สายฝนเทกระหน่ำตกลงมาในยามย่ำรุ่งที่แสนจะเดียวดาย ท่ามกลางผู้คนที่กำลังหลับใหลใน นิททรา ภาพของพระราชาที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ย้อนนึกถึงช่วงเวลาในอดีต ที่ครั้งหนึ่งใครหลายๆคน ได้มีโอกาสฟังเสียงจากฟากฟ้า VR009 พระสุรเสียงที่คอยฟังรับเสียงของประชาชน ในแถบทุกทั่วสารทิศของแผ่นดินไทย
เสียงที่คิดว่า...พูดไปแล้วไม่มีใครยิน...ไม่มีใครสนใจ…
แต่ยังมีอีกคนที่ยังคงอยู่ คอยรับฟังตลอดเวลา….
สายฝนยังคงเทกระหน่ำไม่ขาดสาย ทำให้พลอยคิดถึงเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่เคยเกิดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
“ถ้าเกิดน้ำท่วมอีกครั้ง จะทำยังไงดี! ไม่มีในหลวงแล้ว”...ฉันพูดกับคนที่อยู่ใกล้ตัว ซึ่งรับรู้ได้ถึงความกลัวที่อยู่ลึกๆในใจ ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านด้วยกัน
“…...................” ไม่มีคำตอบใดๆจากชายผู้นั้น นอกจากแววตาที่มองดูเศร้าอยู่ลึกๆ อยู่ชั่วขณะก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า
“ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป........”
สายฝนเริ่มสร่างลง หลังจากตกหนักมาเกือบชั่วโมง แสงตะวันเริ่มฉายแสง ความแห้งแล้งที่อยู่ในใจเริ่มเลือนหาย เมื่อมองเห็นหน้าพระองค์บนปกสีทองที่อร่ามเรืองรอง ราวกับแสงตะวันยามเช้าที่พร้อมจะสาดส่องไปทั่วทุกสาระแหงบนโลกใบนี้
สายฝน สายลม แสงแดด ช่างเป็นอะไรที่มาควบคู่กันเสมอ จนมีใครบางคนต้องปลอบตัวเองเวลามีความทุกข์ว่า ‘สักวันหนึ่ง ฟ้าหลังฝนจากเข้ามาแทนที่’
ความทุกข์ในครั้งนี้ เปรียบได้กับสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาในยามใกล้ฟ้าสาง ซึ่งราวกับเสียงกรีดร้องด้วยความโศกตรมของเหล่านกกา เทวดา สาธุชน ที่อยู่ร่วมกันบนแผ่นดินและแผ่นฟ้า
พลันสิ้นเสียงแผดร้อง สายลม แสงแดด ก็เริ่มจะสาดส่องเข้ามา พร้อมเสียงกระซิบจากฟากฟ้า เพื่อจะบอกให้ใครหลายคนได้รู้ว่า........ขอฝากแผ่นดินไทย ให้คนไทยช่วยดูแลกันด้วยนะ.....
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที