khwanjai

ผู้เขียน : khwanjai

อัพเดท: 10 ม.ค. 2017 22.34 น. บทความนี้มีผู้ชม: 97087 ครั้ง

ในบรรดาหนังสือประเภท How to ที่ฉันได้อ่านมา ไม่สามารถเปรียบเทียบกับคุณค่าที่ได้รับจากอ่านหนังสือ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เลย ที่ผ่านมาฉันอยู่ในภาวะใกล้เกลือกินด่าง ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมี จนกระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นวันที่ปวงชนชาวไทยได้สูญเสีย กษัตริย์ผู้ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยทั้งประเทศ
การเริ่มต้นศึกษาถึงเรื่องราว ชีวประวัติ และคำสั่งสอนของพระองค์ท่านอย่างจริงจัง ทำให้ฉันค้นพบว่า เราไม่จำเป็นต้องหา How to ที่ไหนเลย เพราะ How to ที่แท้จริงอยู่ในจิตใจของคนไทยทั้งประเทศอยู่แล้ว พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้กับคนไทยทุกด้านทั้งการ คิด พูด ทำ ....แต่ทำไมตัวฉันถึงไม่ทำ
คนโง่ คือ คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองบกพร่องตรงไหน เพราะถ้าไม่รู้ว่าเราบกพร่องตรงไหน เราก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
คนฉลาด คือ คนที่รู้ว่าตัวเองบกพร่องตรงไหน และพยายามแก้ไขข้อบกพร่องหรือพัฒนาปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น
คนทุกคนเคยผ่านความโง่มาก่อนที่จะเป็นคนฉลาด ที่ผ่านมาฉันเคยโง่มาก่อน ไม่รู้ว่าคุณค่าที่แท้จริงที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงให้กับประชาชนมีคุณค่ามหาศาลมากมายขนาดไหน ศาสนาพุทธสอนไว้ว่า “ธรรมใดก็ไร้ค่า ถ้าไม่ลงมือทำ”
การเริ่มต้นเดินทางของฉันนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใคร่ขออุทิศตนในการศึกษาเรื่องราว วิธีคิด การดำเนินชีวิตของพระองค์ท่าน ผ่านการจัดทำหนังสือส่วนตัวภายใต้ชื่อ “เรียงร้อยพันเรื่องราวรอยพระบาท” โดยมีเป้าหมายทำ ‘10 เล่ม เล่มละ 100 เรื่องราวรอยพระบาทที่พระองค์ทรงทำ’ โดยใช้ความเพียรที่พระองค์ท่านสอน และเป็นแบบอย่างให้ดูตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา อาจจะไม่รู้จุดจบที่แน่นอน แต่มีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน และทำทุกวันเพื่อถวายแด่องค์ราชันย์มหาราชของคนไทยทุกคน

Website เจ้าของผลงาน www.2b2train.com
Facebook: https://www.facebook.com/ebook4ookbee/
Storylog: https://storylog.co/khwanjai/book/581a5bfd9d526ab1781f27ba

ท่านใดต้องการติดต่อให้เป็นนักเขียนประจำคอลัมภ์ หรือลงวารสาร
ติดต่อได้ที่ email: linpootsm3@gmail.com หรือ Tel 0897333790 (หลิน)


ความหวังที่แท้จริง สำหรับหนึ่งชีวิตที่เกิดมา

    มีใครเคยกำหนดเป้าหมายของชีวิตมั้ยค่ะ น่าจะเคยมีกันทุกคนเพราะทุกๆวันที่พวกเราต้องทำงาน ต้องกิน ต้องเดิน ต่างทำไปเพื่อมีเป้าหมายบางสิ่งบางอย่างให้เราต้องทำอย่างนั้น มีหนังสือมากมายเหลือเกินที่บอกถึงเป้าหมายของการใช้ชีวิตว่ามีความสำคัญมาก ชีวิตเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเป้าหมาย แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญมากกว่าเป้าหมาย คือ ความหวัง

 

“อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขาเหลืออยู่”

-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช-

 

เป้าหมาย คือ สิ่งที่เราต้องทำเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่เรากำหนดขึ้นว่าจะต้องมีในอนาคต ส่วน ความหวัง คือ การต่อลมหายใจในการใช้ชีวิตเพื่อบางสิ่งบางอย่างในอนาคต มีคำถามหนึ่งที่อยากให้ช่วยกันคิด.......

ชีวิตเราควรจะอยู่ด้วยเป้าหมาย หรือความหวัง?

ติ๊ก....ต๊อก.....ติ๊ก....ต๊อก.....ติ๊ก....ต๊อก.....หมดเวลาสำหรับคำถาม

ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง แต่มีคำตอบที่อยากจะบอก คือ

ถ้าเราต้องการมีความสุขกับปัจจุบันเราต้องอยู่ด้วยความหวัง.......ถ้าเราต้องการมีความสุขกับอนาคตต้องอยู่ด้วยเป้าหมาย

หลักการข้อหนึ่งของการใช้ชีวิต คือ การอยู่กับปัจจุบัน เพราะอนาคต คือผลของการกระทำในปัจจุบัน ทำไมความหวังถึงทำให้เรามีความสุขกับปัจจุบัน เช่น เราหวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะ.มีโอกาสได้พบคนที่เรารักอีกสักครั้ง สักวันหนึ่งเราจะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว สักวันหนึ่งเราจะ........

เมื่อเรามีความหวังจะทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เราจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความหวังนั้น เช่น การรักษาชีวิตและสุขภาพให้ดี เพื่อความหวังในบางสิ่งบางอย่าง ในขณะที่เป้าหมาย คือ การเร่งทำบางสิ่งบางอย่างโดยอาจจะไม่หวังผลในด้านความสุขรู้สึก เช่น เป้าหมายขอเงินเก็บ 1 ล้านในอายุ 30 ปี แล้วเราก็เร่งทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเป้าหมายนั้น

ดังนั้นคนเราควรอยู่ด้วยความหวัง เพราะความหวังจะช่วยเติมเต็มความรู้สึกบางสิ่งบางอย่าง ความหวังทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน และความหวังสามารถสร้างอนาคตที่มุ่งหวังได้ ถ้าเราไม่หวังแบบลมๆแล้งๆ และความหวังของเราจะส่งผลต่ออนาคต เพียงแต่เราทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อความหวังเดียวที่เราเหลืออยู่ ชีวิตอาจจะมีหลายเป้าหมายได้ แต่ความหวังที่แท้จริงมีไม่มากนักสำหรับหนึ่งชีวิตที่เกิดมา

 

“….ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เป็นอยู่แก่เราในวันนี้ย่อมมีต้นเรื่องมาก่อน ต้นเรื่องนั้นคือ เหตุ สิ่งที่ได้รับคือ ผล ...ให้พิจารณาการกระทำหรือกรรมของตนให้ดีนั่นเอง คนเราโดยมากมักนึกว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้ แต่ที่จริงเราทราบได้เหมือนกัน เพราะอนาคต คือผลของการกระทำในปัจจุบัน” -พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช-

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที