หนองคายเป็นจังหวัดชายแดนทางภาคอีสานที่มีอาณาเขตติดต่อกับกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐ-ประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป. ลาว จึงมีการค้าขายสินค้าระหว่างคนไทยและคนลาวมาโดยตลอดเนื่องด้วยไทยมีสินค้าคุณภาพดีหลากหลายประเภทและมีราคาไม่สูงมากนัก คนลาวจึงมักเดินทางเข้ามายังจังหวัดหนองคายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ ซึ่งรวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับในย่านการค้าปลีกตามแนวถนนสำคัญ หรือในห้างสรรพสินค้า เช่น เทสโก้โลตัส และศูนย์การค้าอัศวรรณ เป็นต้น อีกทั้งหนองคายยังเป็นเส้นทางส่งผ่านสินค้าไทยเข้าสู่ลาวและเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าระหว่างลาวและจังหวัดชายแดนอีสานอื่นๆ โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี ซึ่งคนลาวที่มีฐานะดีมักขับรถส่วนตัวข้ามมายังฝั่งไทยผ่านจังหวัดหนองคายเข้ามายังตัวเมืองจังหวัดอุดรธานีเพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ รวมทั้งสินค้าเครื่องประดับแบรนด์เนมชื่อดังดีไซน์หรูหราในห้างสรรพสินค้า หรือเครื่องประดับทองรูปพรรณและเครื่องประดับเพชรจากร้านค้าปลีกชั้นนำในย่านการค้าสำคัญช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์
ตลาดค้าอัญมณีและเครื่องประดับในจังหวัดหนองคายนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก แม้สภาพการค้าขายไม่คึกคักมากแต่ก็มีลูกค้าคนไทยเข้าออกเกือบทุกร้าน เนื่องด้วยคนหนองคายบางส่วนที่มีฐานะร่ำรวยมักเดินทางไปเลือกซื้อสินค้าเครื่องประดับคุณภาพสูงจากร้านค้าชื่อดังย่านเยาวราชหรือร้านแบรนด์ชั้นนำในห้างสรรพสินค้าที่กรุงเทพฯ และในอุดรธานี ขณะที่กลุ่มชนชั้นกลางในท้องถิ่นส่วนมากนิยมซื้อเครื่องประดับทองรูปพรรณ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสามารถนำกลับไปฝากรับจำนำได้หากต้องการเงินสดหมุนเวียน
ย่านร้านค้าปลีกส่วนมากมักตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญใจกลางเทศบาลเมืองหนองคายได้แก่ ถนนมีชัย และถนนประจักษ์ รวมถึงถนนริมโขง ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดท่าเสด็จ สำหรับร้านค้าเครื่องประดับบนถนนมีชัยมีอยู่ราว 6 ร้านในบริเวณใกล้เคียงกัน ส่วนถนนประจักษ์ มีทั้งหมดประมาณ 7 ร้านตั้งกระจายอยู่ตามแนวถนนสองข้าง ซึ่งร้านค้าปลีกเครื่องประดับเหล่านี้ส่วนมากมีลักษณะเป็นร้านค้าทองตู้แดงที่จำหน่ายเครื่องประดับทองรูปพรรณเป็นหลัก โดยมากเป็นทองคำ 96.5% ขณะที่บางร้านก็วางขายเครื่องประดับทอง 99% (24 กะรัต) อยู่บ้าง บางส่วนเป็นเครื่องประดับทองล้วนลงยาเป็นลวดลายต่างๆ รวมถึงเกือบทุกร้านยังจำหน่ายเครื่องประดับทองโทนสีเหลือง 22 กะรัต เครื่องประดับทองขาว 18 กะรัต ตกแต่งเพชรหรือพลอยสี และกรอบพระเลี่ยมทองคำร่วมด้วย ซึ่งเครื่องประดับที่จำหน่ายเกือบทั้งหมดสั่งซื้อมาจากโรงงานผลิตหรือร้านค้าเครื่องประดับย่านเยาวราชในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ การจำหน่ายเครื่องประดับทองนั้นอ้างอิงราคาทองคำประจำวันที่ทางสมาคมผู้ค้าทองคำประกาศ แต่หากเป็นเครื่องประดับเพชรเห็นได้ว่าเกือบทุกร้านมักตั้งราคาสินค้าไว้ค่อนข้างสูง โดยจะเสนอโปรโมชั่นส่วนลดถึงราวร้อยละ 30-40 จากราคาขายที่ตั้งไว้ รวมทั้งมีกลยุทธ์การขายในการดึงดูดลูกค้าด้วยการสะสมแต้มจากยอดซื้อสินค้าเพื่อแลกรับของรางวัลอีกด้วย ทั้งนี้ ร้านค้าปลีกเครื่องประดับดังกล่าวจะเปิดจำหน่ายสินค้าในช่วงวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ระหว่างช่วงเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 16.30 น.
ส่วนรูปแบบการค้าปลีกสมัยใหม่ในตัวเมืองหนองคายนั้น มีเพียงห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง 3 แห่ง ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัสซึ่งมีร้านเครื่องประดับทองเพียง 1 ร้าน และศูนย์การค้าอัศวรรณ 2 แห่ง ซึ่งมีร้านค้าปลีกเครื่องประดับรวมกันอยู่ราว 4 ร้าน โดยหนึ่งในนั้นเป็นแบรนด์ยูบิลลี่ที่วางจำหน่ายเครื่องประดับเพชรในลักษณะเคาน์เตอร์ สำหรับรูปแบบเครื่องประดับของร้านค้าปลีกรายอื่นส่วนใหญ่เน้นเครื่องประดับทองรูปพรรณ และเครื่องประดับเพชร โดยเปิดจำหน่ายสินค้าทุกวันตามเวลาเปิดปิดของห้างสรรพสินค้า
กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าเครื่องประดับในย่านการค้าดังกล่าวนอกเหนือจากคนไทยที่อาศัยอยู่ในหนองคายและบริเวณใกล้เคียง ก็คือคนลาวที่ข้ามมาซื้อสินค้ายังฝั่งไทยซึ่งนิยมซื้อเครื่องประดับเพชร และเครื่องประดับทองเป็นหลัก โดยหากเป็นคนลาวที่มีฐานะร่ำรวยมักนิยมซื้อชิ้นงานเครื่องประดับที่มีลวดลายหรูหราเป็นเซตครบชุด เช่น ลวดลายดอกพิกุลที่ผลิตขึ้นด้วยมือในรูปแบบเครื่องประดับทองสุโขทัย หรือเครื่องประดับตกแต่งเพชรขนาดมากกว่า 1 กะรัตเป็นต้นไป พร้อมใบรับรองคุณภาพเพชรจากสถาบันตรวจสอบชั้นนำ โดยนิยมซื้อสินค้าด้วยเงินสด นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและคนลาวมักนิยมนำเครื่องประดับทองที่ซื้อไปแล้วกลับมาฝากรับจำนำไว้ หรือขายคืน หรือแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าลวดลายใหม่กับทางร้านที่ซื้อไปด้วย โดยหากเป็นการฝากจำนำเครื่องประดับทองไว้ร้านค้าจะคิดดอกเบี้ยราวร้อยละ 2 ต่อเดือน หากขายคืนจะถูกหักราคาสินค้าลงร้อยละ 10 จากราคาซื้อ แต่หากนำมาเปลี่ยนเป็นสินค้าใหม่จะหักร้อยละ 8 จากราคาที่ซื้อไป
ส่วนร้านค้าเครื่องประดับบนถนนริมโขงมี 1 ร้าน ซึ่งภายในร้านมีการตกแต่งจัดวางสินค้าอย่างทันสมัยในแนวศิลป์ จำหน่ายตลับพระ พร้อมเครื่องประดับแท้ดีไซน์หรูหราร่วมสมัยที่รังสรรค์การออกแบบด้วยตนเองทั้งเครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน ตกแต่งอัญมณีไม่ว่าจะเป็นพลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อน หยกแกะสลัก รวมถึงหินสี ซึ่งอัญมณีที่ตกแต่งบนชิ้นงานนั้นมีคุณภาพสูง โดยอัญมณีบางส่วนนำเข้ามาจากฮ่องกง สำหรับลูกค้าหลักของทางร้านส่วนมากเป็นคนในท้องถิ่นที่มีฐานะร่ำรวย
ขณะที่ร้านค้าปลีกในตลาดท่าเสด็จส่วนใหญ่เน้นจำหน่ายเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับเงินเคลือบหรือชุบด้วยทอง เครื่องประดับเงินลงยา ทั้งที่ตกแต่งและไม่ตกแต่งอัญมณี โดยอัญมณีส่วนมากเป็นพลอยสีทั้งพลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนที่ผลิตได้ในลาวหรือนำมาจากจันทบุรี หรือพลอยสังเคราะห์หรือพลอยเลียนแบบ ซึ่งชิ้นงานเครื่องประดับของบางร้านนั้นใช้เหรียญเงินสลึง หรือเหรียญเงินยูโรมาหลอมทำเป็นตัวเรือนเครื่องประดับ รวมถึงหลายร้านในลักษณะแผงวางสินค้ายังจำหน่ายเครื่องประดับแฟชั่นด้วย ซึ่งภายในตลาดนี้มีจำนวนร้านค้าปลีกรวมอยู่ราว 20 ร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย และคนลาวที่ข้ามมาซื้อสินค้าเครื่องประดับจากไทย
แม้บรรยากาศของตลาดการค้าขายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในจังหวัดหนองคายจะไม่คึกคักนัก และนับเป็นตลาดขนาดเล็กที่มีศักยภาพการบริโภคไม่สูงมากเมื่อเทียบกับจังหวัดอุดรธานีซึ่งมีความเจริญของเมืองมากกว่าและถือเป็นฐานการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญในภาคอีสานซึ่งสามารถดึงดูดผู้บริโภคชาวลาวจำนวนไม่น้อยให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยสินค้าผ่านการเดินทางข้ามมาทางจังหวัดหนองคาย หากแต่หนองคายก็ยังคงเป็นประตูหน้าด่านที่สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ซึ่งเชื่อมการค้าชายแดนระหว่างไทยและลาว รวมถึงเป็นเส้นทางหลักในการส่งผ่านสินค้าจากจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานของไทยไปจำหน่ายยังกรุงเวียงจันทน์และเมืองอื่นๆ ในลาวด้วย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
