GIT Information Center

ผู้เขียน : GIT Information Center

อัพเดท: 27 เม.ย. 2017 03.21 น. บทความนี้มีผู้ชม: 2248 ครั้ง

นอกเหนือจากเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองเพชรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งหนึ่งแล้ว แคนาดายังเป็นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่กำลังเติบโต อันเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติจำนวนมาก ติดตามบทความฉบับเต็มได้ที่ https://goo.gl/mB9e3b หรือติดตามบทความอื่นๆ ที่ http://infocenter.git.or.th


แคนาดาเป็นมากกว่าเหมืองเพชร

นอกเหนือจากเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองเพชรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งหนึ่งแล้ว แคนาดายังเป็นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่กำลังเติบโต อันเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติจำนวนมาก Kunja Karaniya จะมานำเสนอแง่มุมสำคัญบางประการของประเทศอันงดงามนี้

Canada City

แนวโน้มตลาด
 
ตามข้อมูลจาก Euromonitor แคนาดามีประชากรชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวจากจีนเป็นจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลช่วยขับเคลื่อนการลงทุน ตลอดจนการขยายตัวของแบรนด์เครื่องประดับระดับโลกในแคนาดาช่วงปี 2015 และ 2016 แวนคูเวอร์และโตรอนโตเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญของการขยายตัวดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันชาวแคนาดาเชื้อสายเอเชียมีสัดส่วนร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมดในแวนคูเวอร์ และมีสัดส่วนราวร้อยละ 10 ในโตรอนโต ร้านเครื่องประดับหรูหราชื่อดังจากจีน Lao Feng Xiang เปิดสาขาแห่งแรกในแคนาดาที่แวนคูเวอร์เมื่อปี 2015 โดยระบุว่าประชากรเชื้อสายเอเชียเป็นปัจจัยสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของบริษัท ขณะที่ Luk Fook Group เปิดสาขาต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในศูนย์การค้า Markville ที่โตรอนโตเมื่อต้นปี 2016 เพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยชาวจีนเกือบหนึ่งล้านคนในบริเวณดังกล่าว รวมถึงนักท่องเที่ยวจากตลาดเป้าหมายสำคัญสำหรับธุรกิจเครื่องประดับ เช่น นักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่เดินทางมายังแคนาดาเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น
 
บรรยากาศการแข่งขัน
 
ตามข้อมูลจาก IBIS World ธุรกิจร้านเครื่องประดับในแคนาดามีการเติบโตปานกลางในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น รายได้หลังหักภาษีต่อประชากรสูงขึ้น มีการปล่อยสินเชื่ออย่างแพร่หลาย และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของครัวเรือนทั่วแคนาดาก็เพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นแรงผลักดันที่ช่วยรักษาระดับการเติบโตของรายได้ในภาคอุตสาหกรรมตลอดห้าปี สำหรับในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ คาดกันว่าเมื่อมีการกระจุกตัวของธุรกิจมากขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาคงที่ และสินค้าในธุรกิจนี้ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสม่ำเสมอ ก็จะน่าช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมนี้มีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้น
 
Zale Canada ยังคงตำแหน่งเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องประดับของแคนาดาในปี 2015 แม้ว่ายอดขายลดลงจาก 228 ล้านเหรียญแคนาดาเป็น 227 ล้านเหรียญแคนาดา Zale Canada นำเสนอเครื่องประดับหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแหวนหมั้น สร้อยคอ ต่างหู และสร้อยข้อมือ ซึ่งประดับด้วยเพชร พลอยเนื้อแข็ง และพลอยเนื้ออ่อน บริษัทยังได้ขายชุดเครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักออกแบบ เช่น Vera Wang และคนดังอย่าง Shaquille O’Neal นักบาสเกตบอล NBA ผู้มีชื่อเสียง คาดกันว่า Zale Canada จะยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องประดับของแคนาดาต่อไป แต่คู่แข่งโดยตรงอย่าง Pandora Canada ก็น่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในปี 2016 ตามการคาดการณ์จาก Euromonitor
 
อนาคตของอุตสาหกรรม
 
อุตสาหกรรมนี้เป็นธุรกิจที่มีความเข้มข้นของทุน (Capital Intensity) ต่ำ โดยใช้ทุน 0.09 เหรียญต่อค่าแรงหนึ่งเหรียญแคนาดา ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ระดับความเข้มข้นของทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นจากทุน 0.06 เหรียญต่อค่าแรงหนึ่งเหรียญแคนาดา มาตรการลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ช่วยผลักดันให้ความเข้มข้นของทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากร้านเครื่องประดับส่วนใหญ่ในแคนาดาเป็นกิจการขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงไม่ได้ลงทุนในสินทรัพย์ทุนเป็นสัดส่วนสูงเพราะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
 
การไหลทะลักเข้ามาของแบรนด์สินค้าหรูหราและห้างสรรพสินค้าในระยะหลังน่าจะช่วยยกระดับธุรกิจค้าปลีกในแคนาดา และยิ่งกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเพื่อมาซื้อสินค้าหรูหราเติบโตขึ้นอีกในช่วงปี 2016-2021 Euromonitor International ประเมินว่านักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่ช่วยสร้างยอดขายเครื่องประดับ จะเดินทางเข้าสู่แคนาดาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ภายในปี 2019 และการเดินทางเข้าสู่แคนาดาของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมจะเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย (CAGR) ที่ร้อยละ 2 ในช่วงปี 2016-2020 รวมทั้งมีประมาณการว่าจำนวนชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในแคนาดาจะเติบโตขึ้นร้อยละ 24 ในช่วงปี 2015-2030 หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 7 ของประชากรภายในปี 2030 โดยเมืองแวนคูเวอร์และโตรอนโตน่าจะยังเป็นแหล่งรับผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่จากการเติบโตนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ขายเครื่องประดับจะประสบความสำเร็จในทั้งสองเมืองดังกล่าว
 
ทั้งนี้ Euromonitor ได้ประมาณการว่ายอดค้าปลีกเครื่องประดับ นาฬิกา และเครื่องตกแต่งในแคนาดาจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ร้อยละ 4.42 ระหว่างปี 2015-2020 คิดเป็นมูลค่าตลาดที่ 7.7 พันล้านเหรียญแคนาดาภายในปี 2020 ตลาดเครื่องประดับ นาฬิกา และเครื่องตกแต่ง มีแนวโน้มอยู่ในแดนบวกระหว่างช่วงเวลาที่ประมาณการ

 

การทำเหมืองเพชร
 
 
แคนาดาเริ่มเป็นผู้ผลิตเพชรในปี 1998 เมื่อเหมืองเพชร Ekati เริ่มเปิดดำเนินงานในนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ เมื่อถึงปี 2006 เหมืองขนาดใหญ่สามแห่งผลิตเพชรคุณภาพระดับอัญมณีกว่า 13 ล้านกะรัตต่อปี ทำให้แคนาดาเป็นผู้ผลิตเพชรรายใหญ่อันดับสามของโลก เหมือง Ekati ซึ่งคาดว่ามีระยะการผลิตอยู่ที่ 20 ปี น่าจะผลิตเพชรออกมาได้เฉลี่ย 3 ถึง 5 ล้านกะรัตต่อปี หรือราวร้อยละ 3 ของปริมาณการผลิตเพชรทั่วโลก
 
อุตสาหกรรมเหมืองเพชรของแคนาดาจ้างงานคนราว 2,650 คนสำหรับการดำเนินงานเหมือง และอีก 1,500 คนในภาคอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น งานซ่อมบำรุง งานบริการอาหาร และการคมนาคม โดยทั่วไปแล้วคนพื้นถิ่นมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 30-40 ของแรงงานเหมือง
 
 
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของแคนาดา
  • มูลค่าการค้าปลีกเครื่องประดับ นาฬิกา และเครื่องตกแต่ง มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 1.82 ของยอดค้าปลีกรวมในแคนาดา
  • ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์คิดเป็นร้อยละ 8.9 ของยอดขายรวมในภาคอุตสาหกรรมนี้เมื่อปี 2015 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14.8 ภายในปี 2020
  • ยอดใช้จ่ายต่อประชากรในสินค้ากลุ่มเครื่องประดับ นาฬิกา และเครื่องตกแต่ง จะเติบโตร้อยละ 3.47 ในช่วงห้าปีข้างหน้า

 

------------------------------------------
ที่มา: “Else than just mines..” by Kunjal Karaniya. DIAMOND WORLD. (November-December 2016: pp. 118-121).

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที