ช่องทางจำหน่ายเครื่องประดับในเยอรมนีที่สำคัญ คือ การขายผ่านตัวแทนนำเข้า ซึ่งนับเป็นช่องทางหลักที่ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เลือกใช้ ตัวแทนนำเข้าหรือบริษัทนำเข้าจะทราบกฎระเบียบการนำเข้า ตลอดจนรูปแบบและมาตรฐานสินค้าที่ร้านค้าปลีกต้องการเป็นอย่างดี ดังนั้น การขายสินค้าผ่านบริษัทนำเข้าจึงเป็นหนทางให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ง่ายและประหยัดเวลาผ่านเครือข่ายของตัวแทนนำเข้า โดยบริษัทนำเข้าก็จะนำสินค้าไปกระจายต่อยังร้านค้าปลีกเครื่องประดับ อาทิ เชนสโตร์ เช่น CHRIST ที่มีกว่า 250 สาขาทั่วเยอรมนีและจำหน่ายสินค้าหลากหลายแบรนด์ หรือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า เช่น GALERIA Kaufhof หรือ KaDeWe Berlin เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสามารถติดต่อร้านค้าปลีกเครื่องประดับหรือห้างสรรพสินค้าได้โดยตรง แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกฎระเบียบตลอดจนมาตรฐานข้อกำหนดของร้านค้าปลีกเหล่านี้มากพอสมควร
ส่วนช่องทางการจำหน่ายที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันและกำลังเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ คือ อินเตอร์เน็ต โดยเยอรมนีนับเป็นตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งในยุโรป ตามรายงานสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ระบุว่า มีประชากรกว่าร้อยละ 53 ของประชากรทั้งหมดใช้บริการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคในช่วงอายุ 25-44 ปี รองลงมาเป็นผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 45-64 ปี ซึ่งการซื้อสินค้าออนไลน์นั้น ผู้ซื้อจะคำนึงถึงความมั่นใจและความปลอดภัยในการซื้อขายมากกว่าราคาสินค้า ทั้งนี้ เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวเยอรมนีสูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2557 ได้แก่ อเมซอน (Amazon) อีเบย์ (Ebay) และออตโต้ (Otto) ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงอาจพิจารณาขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งช่องทางนี้มีต้นทุนต่ำกว่าช่องทางตลาดอื่นมาก แต่สามารถทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไม่จำกัด
สุดท้ายคือช่องทางคลาสสิคที่ใช้กันมาอย่างต่อเนื่องนั่นคือ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก “Inhorgenta Munich” จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ล่าสุดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจะทำให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและผู้นำเข้าเยอรมนีและอาจทำให้ได้พันธมิตรทางการค้าในระยะยาว ส่วนผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้องการส่งสินค้าเข้าตลาดนี้แต่ติดขัดในเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถใช้วิธีง่ายๆ ซึ่งได้ผลดีด้วยการส่งอีเมล์แนะนำบริษัทและสินค้าไปยังผู้นำเข้าเยอรมนี บริษัทไทยหลายรายก็สำเร็จได้ด้วยวิธีนี้ โดยสามารถสืบค้นรายชื่อผู้นำเข้าเยอรมนีได้ที่ระบบฐานข้อมูลด้านการตลาด www.git.or.th/gem
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
