรเพื่อการหมั้น คนรุ่นมิลเลนเนียลมักเข้ามาที่ร้านโดยมีความรู้เรื่องสินค้ามากกว่าแต่ก่อน”
พลังดารา
Tacori
ผู้ขายระบุว่าอย่ามองข้ามอิทธิพลจากการใส่เครื่องประดับของเหล่าคนดังต่อการสร้างความนิยมของสาธารณชน Lewis อธิบายว่า “คนดังและบริษัทประมูลหลายแห่งได้ช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพชรสีและเครื่องประดับชั้นเลิศ” ซึ่งก็ส่งผลต่อสิ่งที่ผู้ซื้อค้นหาเมื่อต้องการซื้อเครื่องประดับใหม่ Lewis กล่าวว่าแม้ในเวลาที่คู่แต่งงานใช้เครื่องมือ ‘Design Your Own’ ก็อาจยังคงอ้างอิงรูปลักษณ์จากคนดังที่เคยเห็นเป็นหลักอยู่ดี Knapp จาก RNB เห็นด้วยในประเด็นนี้ “ผู้บริโภคได้แรงบันดาลใจจากงานออกแบบที่เห็นคนดังสวมใส่กันในโลกออนไลน์”
กระแสหลักในช่วงนี้
ตามข้อมูลจาก Perret ผู้ชายอยากให้คู่หมั้นมีแหวนพิเศษที่ประดับเพชร โดยคำนึงถึงการใช้งานด้วย “ฝ่ายชายมักต้องการแหวนที่ดูดีและทนทานต่อการใช้งาน” เขากล่าว
“จากประสบการณ์ของผม ความคาดหวังต่อเครื่องประดับแต่งงานเฉพาะบุคคลนั้นสูงกว่าที่ผ่านมา” Avetisian จาก Malo กล่าว “เราสังเกตเห็นว่ารสนิยมการซื้อมีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนด้วย ตัวอย่างเช่น เราพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ถึง 10 ในกลุ่มแหวนหมั้นที่ใช้อัญมณีทรงหมอนในช่วงสามปีที่ผ่านมา”
แต่กระแสก็วนเวียนเป็นวัฏจักร มีการใช้วัสดุที่แปลกใหม่ในเครื่องประดับหมั้นรูปแบบใหม่ๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่กระแสนี้อาจเริ่มอ่อนแรงลงแล้ว “กระแสที่เราสนใจมากที่สุดในระยะหลังคือการที่คนรุ่นใหม่กลับไปหาเครื่องประดับทองแบบดั้งเดิม ลูกค้าหนุ่มสาวหันไปหาแหวนแต่งงานทองเพราะเล็งเห็นคุณค่าที่ได้รับมากขึ้น” Avetisian กล่าว
ราคา ขนาดกะรัต หรืองานออกแบบโดยรวม
เนื่องจากมีปัจจัยให้คำนึงถึงหลายประการ แล้วอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน เป็นเรื่องระดับราคาหรือว่ารูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ งานออกแบบที่ดีจะสำคัญเหนือทุกสิ่งหรือเปล่า
ไม่มีคำตอบสุดท้ายในเรื่องนี้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้ขายเครื่องประดับกับตัวลูกค้า Lewis ติดตามแนวโน้มที่ร้าน Leibish และกล่าวว่าคนนิยมซื้อแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวในขนาดเพชรที่ใหญ่ขึ้น “ผู้บริโภคต้องการรูปลักษณ์ที่สะดุดตาในงบประมาณจำกัด ซึ่งหมายความว่าก็ต้องยอมลดระดับความเข้มของสีลงไป” Lewis กล่าว “แต่ก็ยังมีลูกค้าที่มีรสนิยมพิถีพิถันและยินดีลดขนาดเพชรลงมาเพื่อคุณภาพที่สูงกว่า”
กลุ่มลูกค้าของ Perret นิยมชิ้นงานที่แตกต่าง “ผู้ชายมักอยากได้แหวนที่น่าสนใจมากกว่าแหวนที่มีราคาแพง ดังนั้นจึงมักมองหาวัสดุทางเลือกในการซื้อแหวนของตัวเอง”
อย่างไรก็ตามชาวแคนาดาดูเหมือนจะยึดกฎเน้นคุณภาพเหนือปริมาณ “เราพบว่าความนิยมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และผู้บริโภคแต่ละราย” Minister กล่าว “โดยรวมๆ แล้ว ในแคนาดาผู้บริโภคสนใจเรื่องคุณภาพมากกว่าขนาดอัญมณี”
เครื่องประดับต้องเข้าคู่กันหรือไม่
Avetisian กล่าวว่า คู่แต่งงานไม่ได้เลือกชุดเครื่องประดับแต่งงานที่เข้ากันทุกรายไป “เราพบว่าคู่แต่งงานหันมาเลือกแหวนที่มีสไตล์แตกต่างกันมากขึ้น แม้ว่ามีบางส่วนที่ยังคงมองหาแหวนที่เข้าคู่กัน” โลหะผสม 19 กะรัตสีขาวพิเศษของ Malo เป็นโลหะใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของทางแบรนด์และเป็นการนำแนวคิดเก่ามาดัดแปลงใหม่ โดยมีข้อดีอันเป็นเอกลักษณ์คือสีขาวที่ไม่เกิดการหมอง
สำหรับ Leibish นั้น “มีลูกค้าจำนวนมากขอให้เราสร้างงานออกแบบที่ไม่ธรรมดาให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” Lewis กล่าว “มีครั้งหนึ่งลูกค้าอยากได้แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่เข้าคู่กัน ประดับด้วยเพชรสีเหลืองแฟนซีและลายเฟลอร์เดอลีส์ รวมถึงมีลายนิ้วมือของฝ่ายชายอยู่ด้านในของแหวนหมั้นด้วย”
RNB Bijoux Jewellery
Corona Jewellery ก็มุ่งมั่นนำเสนอชุดเครื่องประดับเฉพาะบุคคลเช่นกัน “Maple Leaf Diamonds เปิดตัวชุดเครื่องประดับ ‘Love Letters’ ซึ่งเปิดโอกาสให้คู่แต่งงานได้สลักชื่อย่อของตนลงบนแหวนที่บริเวณขอบด้านข้างใต้เพชรล้อม” Minister กล่าว
ชุดเครื่องประดับที่เปี่ยมจินตนาการอีกชุดหนึ่งของ Corona เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้แสดงความเป็นตัวเองขึ้นไปอีกขั้น “ฉันชอบที่ผู้บริโภคเปิดรับกระแสการใส่แหวนซ้อนกันหลายวงและไม่เพียงกับนำไปใช้กับแหวนแฟชั่นหรือแหวนครบรอบแต่งงาน แต่ยังรวมถึงแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานด้วย” เธอกล่าว “ผู้ใส่สามารถปรับรูปแบบการใส่แหวนหมั้นในแต่ละวันได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่เราได้เห็นผู้บริโภคใส่ใจเรื่องเครื่องประดับอย่างจริงจัง”
แนวโน้มในอนาคต
ในตลาดเพชรซึ่งสถานการณ์ไม่กระเตื้องมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ขายจึงต้องการให้นักออกแบบและผู้ผลิตนำเสนอชุดเครื่องประดับใหม่ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดผู้บริโภค
ผู้ขายส่วนใหญ่มองว่าธุรกิจเครื่องประดับแต่งงานเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงที่สุด ไม่ว่ายอดขายเพชรจะผันผวนมากเพียงใด เครื่องประดับแต่งงานที่งดงามก็ยังคงดึงดูดคู่แต่งงานที่พร้อมทุ่มเงินจ่ายได้เสมอ
นักวิเคราะห์แนวโน้มบางรายสนับสนุนการหันกลับไปใช้แพลเลเดียมในเครื่องประดับแต่งงาน เนื่องจากโลหะสีขาวยังคงเป็นโลหะที่เจ้าสาวรุ่นใหม่ให้ความนิยม แพลเลเดียมมีน้ำหนักซึ่งช่วยให้ความรู้สึกหรูหรามีราคา แต่ก็อาจนำมาใช้งานได้ยากในสายตาของช่างผลิตเครื่องประดับบางราย
เนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลนิยมโลหะสีขาวและเน้นเหตุผลเชิงปฏิบัติเมื่อจะต้องใช้จ่ายซื้อสินค้าราคาสูง แพลเลเดียมจึงเป็นทางเลือกซึ่งควรนำเสนอให้ลูกค้า
สีสันมีบทบาทมากขึ้นในตลาดเครื่องประดับแต่งงาน ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้ผลิตอย่าง Tacori เพิ่งเปิดตัวชุดเครื่องประดับ ‘Something Blue’ ธรรมเนียมที่ให้เจ้าสาวใส่วัตถุสีน้ำเงินเพื่อโชคดีในวันแต่งงานนั้นได้รับการดัดแปลงใหม่ด้วยการใช้แซปไฟร์ร่วมกับเพชรในตัวเรือนที่ดูทันสมัย
ผู้ขายอาจสนับสนุนให้คู่แต่งงานสร้างรูปลักษณ์พิเศษของตนเอง เนื่องจากปัจจุบันเจ้าสาวมักเลือกใช้อัญมณีที่แปลกใหม่ในแหวนที่ปรับตามความต้องการมากยิ่งขึ้น การนำเสนออัญมณีที่โรแมนติกอย่างมอร์แกไนต์และคุนไซต์ หรืออัญมณีที่ไม่คุ้นเคยกันอย่างแทนซาไนต์และซัลทาไนท์ ช่วยให้ผู้ขายหลายรายสามารถยกระดับตัวเรือนเพชรกึ่งสำเร็จด้วยอัญมณีเม็ดหลักที่มีสีสันในระดับราคาที่ดึงดูดใจ
เมื่อลูกค้ายังคงต้องการใช้เพชรแต่อยากได้ความทันสมัยขึ้นมาหน่อย เพชรทรงกุหลาบและเพชรแผ่นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ทุกวันนี้นักออกแบบและผู้ผลิตอาจนำเสนอชุดเครื่องประดับที่ไม่ตามแบบแผนมากนัก ผู้ขายอาจช่วยให้ลูกค้าคิดนอกกรอบด้วยการนำเสนออัญมณีในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้เหมาะกับคู่แต่งงานที่มองหาประสบการณ์เฉพาะตัว
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
------------------------------------------
ที่มา: “Bridal Waves.” by Diana Jarrett. JEWELLERY BUSINESS. (May 2017: pp. 46-48, 50, 52).
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ
|
|