GIT Information Center

ผู้เขียน : GIT Information Center

อัพเดท: 28 พ.ย. 2016 06.13 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1569 ครั้ง

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับขอนำเสนอ "ผู้ผลิตฮ่องกงเห็นการฟื้นตัวในตลาดเครื่องประดับ" สนใจบทความอื่นๆ อ่านเพิ่มเติมที่ http://infocenter.git.or.th สอบถาม พูดคุย หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่ https://www.facebook.com/GITInfoCenter


ผู้ผลิตฮ่องกงเห็นการฟื้นตัวในตลาดเครื่องประดับ

ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับในฮ่องกงเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปี 2017 อันเป็นผลจากบรรยากาศที่ดีขึ้นในหมู่ผู้บริโภคและความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมาในภาคอุตสาหกรรมนี้
 
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนระหว่างงาน Hong Kong Jewellery & Gem Fair เมื่อเดือนกันยายน 2016 Lawrence Ma ประธานผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ Diamond Federation of Hong Kong, China Ltd กล่าวถึงเสถียรภาพที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเพชร
 
Test
Hong Kong Jewellery & Gem Fair
 
“ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ราคาเพชรเจียระไนยังคงตัว รายงานจาก De Beers ก็มีแนวโน้มเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทขายเพชรได้เป็นจำนวนมากภายในงานเลือกซื้อสินค้าเพชรดิบสำหรับตัวแทนจำหน่ายสองสามครั้งหลัง จึงเห็นว่าปริมาณอุปสงค์และอุปทานสมดุลกันเป็นอย่างดี” Ma กล่าว “ปริมาณสินค้าคงคลังลดลงทั้งในธุรกิจเพชรก้อนและเพชรเจียระไน นับเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทุกคนกำลังวางแผนรับช่วงครึ่งหลังของปี”
 
Ma ระบุว่า ผู้ซื้อในงานแสดงสินค้าให้ความสนใจสินค้าหลากหลายประเภท “โดยรวมแล้ว ตลาดนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เราเห็นสัญญาณเชิงบวกในช่วงครึ่งปีหลัง” เขาเสริม
 
Kent Wong กรรมการผู้จัดการของ Chow Tai Fook Jewellery Group และประธานกรรมการของ Hong Kong Jewellers’ & Goldsmiths’ Association Ltd กล่าวว่า แม้ตลาดโลกมีความผันผวน แต่ผู้ขายเครื่องประดับฮ่องกงเล็งเห็นสัญญาณของความมั่นคงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
 
“ฤดูกาลซื้อขายที่สำคัญที่สุด อย่างเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจึงคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น” Wong ระบุ “ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่กำลังสั่งสินค้าเข้ามาเพิ่มเติม ธุรกิจนี้ยังคงมีความท้าทายแต่ทุกคนก็พยายามเปิดตัวแคมเปญใหม่ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยกระตุ้นบรรยากาศในการจับจ่ายของผู้บริโภค”
 
Wong กล่าวว่าอุตสาหกรรมนี้คาดว่าผู้ซื้อจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นในปี 2017
 
ความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม
 
Wong ยังได้ระบุถึงความเปลี่ยนแปลงสำคัญในพฤติกรรมของผู้ซื้อจีนและฮ่องกงด้วย แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่จีนก็ยังคงมีการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น โดยร้อยละ 60 เป็นผลจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ที่จริงแล้วผู้เชี่ยวชาญในอุตสากรรมมองว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปตามทิศทางที่รัฐบาลจีนผลักดันอยู่ กล่าวคือ เป็นการเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกมาเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค
 
ความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันนี้ยังปรากฏในฮ่องกงอีกด้วย Wong ระบุว่าการบริโภคของผู้ซื้อในฮ่องกงนั้นยังคงตัว “เมื่อปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฮ่องกงลดลง การที่ยอดขายในย่านนักท่องเที่ยวลดฮวบจึงเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่เราก็สังเกตเห็นว่าธุรกิจในย่านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ย่านนักท่องเที่ยวก็ยังมั่นคงอยู่ จึงแสดงให้เห็นว่าผู้คนซื้อสินค้าภายในประเทศและยังเพลิดเพลินกับการจับจ่าย”
 
Wong ยังได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป จากแนวทางปฏิบัติเดิมซึ่งเน้นสินค้ามากกว่าบริการกลายมาเป็นตลาดที่เน้นบริการเป็นหลัก
 
“เรามักพูดกันอยู่เสมอว่าทำอย่างไรให้งานออกแบบชั้นเลิศโดดเด่นขึ้นมาในตลาดนี้ แต่ในอนาคตแค่นี้อาจไม่เพียงพออีกต่อไป เราจำเป็นต้องมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น” Wong เสริม “ในระยะยาว ทุกฝ่ายในกระบวนการผลิตเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ ผู้ผลิต หรือผู้ขาย ก็จะต้องทำงานให้สอดคล้องกันและแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญของตนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”
 
Ma จาก Diamond Federation of Hong Kong เห็นด้วยในเรื่องนี้ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตและผู้บริโภคจึงเข้าถึงข้อมูลได้มากยิ่งขึ้นและมีฐานโครงสร้างที่กว้างขึ้นในการทำธุรกิจ
 
“องค์กรต่างๆ ควรปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของตน เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนางานบริการลูกค้าให้รุดหน้า ดังที่ Kent ได้กล่าวไปแล้ว ธุรกิจนี้เคยเป็น ‘โลกของสินค้า’ แต่ปัจจุบันทุกอย่างขึ้นอยู่กับการบริการและนวัตกรรม” เขาเสริม
 
Ma กล่าวว่า เมื่อสินค้าคงคลังลดจำนวนลง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้จึงใช้วิธีการต่างๆ กันเพื่อปรับปรุงกิจการทั้งในแง่การตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการส่งมอบสินค้า “ผมเล็งเห็นแนวโน้มที่ดีในภาคอุตสาหกรรมนี้ช่วงหกเดือนถึง 12 เดือนข้างหน้า ตลาดนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น” เขากล่าว
 
ทว่าผู้ผลิตบางรายมองว่าแนวโน้มไม่ได้สดใสขนาดนั้น ตามความเห็นของ Bronia Yip รองประธานกรรมการของ Hong Kong Jewelry Manufacturers’ Association และดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ Goldiaq Creation Ltd ด้วย ได้กล่าวในงานแถลงข่าวเดียวกันเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นในจีนอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าการผลิตในจีนจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ
 
“โลหะมีค่าถูกมองว่าเป็นแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยในสายตานักลงทุน ดังนั้นเราจึงคาดว่าความต้องการโลหะเงินและทองคำจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นและมีผลกระทบต่อการส่งออก” เธอกล่าว
 
เธอเสริมว่า ตลาดส่งออกที่สำคัญ เช่น สหรัฐ รัสเซีย และตะวันออกกลาง กำลังประสบภาวะตกต่ำเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง “อนาคตจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผ่านพ้นความยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้” Yip กล่าว
 
ช่วงเวลาที่สดใส
 
สำหรับผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ ธุรกิจยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงในงาน Hong Kong Jewellery & Gem Fair ครั้งที่ 43 ในเดือนกันยายน 2016 ซึ่งบริษัทต่างๆ ได้นำคอลเล็กชันสินค้าที่ดีที่สุดของตนมาจัดแสดงที่ Hong Kong Convention & Exhibition Centre (HKCEC)
 
ในการให้สัมภาษณ์ Peter Lam จากบริษัทเครื่องประดับเพชร Peter Lam Jewellery Ltd กล่าวว่า บริษัทได้ต้อนรับผู้ซื้อจากสหรัฐเป็นหลัก แต่ก็มีผู้เข้ามาสอบถามจากตลาดสำคัญอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
 
“เราพบลูกค้าใหม่จากญี่ปุ่นและยุโรป เราเคยมีธุรกิจที่เข้มแข็งในตลาดญี่ปุ่น และตอนนี้เราก็ได้เห็นกระแสความสนใจจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่กำลังกลับมา นับเป็นพัฒนาการที่น่ายินดี” Lam กล่าว
 
บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในชุด Dreamcatcher Collection ที่งาน Hong Kong Fair เดือนกันยายนที่ผ่านมา “ผลตอบรับเท่าที่ผ่านมาเป็นเชิงบวก เราได้ขยายคอลเล็กชัน Dreamcatcher และพบว่าสินค้าของเราได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดสำคัญโดยเฉพาะสหรัฐ” ผู้บริหารรายนี้กล่าว
 
Dreamcatcher Collection ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ นับเป็นการเปิดศักราชสู่การสร้างแบรนด์ของ Peter Lam ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งก่อนหน้า Jacky Lam ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทกล่าวว่า Peter Lam กำลังเปลี่ยนไปสู่การเป็นบริษัทเครื่องประดับที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่และทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องของลูกค้าทั่วโลก
Dreamcatcher ได้แรงบันดาลใจจากงานหัตถกรรมที่เชื่อกันว่าใช้จับฝันร้ายได้ตามคติความเชื่อของชนพื้นเมืองอเมริกัน คอลเล็กชันนี้ประกอบด้วยเครื่องประดับทองฝังเพชรหลากหลายรูปแบบ ทั้งสร้อยคอ ต่างหู แหวน และกำไล
 
Pansy Kong จาก Perfect Group Holdings Ltd กล่าวว่า บริษัทได้นำเสนอชุดเครื่องประดับเพชรชุดใหม่ซึ่งออกแบบอย่างเรียบง่ายและใช้อัญมณีน้อยลง “ราคาต่ำกว่าสินค้าที่เราขายทั่วไปอยู่เล็กน้อย เราผลิตคอลเล็กชันนี้เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าที่มีราคาเอื้อมถึงได้มากขึ้นในปัจจุบัน ราคาขายส่งอยู่ที่ตั้งแต่สองถึงสามร้อยเหรียญสหรัฐขึ้นไป” Kong กล่าว
 
เจ้าหน้าที่บริษัทรายนี้กล่าวว่า วันแรกในงานแสดงสินค้าที่ HKCEC “ได้ผลตอบรับดีมาก” โดยผู้ผลิตรายนี้ได้พบผู้ซื้อจากตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ และสหรัฐ
 
Kong ระบุว่า คอลเล็กชันใหม่มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อรุ่นใหม่ซึ่งกำลังมองหาเครื่องประดับที่มีรูปแบบเรียบง่ายงดงาม “เสียงตอบรับจากลูกค้าเท่าที่ผ่านมานับว่าเป็นที่น่าพอใจทีเดียว” Kong เสริม
 
สมบัติหลากสี
 
เครื่องประดับพลอยสีก็ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อในงานครั้งนี้เช่นกัน บริษัท Universal Jewellery Company Ltd ในฮ่องกง กลายเป็นที่จับตามองจากเครื่องประดับพลอยสีที่จัดแสดงอย่างหลากหลายละลานตาในห้อง Grand Hall ของ HKCEC
 
กรรมการบริษัท Lydia Kwan กล่าวว่า บริษัทมุ่งเป้าหมายไปยังผู้ซื้อจากเอเชีย สหรัฐ แคนาดา และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก “เราเชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับพลอยสีคุณภาพสูงที่ตกแต่งด้วยหยก โอปอ แซปไฟร์ ทับทิม ไข่มุก อะความารีน และเพชร” Kwan ระบุ
 
เช่นเดียวกัน ผู้ผลิตเครื่องประดับ Unique Brilliant Ltd จากฮ่องกงก็ปรากฏตัวอย่างโดดเด่นด้วยผลงานเครื่องประดับชิ้นพิเศษในงาน Hong Kong Fair เดือนกันยายน 2016 โดยงานชิ้นสำคัญที่สุดคือแหวนอเล็กซานไดรต์ตาแมวขนาด 100.07 กะรัต ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 30,000 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต หรือราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
“อเล็กซานไดรต์เปลี่ยนสีได้นี้มาจากศรีลังกา เป็นพลอยที่ค่อนข้างใสสะอาดเมื่อเทียบกับขนาดของมัน และมีเส้นตรงเด่นชัดที่กลางเม็ด อัญมณีเม็ดนี้ได้รับใบรับรองจากสามแหล่งคือ AGL, GRS และ Gübelin” Denise Adelaide Sjuman กรรมการของ Unique Brilliant กล่าว
 
เธอระบุว่าได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากลูกค้า พร้อมเสริมว่าผู้ซื้อจากสวิตเซอร์แลนด์และจีนจำนวนหนึ่งแสดงความสนใจเครื่องประดับชิ้นดังกล่าว
 
บริษัทยังได้จัดแสดงแหวนซึ่งมีอัญมณีหลักเป็นแซปไฟร์แพดพาแรดชาขนาด 24 กะรัตจากศรีลังกาด้วย อัญมณีเม็ดนี้มีเสน่ห์งดงามด้วยสีชมพูอมส้มและขายอยู่ที่ราคา 30,000 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต
 
Sjuman เล็งเห็นแนวโน้มที่สดใสในอุตสาหกรรมเครื่องประดับพลอยสีตลอดทั้งปี โดยเสริมว่าตลาดกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ “ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดของนักลงทุนยังคงเป็นพลอยที่ไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน เช่น ทับทิมที่มีคุณภาพสีดีเยี่ยมและหยกจักรพรรดิ อัญมณีเหล่านี้ไม่เคยมีมูลค่าลดลง” Sjuman กล่าว
 
Chia Ta Jewellery Co Ltd ในฮ่องกง กล่าวถึงการตอบรับเชิงบวกที่ผู้ซื้อมีต่อเครื่องประดับหยกระดับคุณภาพสูงซึ่งบริษัทเปิดตัวในงาน Hong Kong Fair เดือนกันยายนที่ผ่านมา
 
Yu Chung TA ประธานบริษัทกล่าวว่า คอลเล็กชันอันงดงามซึ่งประกอบด้วยต่างหู แหวน และสร้อยคอนี้ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อนักธุรกิจที่มาร่วมงาน “เนื่องจากงานทุกชิ้นผลิตเป็นจำนวนจำกัด หลายครั้งจึงมีการตกลงซื้อขายกันจนจบที่งานเลย” เขากล่าว
 
ตามความเห็นของ Yu ช่วงนี้นับเป็นเวลาอันเหมาะสมสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการเข้าสู่ตลาดการลงทุนผ่านเครื่องประดับ ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
 
“เวลานี้ตลาดโดยรวมน่าจะอยู่ที่จุดต่ำสุด จึงนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในเครื่องประดับระดับสูง เช่น หยกเกรดสูง ทับทิม และแซปไฟร์ เพราะช่วงนี้สินค้ามีราคาดีที่สุดแล้ว อัญมณีเหล่านี้ช่วยเก็บรักษาความมั่งคั่งได้เป็นอย่างดีและมีโอกาสเติบโตสูงเมื่อสภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว เครื่องประดับระดับสูงจึงเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าหายากและควรค่าแก่การลงทุน” ผู้บริหารรายนี้อธิบาย

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที