วีรพล

ผู้เขียน : วีรพล

อัพเดท: 29 พ.ย. 2006 19.08 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3687 ครั้ง

รวมเรื่องราวของเพื่อนเอกภาษาญี่ปุ่น ที่เขียนรวมเล่มแจกเพื่อนในงานรับปริญญา


บาป

บาป  N

เด็กหนุ่มพะเยาดินแดนดอกคำใต้   ที่ไม่มีใครกล้าหลอกมันไปทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นคนที่ไม่เหมือนใครด้วยช่วงขาที่ตั้งแต่ตีนจนถึงเข่าสั้นเกินปกติทำให้เขาดูตัวเตี้ยไปโดยปริยาย  ตอนปีหนึ่งถูกเพื่อนๆกล่าวหาว่ามันไปกิน Black   “เฮ้ย! ไอ้ริดกินBlack”  ก็เลยถูกเรียกไปพักหนึ่งแต่ชื่อนี้ไม่ได้รับความนิยมหลังจากนั้นจึงเงียบหายไป.....   ดูจากรูปร่างภายนอกแล้วไม่น่าจะเป็น  นักศึกษาในระดับอุดมศึกษมากเท่าไรนัก  เหมือนเด็กพิการทางสมองที่ถูกส่งไปอยู่บ้านเมตตาด้วยร่างที่ดูเหมือนฮอบบิดตัวน้อยในมหากาพย์เรื่อง  The Lord Of The Ring    ไอ้ริดเป็นคนนับถือศาสนาอิสลามแต่ทำตัวซะ ไม่เหมือนคนนับถือศาสนาอิสลาม  แล้วยังมาบอกว่ามีเชื้อจีน!  แล้วคุณรู้ไหมละครับว่าไม่ว่างานไหนๆของคนจีนเขากินหมูกันทั้งนั้น  เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคนจีนแต่นับถือศาสนาอิสลามนี้แหละ...

“รู้จักเรือโนอา หรือ ที่เรียกอีกอย่างว่า Noah  s  ark ไหม” เป็นประโยคขึ้นต้นการเสวนาที่ไอ้ริดพูดขึ้นมา....

วี              “เออ...รู้จักที่น้ำท่วมโลกแล้วมีใครซักคนรู้สึกจะชื่อ Noah 

สร้างเรือแล้วนำสัตว์ทุกอย่างบนโลกอย่างละคู่ขึ้นไปบนเรือ เพื่อหนีน้ำใช่ปะ”

ไอ้ริด      “เออนั้นแหละ     รู้ไหมว่ามันนานมากกว่าน้ำจะลดลงอาหารบนเรือก็หมดแล้วหมูอะ..มันตะกละในเรือไม่มีอะไรกินมันเลยกินขี้ของสัตว์ตัวอื่น  ทำให้หมูกลายเป็นสัตว์ที่กินสิ่งสกปรก    ด้วยเหตุนี้ทำให้คนที่นับถือศาสนาอิสลามไม่กินหมู”

วี              “เออ หรอ”            ผมไม่ค่อยจะเชื่อมันทำไรไม่รู้ว่าจริงอะเปล่า

สักพักมันไอ้ริดก็ พร่ำต่อไปว่า แต่เดียวนี้หมูนะเขาเลี้ยงกันดีแล้วไม่ได้กินของสกปรกเหมือนตอนอยู่ในเรือก็เลยกินได้....จากการที่มันเล่าตำนานให้ฟังก็ต้องคล้อยตามมันไปจนได้  ไอ้เราก็ดันเห็นด้วยกะมันขึ้นมาซะงั้น...  คิดในแง่ดีเขาคงไม่ชอบการแบ่งแยกชนชั้นวรรณนะที่ตอนเข้าค่ายลูกเสือหรือ ร.ด.มักที่มีการถามคำถามที่ว่าใครเป็นอิสลามบ้างเพราะจะมีปัญหาเรื่องของกิน  ก็เลยเลยตามเลย มันว่างั้นให้ทำไงได้…..(อันนี่เกิดขึ้นนานแล้วนะตอนนี้ไอ้ริดตอนนี้คงเปลี่ยนไปเป็นอิสลามเต็มตัวแล้วละ...)

ต่อมาไม่นานริดก็จะถูกเพื่อนเรียกว่าไอ้หยวน เพราะเขาอยู่ตำบลหยวนด้วยความหมั่นไส้ของเพื่อนบางคนโดยเฉพาะผม    ในคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์ที่สอนมักจะให้แต่งประโยค ที่มีความสอดคล้องกับประโยคที่พวกเราๆ เรียนๆ กันอยู่    เป็นโอกาสที่ดีที่มันจะได้พูดถึงความสวยงามและสรรเสริญต่างนานาภายในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง จนผมกลัวว่าจะมีบุคคลในห้องบางคนได้รับเชื้อบ้าที่ว่ารักบ้านเกิดซินโดรมจากมันไป .....และแล้วอยู่มาวันหนึ่งในคาบเรียนญี่ปุ่นมันก็แต่งประโยคสรรเสริญบ้านตัวเองอย่างเช่นเคย  แปลเป็นใจความภาษาไทยได้ว่า...

ไอ้ริด      “ พะเยาเป็นเมืองที่สวยและน่าอยู่ที่สุดในประเทศไทย ”

                “ คนพะเยามีแต่คนสวยและน่าตาดี”

ไม่ได้อะไรมากหรอก  ด้วยความรำคาญผมก็พูดโพล่งๆออกไปว่า “พะเยานะมีรถไฟเหมือนเชียงใหม่เมื่อไรแล้วค่อยมาคุยกัน ” ได้ผลแหะ................ริดมันอึ้งบวกกับงงไปเลย  มันคงนั่งคิดกับคำถามทีว่ามีหรือไม่มีรถไฟนี่มันดีตรงไหน หว่าแต่ว่าสักพักมันก็กลับไปสรรเสริญบ้านเกิดเมืองนอนต่อเหมือนเดิม   ผมละอ่อนใจ  กับคำสรรเสริญและสำนึกรักบ้านเกิดของมันจนชินไปเลย ......

  ถ้าจะพูดถึงความอินเทรนด์แล้วไม่พูดถึงเขาคงจะเป็นการเสียมารยาทอย่างแรงเลย  ดูได้จากการตัดผมของเขา....ตามดาราฟุตบอลที่มีชื่อว่าแบคแฮมทรงนกหัวขวาน แต่รู้สึกว่าคนในห้องไม่สังเกตเลยว่ามันตัดทรงนี้มาคงเพราะว่ามันเป็นจุดด้อยแล้วก็บอดแบบสนิทคือไม่มีใครสนใจหรอก...                           ขนาดให้ไอ้ริดมันแก้ผ้ามาเรียนก็  ชาวบ้านหรือเพื่อนในห้องคงไม่สนมันหรอก  ทำให้ความมั่นใจในตัวเองอย่างสูงของมันถูกใช้การโดยเปล่าประโยชน์ก็ขนาด ผมเรียนแทบจะเอาคนคิ้วชนกับมีนอยู่ยังไม่รู้เลยว่ามันตัดผมมา ( หรือว่าเพื่อนคนอื่นรวมทั้งตัวผมด้วยคงจะ มองมิเห็นไอ้ริดอยู่ในระดับสายตาเป็นแน่แท้  )   

ความอินเทรนด์เหล่านี้มาจากไหนก็ไอ้ริด  มันเชี่ยวชาญเรื่องหนังสือนิตยาสารทุกประเภท ไม่ว่านิตยาสารอะไรออกวันไหนมันจะได้มาจากร้านเช่าหนังสือก่อนใคร  

( แทน  ที่จะได้มาจากร้านขายหนังสือ  ...  ทำให้รู้อะไรดีๆ ที่ว่าการทำตัวอินเทรนด์นี้ก็มีแบบเอื้ออาทรด้วยแหละ.. .)  เรื่องที่ที่เขาสนใจเป็นพิเศษก็คือ   ดาราต่างประเทศและภาพยนต์ต่างประเทศ  และด้วยเหตุนี้ทำให้เขาสนใจในภาษาอังกฤษเป็นพิเศษแต่ก็ยังไม่ละทิ้งความมีสำนึกรักบ้านเกิด อย่างเช่นคำว่า  Institution มันก็ออกเสียงว่า   อิน สะ เตอ ติว ชั่น  ( อย่างชัดเจนและหนักแน่น )    ด้วยความชอบในภาษาอังกฤษนี้เองทำให้ไอ้ริดกับพี่เบียร์จับจูงมือชวนกันไปลงทะเบียนเรียนรายวิชา pheonetic กันเป็นรอบที่สองและได้เพลิดเพลินเรียนกันอย่างจุใจ

จุดนี้แหละที่ทำให้พี่เบียร์เล่นภาพกีฬามันๆของไอ้ริดบ่อยๆ  และมักจะมากระซิบให้ผมฟังว่า “เฮ้ย..วีไอ้ริดมันกางเกงเป้าแตกอีกแล้วว่ะ”

ผมก็หันไปดู “เออ...ว่ะ”  ( ตอบไปด้วยความเคยชิน )แต่ไอ้ริดมันไม่ยักรู้แฮะ

จากการนี้ทำให้มีผลการวิจัยจากเบียร์สรุปได้ว่า....

ถ้า 1 ปีมี 365 วัน 

ฉะนั้นไอ้ริดมันต้องมีกางเกง  362 ตัวภายในตู้เสื้อผ้ามันแน่นอนและเป็นกางเกงที่ซิบแตกหว่ะ

วี              “ แล้วอีก 3 ตัวหายไปไหนว่ะ จะได้ครบ 365 ตัว”

พี่เบียร์    “ ก็เหลือตัวดี ๆไว้ให้มันใส่บ้างดิ ”

วี              “ เออกู  ก็ว่างั้น ”

 

ถ้าไม่อยากขัดใจกับเพื่อนอย่าคุยเรื่องศาสนากับการเมือง 

อันนี้จริงๆ ครับจะยกตัวอย่างให้ฟัง

                ปี2544  ทักษิณ ชินวัตร  ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณเป็นคนสันกำแพง  และสันกำแพงเป็นอำเภอที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่    แต่ไม่รู้ว่าทำไมคนพะเยาอย่างไอ้ริดคนนี้ถึงเป็นแฟนคลั่ง     เหนี่ยวแน่นของทักษิณไม่ว่าใครจะว่าทักษิณอย่างไรเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเข้าหูมันเด็ดขาด....    คนนี้ว่าไม่ได้ครับ  ไม่รู้ว่าทำไมมันชอบอะไรทักษิณนักหนา...............มีอยู่ครั้งตอนปี 4 พวกเรานั่งคุยกันอยู่ดีๆไม่รู้คุยไปคุยมาวนมาเข้าเรื่องทักษิณได้ไง  แต่ช่วงที่คุยกันมันแย่งผมพูดตลอดเวลาไม่รู้เป็นอะไร     แล้วไม่ค่อยมีคนสนใจที่ผมพูดพอได้โอกาสผมพูดมันก็พูดขึ้นมาซะงั้น         เขาก็ไปสนใจมันหมดหรือว่าผมเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่องกันแน่นี่   กลับมาที่ ทักษิณดีกว่า  ช่วงนั้นภาคใต้เริ่มลุกเป็นไฟมีการแบ่งแยกดินแดนเกิดขึ้น….

………. “เพราะทักษิณนี้แหละทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ภาคใต้”

ไอ้ริด      “มึงก็ว่า   ไปทำไมไม่ไปดู  เรื่องดีๆที่เขาทำบางละดูแต่ข้อเสียคนอื่น 
เซงประเทศไทยก็เป็นแบบนี้
” ไอ้ริดถอนหายใจ 1 เฮือก

วี              “กูถามจริงเฮอะทักษิณเป็นพ่อมึงไง.......ทักษิณก็ไม่ใช่คนพะเยาสักหน่อยไมมึงชอบทักษิณจังว่ะ”

ไอ้ริด      “ มึงก็ว่าไป ไอ้วี   ที่ก็ชอบทักษิณนี่หว่า”

วี              “ เอ้า ทำไมมึงต้องไปชอบ   จนถึงขั้นบ้าอะไรขนาดนี้ว่ะ”

 ไอ้ริด      “ก็เพราะเขาเกิดวันเดียวกับกูไง”  จากนั้นพี่แกก็เอานิตรยาสารมากางให้ดูว่ามีใครเกิดเดือนและวันเดียวกับพี่ท่านแล้วก็ยกยอดว่าคนที่เกิดวันนี้เป็นทั้งคนดังๆ และคนดี๊ดี๊ทั้งสิ้น

วี              “......... ” (ฉะนั้น...ตกลงคนที่เกิดวันเดียวกับมึงเป็นคนทั้งดีทั้งดังว่างั้นเหอะ   แต่กูว่าไอ้ริดมึงอาจจะเป็นแบบเด็กแนวที่ชอบทำอะไรนอกกรอบใช่ปะ ) คิดไปคิดมานี่เหรอเหตุผลของมึง

ไอ้ริด      “มึงต้องเข้าใจคนที่เกิดวันเดียวกับกูมีแต่คนดีๆทั้งนั้นเลย”

วี              “กูไม่เข้าใจว่ามึงนะเกิดวันเดียวกับเขาหรือว่าเขาเกิดวันเดียวกับมึงกันแน่”

แล้วมึงเป็นคนดีจึงหรือว่ะ     อยู่ดีๆมึงมาเล่าให้พวกกูฟังว่ามีวัดฮินดูอยู่ที่หนึ่งพอดีคนเลี้ยงวัวนั้นเป็นคนอิสลาม แล้วดันไปเลี้ยงวัวแถวนั้นวัวมันไม่ยอมเดิน ก็เลยเฆี่ยนวัวมันหน้าวัดฮินดูนั้นแหละ.....

พี่เบียร์    “ เฮ้ยแล้วไงต่อว่ะ”

ไอ้ริด      “เช้าวันต่อมา”

พี่เบียร์    “เออแล้วไงต่อว่ะ”

ไอ้ริด      “คนที่วัดฮินดูก็เลยเอาไปต้อนหมูเข้าไปในสุเหร่าอะดิ”

ไอ้เหี้ยมึงคิดได้ไงว่ะ ( คำอุทานหยาบๆ แบบนี้กึกก้องขึ้นมาภายในจิตใจ )

 

                                         สรุปง่ายๆ  เรื่องที่คุยด้านบนนั้นนะ

ล่อแหลมต่อคุกและตาราง    แล้วอาการที่ว่านรกจะกินกะบาลคนที่คุยกันนั้นแล……..

ถึงผมจะไม่สนิทกับไอ้ริดมันแต่พวกเรา3คน  ไอ้ริด  ผม และพี่เบียร์   เวลาว่างๆ มักจะไปโลตัสกาดคำเที่ยงกัน  ที่นี่เพิ่งสร้างเสร็จตอนพวกเราย่างเข้าชั้นปีที่ 4 เดินดูของกันซักพักผมก็ประเดิมเลยด้วยแฮมหนึ่งถุง  กินกันไปกินกันมาหมด...แล้วผมต้องหิ้วถุงอยู่นานจนอารมณ์ขี้เกียจถือถุงที่ว่างเปล่าที่ติดบาร์โค้ดราคา   เกิดขึ้นมา

วี              “ ขี้เกียจถือถุงวะ   อันนี่ถ้าเราเอาไอ้ถุงบ้านี่ไปซ่อนเราก็ไม่ต้องจ่ายเงินใช่เปล่าวะ”

พี่เบียร์    “เออมั้ง....แล้วมึงจะไปซ่อนไว้ไหน  มึงกล้าเหรอ  กล้าเหรอ ”

วี              “ ไม่เอาอะ......กลัววะเดียวโดนจับได้ละยุ่งแน่”

ไอ้ริด      “..............” ไม่ออกความคิดเห็นใดๆเลย

พอเดินมาซักพักถึงลอคที่มีซองขนมเต็มเอียดไอ้ริดมันทำหน้าทำตาเหมือนตรัสรู้อะไรบางอย่างจากนั้มันไม่พูดพลั่มทำเพลง   อะไรเลยดึงถุงพลาสติกจากมือผมไปแล้วก็มองซ้าย   มองขวา  และเอาถุงพลาสติกเข้าไปด้านในล็อคขนมนั้นอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย ยิ่งกว่าบาทาไร้เงาที่แอบเตะก้นเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างคุณเสียอีก

วี              “เฮ้ยไอ้ริดมึงทำไรว่ะ  ถ้ามีกล้องวีดีโอจับไว้ละซวยเลยนะเว้ย”

ไอ้ริด      “โอย...ไม่เป็นไรหรอกนะไอ้วีมึงตื่นเต้นไปได้”

พี่เบียร์      - - ”  อึ้งไปเลยไม่คิดว่าหนุ่มน้อยน่าตาปัญญาอ่อนไร้พิษสงจะมีพิษสงมากถึงเพียงนี้

ไอ้ริด      “เอาเป็นว่ามื้อนี่กูเลี้ยงละกัน”

แนะยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก...

ไอ้นี่น้ำนิ่งไหลลึกเว้ยเฮ้ย    ไหลแรงซะด้วย

ผมเลยตกลงกับพี่เบียร์ว่า “ เฮ้ย...เบียร์ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราไม่รู้จักมันนะ”

พี่เบียร์ตอบมาอย่างไม่ขัดเขิน “เออ กูเอาด้วย” ( อนึ่งคำว่า  เอา ในที่นี้หมายถึง เอาตัวรอด นะครับ )

จากการพวกเราก็ไปนอนเล่นกันที่หอไอ้ริดมันหน่อย  ทำให้ได้รู้ว่าไอ้ริดคนนี้แหละเป็นคนที่รักธรรมชาติและรักสัตว์แต่ว่า ธรรมชาติและสัตว์นะไม่รักมัน ( ในความคิดของไอ้ริด )ด้วยการที่เขาปลูกต้นไม้ไว้ในห้อง   ถึงจะเป็นต้นกระบองเพชรต้นเล็กน่ารักๆ  ก็ตาม...แต่แล้วไม่นานนัก...ต้นกระบองเพชรก็ที่แสนจะอดทนต่อ    ความ

 แห้งแล้งก็แห้งตาย.........ผมก็ไม่รู้แต่ไอ้คนที่เลี้ยงต้นกระบองเพชรแล้วตายนี่มันมีในโลกกลมๆ ใบนี้ด้วยหรือนี่...

หลังจากที่ต้นกระบองเพชรแห้งตาย   ไอ้ริดไปเที่ยวกาดคำเที่ยงแล้วไปซื้อปลาสอดแดงและดำมาอวดเพื่อนเป็นการใหญ่

ไอ้ริด      “เป็นไง...สวยไหมน่ารักไหม”

เพื่อนๆ  “เฮ้ย...มึงไปเอามาจากไหนว่ะ”

ไอ้ริด      “ไปกาดคำเที่ยงมาไปเดินดูต้นไม้และก็ไปดูปลา กูว่ามันน่ารักนะเลยซื้อมาเลี้ยง อีกอย่างเวลามันหิวเราก็รู้ได้ดี กว่าต้นกระบองเพชรที่โต้ตอบไม่ได้แล้วก็ไอ้ต้นกระบองเพชรเราไม่รู้ว่าเวลาไหนมันต้องการอาหารเหมือนปลา ( เอ้าพี่ครับ...ก็แค่รดน้ำเวลาไหนได้วันละครั้งทำอย่างกับว่าเวลาปลามันหิวมันไปกระชากคอเสื้อมึงมาให้อาหารมันอย่างนั้นแหละ..)แถมเลี้ยงง่ายไม่ต้องใช้เนื้อที่เยอะด้วย” และแล้ววันไปเยี่ยมชมปลาน้อยน่ารักที่ไอ้ริดได้ทำการเลี้ยงก็มาถึงวันนั้นจำได้ว่าผมไปกับพี่เบียร์

ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ………….

ริดเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ เป็นอย่างมาเพราะว่าการมาของผมกับพี่เบียร์นั้นกะทันหันเกิน    ที่ไอ้ริดมันจะตั้งตัว

พอผมกับเบียร์เขาไปในห้องก็อดไม่ได้ที่จะดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับปลาสอดแดงและดำจากที่ตอนโน้นตัวน้อย ว่ายน้ำไปมาอย่างน่ารักแล้วตอนนี้น่าจะโตขึ้นจากเดิมตอนที่ ไอ้ริดมันเอามาอวดพวกเพื่อนๆ  ผมกับเบียร์เลยตรงไปที่โถใสปลาและแล้ว  เฮ้ยทำไมปลามันมีขา   กระดอง  เขียวๆโอโฮ  นี่มัน   เต่านี่หว่า  ( เลี้ยงไงวะจากปลากลายเป็นเต่า )

พี่เบียร์    “เฮ้ยไอ้ริด.......ปลาไปไหนแล้ววะ”

ไอ้ริด      “เออ....เออ....คือว่า   ตายหมดแล้ว”

วี              “เอ้า...ทำไมวะ” ไม่ต้องถามก็รู้ว่าทำไมกระบองเพชรยังตายเลยเฮอะ

ไอ้ริด      “นี่....ตัวแรกกูไม่รู้ว่ามันตายได้อย่างไงนะ กูก็ให้อาหารมันตามปกตินะ แต่อีกตัวกูคิดว่าเพื่อนมันตายไปและเห็นกูไม่ค่อยเอาใจไปเล่นกับมันเหมือนตอนที่มีอยู่สองตัวแล้วมันก็เลยคิดว่ากูไม่รักมันเลยตรอมใจตายไปเลย”

พี่เบียร์    “แล้วทำไมมึงคิดที่จะเลี้ยงเต่าละ”

ไอ้ริด      “ก็เลี้ยงปลาแล้วมันตาย   ง๊าย    ง่าย....” ( พูดเข้าข้างตัวเองนี่หว่า )

 

 

พี่เบียร์    “ไอ้ริด  ถามจริงเหอะก่อนมึงมาเลี้ยงไอ้เต่าเนี้ย  มึงเลี้ยงอะไรมาบ้างวะ”

ไอ้ริด      “ก็เยอะอยู่นะส่วนใหญ่จะเป็นปลา  ปลาสอด  ปลาบอลลูน    อะไรประมาณนี้.....”

วี              “แล้วหายไปไหนหมดว่ะ”

ไอ้ริด      “ตายเรียบ” ริดพูดแบบหน้าตาเฉยๆและไร้เยื่อใยอย่างแรง...

พี่เบียร์    “กูไม่สงสัยเลยวะ  ที่มึงเอามาเลี้ยงนี่  น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน 7 วันวะ ก็ตายแน่เลยหว่ะ

ไอ้ริด      พูดแทรกขึ้นมาทันทีและแก้ตัวว่า  “เอ้า   ก็กูนะเอาใจทั้งคนทั้งปลาไม่เก่ง   ปลานะมันตายง๊าย  ง่าย ( พูดเข้าข้างตัวเองอีกแล้วครับท่าน )  ไอ้การที่กูเปลี่ยนเป็นเต่าเพราะคนขายบอกว่าเต่ามันทนและกูก็คิดว่ามันก็น่ารักดี   รับรองว่ามันไม่ตายหรอกน่ะ ”  และพูดทิ้งท้ายว่า “โฮ..ใครเลี้ยงเต่าแล้วตายก็แย่มากแล้วไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรหรอก”

สำหรับคนที่เลี้ยงต้นกระบองเพชรตาย  แล้วมันก็คงจะเลี้ยงอะไรไม่ได้นอกจากเต่า  

แต่ว่ากระบองเพชรมันทนกว่าเต่านี่หว่า.....

ผมและพี่เบียร์ไม่ได้เข้าไปเที่ยวเล่นที่หอไอ้ริดนานเป็นเดือนๆ  และมีอยู่วันหนึ่งไม่รู้อะไรดลจิตดลใจว่าวันนี้ต้องไปหอไอ้ริดให้ได้และ

แล้วสิ่งแรกที่พวกเรามองเมื่อเข้าไปในห้องของหนุ่มหน้ามนคนเลี้ยงตะบองเพชรตาย

สิ่งแรกที่ผมกับพี่เบียร์จะไปดูก็คือเต่า  ไม่ต้องสงสัยเลยครับท่าน  ขณะที่ผมและพี่เบียร์เดินตรงไปที่โถใส่เต่าที่วางอยู่ที่หัวเตียงไอ้ริดนั้นเหตุการณ์ที่มิได้คาดฝันก็เกิดขึ้นมานั้นคือ  ความว่างเปล่าฝุ่นจับยักใย่ขึ้นโถเลย  ตายชัวร์  คำนี้กึกก้องขึ้นมาในหัวเราทั้งสองด้วยความมิแน่ใจจึงถามไอ้ริดไปว่า “เฮ้ย.......ริดเต่าหายไปไหน”

ไอ้ริดทำหน้าตาเหมือนทุกครั้ง.....และตอบว่า “ ตาย....เฮ้ยแต่กูดูแลมันอย่างดีแล้วนะคงเป็นเพราะว่ากูไม่ได้ซื้อเพื่อนให้มันมันก็เลยตรอมใจตาย ( ดูดิ..พูดเข้าข้างตัวเองอีกจนได้ )” ถ้าผมกับพี่เบียร์สองคนซื้อหวยละก็ถูกไปนานแล้ว  แต่อย่าดีกว่า  ส่วนใหญ่นะพวกเรานะก็ไม่เคยคิดจะซื้ออยู่แล้ว แล้วคนซื้อส่วนใหญ่ก็ไม่เคยถูกซักที   ถูกกินซะมากกว่า )

วี              “ เฮ้ย   ถามจริงๆเหอ ตกลง มึงรักสัตว์เลี้ยงที่มึงเลี้ยงไว้เปล่าวะ  มึงรักมันไหม  มึงรักมันไหม มึงรักมันไหม  ”

ไอ้ริด      “นี่กูรักมันทุกตัวนะแต่ว่ากู   ไม่ค่อยแสดงออก”

 พี่เบียร์    พี่เบียร์หันด้านข้างมาที่ผมกับไอ้ริด มืออีกข้างหนึ่งชูนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วก็พูดว่า“ มึงเลี้ยงเต่าตาย นี่มึงเยี่ยมจริงๆวะ   แล้วถ้ามึงเอาเพื่อนมันมานะกูว่ามันต้องตรอมใจตายไป ตามๆกัน  กับความรักที่ไม่แสดงออกของมึง  ”

รักแบบหลงๆ  ลืมละซิไม่ว่า…

 ปอลอนะปอลอ    ... ช่วงฤดูหนาวอากาศในช่วงเช้าจะหนาว.....คนส่วนใหญ่มักจะอุดอู้อยู่ในผ้าห่ม              แต่นั้นมิใช่วิสัยของชายหนุ่มหน้ามนคนพะเยาคนนี้เขานำขวดโหล ที่ใส่ปลากัดสีสดใสออกมารับแสงแดดในยามเช้าเพราะกลัวว่า ปลากัดสีสันสดใสตัวน้อยๆดูน่ารักนั้นของเขาจะหนาวกับอากาศในเช้าของวันนี้     การรับแสงแดดนั้นอาจจะทำให้ปลาของเขาได้รับความอบอุ่นและดูร่าเริงสดใสกว่าที่เป็นอยู่    สักพักไอ้ริดก็ได้ยินประโยคที่ว่า “เออ  ไอ้ริดไปหาไรกินดีกว่า” จากนั้นเขาก็ออกไปจากห้องกว่าจะกลับเข้ามามันก็ล่วงเลยเป็นเวลานานมากแล้ว    อ่ะ.....ได้เวลาให้อาหารปลาพอดีแต่ว่าเขาหาขวดโหลที่ใส่ปลากัดในห้องแต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ   เขาจึงออกไปที่ระเบียงเพื่อว่าจะได้คิดออกว่าขวดโหลนั้นหายไปไหน นั่นปะไรเจอเข้าให้แล้วขวดโหลนั้น       และปลากัดได้รับการอาบแดด

อย่างเต็มๆ  จากสีดำปนเขียวแมลงทับ  กลายเป็นสีขาวซีดนอนหงายท้องอยู่ในขวดโหล....และกลายเป็นมื้อดึกของไอ้ริดไป    คิดเหมือนกันไหมล่ะ  ว่าปลากัดแดดเดียวกับปลากัดต้มอะไรจะอร่อยกว่ากัน....ไอ้ริดเอย

จบด้วยประการละเท่านี้  ไม่รู้ว่าจะใช้คำบรรยายอะไรเกี่ยวกับการพยายามเป็นคนรักสัตว์ของเขา

คำอุทิศนี้แด่สัตว์เลี้ยงตัวสุดท้ายที่ไอ้ริดมันสังหาร ด้วยอาการแบบที่ว่า   กู( ไอ้ริด )   ลืม  ไอ้สัตว์( ปลากัดน้อย)

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที