ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าส่งออกของไทยไปสหราชอาณาจักรในปี 2559 ยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหดตัวลงร้อยละ 12.3 มาอยู่ที่ 187.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่ต่ำสุดในรอบ 11 ปี สาเหตุสำคัญที่นอกเหนือไปจากภาวะเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรที่ชะลอตัวลงด้วยอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 1.8 จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคแล้ว ยังมีประเด็นผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักรเพื่อแยกตัวเป็นอิสระจาก EU หรือ Brexit ในเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งยิ่งตอกย้ำความกังวลที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจและบั่นทอนการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในประเทศ ผนวกกับค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ตามความกังวลของตลาดเงินที่มีต่อ Brexit จนกระทั่งลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าปรับสูงขึ้น และทำให้ผู้นำเข้าชะลอการนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับออกไป
Brexit ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนต่อตลาดสหราชอาณาจักร
จากตัวเลขการส่งออกของไทยไปยังสหราชอาณาจักรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่แผ่วลงไปตามปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ล่าสุดในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2560 มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป) ของไทยไปสหราชอาณาจักรปรับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีอัตราขยายตัวร้อยละ 44.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 40.2 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม มูลค่าที่เพิ่มขึ้นได้ดีดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการส่งออกเครื่องประดับแท้ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.6 และมีแรงฉุดขึ้นจากราคาโลหะมีค่าที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ทิศทางเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรในระยะต่อไปดูเหมือนว่าจะยังคลุมเครือ เนื่องด้วยต่อจากนี้ไปอีก 2 ปี นับตั้งแต่สหราชอาณาจักรประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2560 จะเป็นช่วงเวลาที่สหราชอาณาจักรเริ่มต้นกระบวนการเจรจาการลาออกจาก EU จนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดสมาชิกภาพอย่างเป็นทางการภายในเดือนมีนาคม 2562 ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศทั้งสหราชอาณาจักรและ EU ยังคงมีอยู่มาก เนื่องจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแยกตัวจาก EU ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการออกที่เด็ดขาดและไม่อยู่ในตลาดร่วมยุโรป (Single Market) หรือที่มองว่าเป็นรูปแบบ Hard Brexit นั้น จะทำให้สหราชอาณาจักรไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าผ่านสิทธิตลาดร่วมยุโรปเทียบเท่าประเทศสมาชิกอื่นของ EU อีกต่อไป และจะกระทบข้อตกลงทางการค้าที่สหราชอาณาจักรเคยทำไว้กับประเทศอื่นรวมถึงไทย ในฐานะประเทศสมาชิก EU อีกด้วย
ขณะที่ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของสหราชอาณาจักรและ EU อันจะส่งผลต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความต้องการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอัญมณีและเครื่องประดับที่ชะลอตัวลง รวมถึงอาจเผชิญกับความผันผวนของค่าเงินที่มากขึ้น ซึ่งจะกระทบกับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทย อีกทั้งยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงผลการเจรจาของ สหราชอาณาจักรต่อ EU ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับ EU ในรูปแบบใด และจะมีการจัดทำความตกลงทางการค้ากับไทยฉบับใหม่หรือไม่ เนื่องจากหลังการแยกตัวจาก EU แล้ว การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปสหราชอาณาจักรอาจต้องเผชิญกับมาตรการทางภาษีและกฎระเบียบการนำเข้าที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ผู้ประกอบการที่ใช้สหราชอาณาจักรเป็นฐานการกระจายสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศสมาชิกอื่นของ EU อาจมีอุปสรรคเพิ่มขึ้น เมื่อไม่มีกฎระเบียบของ EU มาช่วยรับรองมาตรฐานแล้ว สินค้าที่ส่งออกจากสหราชอาณาจักรอาจไม่ตรงตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป ทำให้การส่งออกสินค้าไปยังตลาด EU ทำได้ยากมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในระยะข้างหน้า อาทิ การเตรียมลงประชามติแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรของสกอตแลนด์ที่คาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562 นโยบายของประเทศสมาชิก EU อื่นภายหลังการขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศคนใหม่ในหลายประเทศที่มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปตลอดปี อาทิ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี และออสเตรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป ซึ่งอาจจุดประเด็นการแยกตัวออกจาก EU เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร และยิ่งเพิ่มแรงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน ดังนั้น ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่มีสหราชอาณาจักรและ EU เป็นตลาดส่งออกหลัก จึงควรเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และควรติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมไปกับการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการแสวงหาตลาดศักยภาพแห่งใหม่ๆ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที