เกาะกระแสเทรนด์เครื่องประดับแพลทินัมด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมกับแนวโน้มสถานการณ์ตลาดแพลทินัมในปีนี้
แพลทินัมในแหวนแต่งงาน
“แหวนของผู้ชายมีขนาดกว้างขึ้น” Luker เสริม “เราได้เห็นการใช้พื้นผิวที่น่าสนใจและการผสมผสานโลหะชนิดต่างๆ โดยโลหะที่ใช้มักเป็นแพลทินัมผสมกับทองหรือสเตนเลสสตีล”
กลับมายิ่งใหญ่
ด้วยความสามารถของเครื่องพิมพ์สามมิติและการพัฒนาผงแพลทินัมในระยะหลังมานี้เพื่อใช้ในการเผาผนึกด้วยเลเซอร์ลงบนโลหะโดยตรง (Direct Metal Laser Sintering) นักออกแบบจึงมีทางเลือกมากกว่าที่เคยเป็นมาในการสร้างชิ้นงานขนาดใหญ่แต่มีน้ำหนักเบาจากโลหะที่มีความหนาแน่นสูงชนิดนี้ “เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างชิ้นงานขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ ขณะเดียวกันก็หาวิธีการทำให้ชิ้นงานดูโปร่งเบามากขึ้นด้วยการใช้ที่ว่าง” Luker กล่าว “เราได้เห็นชิ้นงานขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำไลที่น่าสนใจหลายแบบซึ่งทำจากแพลทินัม เรายังได้เห็นต่างหูเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในอดีตเป็นงานที่ท้าทายเนื่องจากแพลทินัมมีน้ำหนักมาก นักออกแบบซึ่งเคยเลิกใช้แพลทินัมก็กำลังกลับมาสนใจโลหะชนิดนี้อีกครั้งเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ ระดับราคาของแพลทินัมในปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาทองคำ (ราคาแพลทินัมในเดือนกรกฎาคม 2016 อยู่ที่ราว 1,000 - 1,100 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์) ซึ่งก็มีส่วนช่วยเช่นกัน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับการออกแบบเครื่องประดับโดยใช้แพลทินัม”
ใช้ขนาดสร้างความโดดเด่น
งานออกแบบที่เน้นขนาดพบเห็นได้ในเครื่องประดับประเภทสร้อยคอในปัจจุบัน “เราเห็นสร้อยคอแพลทินัมจำนวนมากในระยะหลัง” Luker กล่าว “เครื่องประดับกลุ่มนี้กำลังมาแรงในงานประกวดช่วงต้นปีที่
ผ่านมา” และกระแสนี้ดูเหมือนจะครอบคลุมตั้งแต่แวดวงฮอลลีวู้ดไปจนถึงย่านการค้าทั่วไป “ผู้หญิงหลายคนจับคู่สร้อยคอขนาดเล็กซึ่งเน้นงานออกแบบโลหะ เข้ากับชิ้นงานขนาดใหญ่ซึ่งประดับด้วยเพชรและพลอยสีเพื่อช่วยสร้างรูปลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น” ในส่วนของสร้อยคอขนาดเล็ก เส้นสายที่เรียบง่ายสะอาดตาถือเป็นสิ่งสำคัญ ขณะที่อัญมณีขนาดใหญ่นั้นใช้สำหรับชิ้นงานที่ใหญ่กว่า
แนวโน้มตลาดแพลทินัมปี 2016
ตามรายงาน GFMS* Platinum & Palladium Survey 2016 ราคาแพลทินัมโดยเฉลี่ยในปี 2015 ลดลงร้อยละ 24 มาอยู่ที่ 1,053 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ นับเป็นราคาเฉลี่ยต่อปีที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาลดต่ำลงมาก ได้แก่ การผลิตจากเหมืองในแอฟริกาใต้ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 หลังจากการประท้วงหยุดงานนานห้าเดือนในปี 2014 การอ่อนตัวของค่าเงินในแอฟริกาใต้ ตลอดจนข่าวอื้อฉาวเรื่องการปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์ดีเซลของ Volkswagen ซึ่งทำให้ตลาดหันมาพิจารณาถึงอนาคตของแพลทินัม (เนื่องจากเราใช้แพลทินัมผลิตตัวเร่งปฏิกริยาในเครื่องยนต์ดีเซล)
แม้ว่ามีราคาต่ำ แต่เศษแพลทินัมจากเครื่องประดับทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ไปอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการที่เศษโลหะแพลทินัมจากจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เนื่องจากจุดรับซื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นและแรงกดดันทางเศรษฐกิจทำให้คนนำเครื่องประดับออกมาขายด้วยความจำเป็นด้านการเงิน นอกจากนี้ จีนยังมีส่วนสำคัญต่อการลดลงของปริมาณการผลิตเครื่องประดับแพลทินัมทั่วโลกมาอยู่ที่ 2.46 ล้านออนซ์ หรือคิดเป็นร้อยละ 4 เนื่องจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจในประเทศส่งผลให้ผู้บริโภคจำกัดการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ในเมื่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนยังคงไม่แน่นอน จึงคาดกันว่าผู้บริโภคจะยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายและความต้องการซื้อในภาคธุรกิจเครื่องประดับของจีนก็จะยังลดต่ำลงต่อเนื่องในปีนี้
GFMS คาดการณ์ว่าตลาดแพลทินัมจะกลับไปขาดดุลเชิงกายภาพเล็กน้อยในปีนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากอุปทานจากเหมืองที่ลดต่ำลง เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาในแผนงานลดน้อยลง GFMS เชื่อด้วยว่าการที่สหรัฐฯ ใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะเป็นแรงสนับสนุนที่ช่วยเบิกทางให้แพลทินัมมีระดับราคาสูงขึ้นในปี 2016
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สิงหาคม 2559
------------------------------------------
ที่มา: “Platinum trends.” by Shawna Kulpa. MJSA JOURNAL. (July 2016: pp. 28-29).
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
