บาป N
เด็กหนุ่มพะเยาดินแดนดอกคำใต้ ที่ไม่มีใครกล้าหลอกมันไปทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นคนที่ไม่เหมือนใครด้วยช่วงขาที่ตั้งแต่ตีนจนถึงเข่าสั้นเกินปกติทำให้เขาดูตัวเตี้ยไปโดยปริยาย ตอนปีหนึ่งถูกเพื่อนๆกล่าวหาว่ามันไปกิน Black เฮ้ย! ไอ้ริดกินBlack ก็เลยถูกเรียกไปพักหนึ่งแต่ชื่อนี้ไม่ได้รับความนิยมหลังจากนั้นจึงเงียบหายไป..... ดูจากรูปร่างภายนอกแล้วไม่น่าจะเป็น นักศึกษาในระดับอุดมศึกษมากเท่าไรนัก เหมือนเด็กพิการทางสมองที่ถูกส่งไปอยู่บ้านเมตตาด้วยร่างที่ดูเหมือนฮอบบิดตัวน้อยในมหากาพย์เรื่อง The Lord Of The Ring ไอ้ริดเป็นคนนับถือศาสนาอิสลามแต่ทำตัวซะ ไม่เหมือนคนนับถือศาสนาอิสลาม แล้วยังมาบอกว่ามีเชื้อจีน! แล้วคุณรู้ไหมละครับว่าไม่ว่างานไหนๆของคนจีนเขากินหมูกันทั้งนั้น เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคนจีนแต่นับถือศาสนาอิสลามนี้แหละ...
รู้จักเรือโนอา หรือ ที่เรียกอีกอย่างว่า Noah ′ s ark ไหม เป็นประโยคขึ้นต้นการเสวนาที่ไอ้ริดพูดขึ้นมา....
วี เออ...รู้จักที่น้ำท่วมโลกแล้วมีใครซักคนรู้สึกจะชื่อ Noah
สร้างเรือแล้วนำสัตว์ทุกอย่างบนโลกอย่างละคู่ขึ้นไปบนเรือ เพื่อหนีน้ำใช่ปะ
ไอ้ริด เออนั้นแหละ รู้ไหมว่ามันนานมากกว่าน้ำจะลดลงอาหารบนเรือก็หมดแล้วหมูอะ..มันตะกละในเรือไม่มีอะไรกินมันเลยกินขี้ของสัตว์ตัวอื่น ทำให้หมูกลายเป็นสัตว์ที่กินสิ่งสกปรก ด้วยเหตุนี้ทำให้คนที่นับถือศาสนาอิสลามไม่กินหมู
วี เออ หรอ ผมไม่ค่อยจะเชื่อมันทำไรไม่รู้ว่าจริงอะเปล่า
สักพักมันไอ้ริดก็ พร่ำต่อไปว่า แต่เดียวนี้หมูนะเขาเลี้ยงกันดีแล้วไม่ได้กินของสกปรกเหมือนตอนอยู่ในเรือก็เลยกินได้....จากการที่มันเล่าตำนานให้ฟังก็ต้องคล้อยตามมันไปจนได้ ไอ้เราก็ดันเห็นด้วยกะมันขึ้นมาซะงั้น... คิดในแง่ดีเขาคงไม่ชอบการแบ่งแยกชนชั้นวรรณนะที่ตอนเข้าค่ายลูกเสือหรือ ร.ด.มักที่มีการถามคำถามที่ว่าใครเป็นอิสลามบ้างเพราะจะมีปัญหาเรื่องของกิน ก็เลยเลยตามเลย มันว่างั้นให้ทำไงได้
..(อันนี่เกิดขึ้นนานแล้วนะตอนนี้ไอ้ริดตอนนี้คงเปลี่ยนไปเป็นอิสลามเต็มตัวแล้วละ...)
ต่อมาไม่นานริดก็จะถูกเพื่อนเรียกว่าไอ้หยวน เพราะเขาอยู่ตำบลหยวนด้วยความหมั่นไส้ของเพื่อนบางคนโดยเฉพาะผม ในคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์ที่สอนมักจะให้แต่งประโยค ที่มีความสอดคล้องกับประโยคที่พวกเราๆ เรียนๆ กันอยู่ เป็นโอกาสที่ดีที่มันจะได้พูดถึงความสวยงามและสรรเสริญต่างนานาภายในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง จนผมกลัวว่าจะมีบุคคลในห้องบางคนได้รับเชื้อบ้าที่ว่ารักบ้านเกิดซินโดรมจากมันไป .....และแล้วอยู่มาวันหนึ่งในคาบเรียนญี่ปุ่นมันก็แต่งประโยคสรรเสริญบ้านตัวเองอย่างเช่นเคย แปลเป็นใจความภาษาไทยได้ว่า...
ไอ้ริด พะเยาเป็นเมืองที่สวยและน่าอยู่ที่สุดในประเทศไทย
คนพะเยามีแต่คนสวยและน่าตาดี
ไม่ได้อะไรมากหรอก ด้วยความรำคาญผมก็พูดโพล่งๆออกไปว่า พะเยานะมีรถไฟเหมือนเชียงใหม่เมื่อไรแล้วค่อยมาคุยกัน ได้ผลแหะ................ริดมันอึ้งบวกกับงงไปเลย มันคงนั่งคิดกับคำถามทีว่ามีหรือไม่มีรถไฟนี่มันดีตรงไหน หว่าแต่ว่าสักพักมันก็กลับไปสรรเสริญบ้านเกิดเมืองนอนต่อเหมือนเดิม ผมละอ่อนใจ กับคำสรรเสริญและสำนึกรักบ้านเกิดของมันจนชินไปเลย ......
ถ้าจะพูดถึงความอินเทรนด์แล้วไม่พูดถึงเขาคงจะเป็นการเสียมารยาทอย่างแรงเลย ดูได้จากการตัดผมของเขา....ตามดาราฟุตบอลที่มีชื่อว่าแบคแฮมทรงนกหัวขวาน แต่รู้สึกว่าคนในห้องไม่สังเกตเลยว่ามันตัดทรงนี้มาคงเพราะว่ามันเป็นจุดด้อยแล้วก็บอดแบบสนิทคือไม่มีใครสนใจหรอก... ขนาดให้ไอ้ริดมันแก้ผ้ามาเรียนก็ ชาวบ้านหรือเพื่อนในห้องคงไม่สนมันหรอก ทำให้ความมั่นใจในตัวเองอย่างสูงของมันถูกใช้การโดยเปล่าประโยชน์ก็ขนาด ผมเรียนแทบจะเอาคนคิ้วชนกับมีนอยู่ยังไม่รู้เลยว่ามันตัดผมมา ( หรือว่าเพื่อนคนอื่นรวมทั้งตัวผมด้วยคงจะ มองมิเห็นไอ้ริดอยู่ในระดับสายตาเป็นแน่แท้ )
ความอินเทรนด์เหล่านี้มาจากไหนก็ไอ้ริด มันเชี่ยวชาญเรื่องหนังสือนิตยาสารทุกประเภท ไม่ว่านิตยาสารอะไรออกวันไหนมันจะได้มาจากร้านเช่าหนังสือก่อนใคร
( แทน ที่จะได้มาจากร้านขายหนังสือ ... ทำให้รู้อะไรดีๆ ที่ว่าการทำตัวอินเทรนด์นี้ก็มีแบบเอื้ออาทรด้วยแหละ.. .) เรื่องที่ที่เขาสนใจเป็นพิเศษก็คือ ดาราต่างประเทศและภาพยนต์ต่างประเทศ และด้วยเหตุนี้ทำให้เขาสนใจในภาษาอังกฤษเป็นพิเศษแต่ก็ยังไม่ละทิ้งความมีสำนึกรักบ้านเกิด อย่างเช่นคำว่า Institution มันก็ออกเสียงว่า อิน สะ เตอ ติว ชั่น ( อย่างชัดเจนและหนักแน่น ) ด้วยความชอบในภาษาอังกฤษนี้เองทำให้ไอ้ริดกับพี่เบียร์จับจูงมือชวนกันไปลงทะเบียนเรียนรายวิชา pheonetic กันเป็นรอบที่สองและได้เพลิดเพลินเรียนกันอย่างจุใจ
จุดนี้แหละที่ทำให้พี่เบียร์เล่นภาพกีฬามันๆของไอ้ริดบ่อยๆ และมักจะมากระซิบให้ผมฟังว่า เฮ้ย..วีไอ้ริดมันกางเกงเป้าแตกอีกแล้วว่ะ
ผมก็หันไปดู เออ...ว่ะ ( ตอบไปด้วยความเคยชิน )แต่ไอ้ริดมันไม่ยักรู้แฮะ
จากการนี้ทำให้มีผลการวิจัยจากเบียร์สรุปได้ว่า....
ถ้า 1 ปีมี 365 วัน
ฉะนั้นไอ้ริดมันต้องมีกางเกง 362 ตัวภายในตู้เสื้อผ้ามันแน่นอนและเป็นกางเกงที่ซิบแตกหว่ะ
วี แล้วอีก 3 ตัวหายไปไหนว่ะ จะได้ครบ 365 ตัว
พี่เบียร์ ก็เหลือตัวดี ๆไว้ให้มันใส่บ้างดิ
วี เออกู ก็ว่างั้น
ถ้าไม่อยากขัดใจกับเพื่อนอย่าคุยเรื่องศาสนากับการเมือง
อันนี้จริงๆ ครับจะยกตัวอย่างให้ฟัง
ปี2544 ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณเป็นคนสันกำแพง และสันกำแพงเป็นอำเภอที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมคนพะเยาอย่างไอ้ริดคนนี้ถึงเป็นแฟนคลั่ง เหนี่ยวแน่นของทักษิณไม่ว่าใครจะว่าทักษิณอย่างไรเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเข้าหูมันเด็ดขาด.... คนนี้ว่าไม่ได้ครับ ไม่รู้ว่าทำไมมันชอบอะไรทักษิณนักหนา...............มีอยู่ครั้งตอนปี 4 พวกเรานั่งคุยกันอยู่ดีๆไม่รู้คุยไปคุยมาวนมาเข้าเรื่องทักษิณได้ไง แต่ช่วงที่คุยกันมันแย่งผมพูดตลอดเวลาไม่รู้เป็นอะไร แล้วไม่ค่อยมีคนสนใจที่ผมพูดพอได้โอกาสผมพูดมันก็พูดขึ้นมาซะงั้น เขาก็ไปสนใจมันหมดหรือว่าผมเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่องกันแน่นี่ กลับมาที่ ทักษิณดีกว่า ช่วงนั้นภาคใต้เริ่มลุกเป็นไฟมีการแบ่งแยกดินแดนเกิดขึ้น
.
. เพราะทักษิณนี้แหละทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ภาคใต้
ไอ้ริด มึงก็ว่า ไปทำไมไม่ไปดู เรื่องดีๆที่เขาทำบางละดูแต่ข้อเสียคนอื่น
เซงประเทศไทยก็เป็นแบบนี้ ไอ้ริดถอนหายใจ 1 เฮือก
วี กูถามจริงเฮอะทักษิณเป็นพ่อมึงไง.......ทักษิณก็ไม่ใช่คนพะเยาสักหน่อยไมมึงชอบทักษิณจังว่ะ
ไอ้ริด มึงก็ว่าไป ไอ้วี ที่ก็ชอบทักษิณนี่หว่า
วี เอ้า ทำไมมึงต้องไปชอบ จนถึงขั้นบ้าอะไรขนาดนี้ว่ะ
วี ......... (ฉะนั้น...ตกลงคนที่เกิดวันเดียวกับมึงเป็นคนทั้งดีทั้งดังว่างั้นเหอะ แต่กูว่าไอ้ริดมึงอาจจะเป็นแบบเด็กแนวที่ชอบทำอะไรนอกกรอบใช่ปะ ) คิดไปคิดมานี่เหรอเหตุผลของมึง
ไอ้ริด มึงต้องเข้าใจคนที่เกิดวันเดียวกับกูมีแต่คนดีๆทั้งนั้นเลย
วี กูไม่เข้าใจว่ามึงนะเกิดวันเดียวกับเขาหรือว่าเขาเกิดวันเดียวกับมึงกันแน่
แล้วมึงเป็นคนดีจึงหรือว่ะ อยู่ดีๆมึงมาเล่าให้พวกกูฟังว่ามีวัดฮินดูอยู่ที่หนึ่งพอดีคนเลี้ยงวัวนั้นเป็นคนอิสลาม แล้วดันไปเลี้ยงวัวแถวนั้นวัวมันไม่ยอมเดิน ก็เลยเฆี่ยนวัวมันหน้าวัดฮินดูนั้นแหละ.....
พี่เบียร์ เฮ้ยแล้วไงต่อว่ะ
ไอ้ริด เช้าวันต่อมา
พี่เบียร์ เออแล้วไงต่อว่ะ
ไอ้ริด คนที่วัดฮินดูก็เลยเอาไปต้อนหมูเข้าไปในสุเหร่าอะดิ
ไอ้เหี้ยมึงคิดได้ไงว่ะ ( คำอุทานหยาบๆ แบบนี้กึกก้องขึ้นมาภายในจิตใจ )
สรุปง่ายๆ เรื่องที่คุยด้านบนนั้นนะ
ล่อแหลมต่อคุกและตาราง แล้วอาการที่ว่านรกจะกินกะบาลคนที่คุยกันนั้นแล
..
ถึงผมจะไม่สนิทกับไอ้ริดมันแต่พวกเรา3คน ไอ้ริด ผม และพี่เบียร์ เวลาว่างๆ มักจะไปโลตัสกาดคำเที่ยงกัน ที่นี่เพิ่งสร้างเสร็จตอนพวกเราย่างเข้าชั้นปีที่ 4 เดินดูของกันซักพักผมก็ประเดิมเลยด้วยแฮมหนึ่งถุง กินกันไปกินกันมาหมด...แล้วผมต้องหิ้วถุงอยู่นานจนอารมณ์ขี้เกียจถือถุงที่ว่างเปล่าที่ติดบาร์โค้ดราคา เกิดขึ้นมา
วี ขี้เกียจถือถุงวะ อันนี่ถ้าเราเอาไอ้ถุงบ้านี่ไปซ่อนเราก็ไม่ต้องจ่ายเงินใช่เปล่าวะ
พี่เบียร์ เออมั้ง....แล้วมึงจะไปซ่อนไว้ไหน มึงกล้าเหรอ กล้าเหรอ
วี ไม่เอาอะ......กลัววะเดียวโดนจับได้ละยุ่งแน่
ไอ้ริด .............. ไม่ออกความคิดเห็นใดๆเลย
พอเดินมาซักพักถึงลอคที่มีซองขนมเต็มเอียดไอ้ริดมันทำหน้าทำตาเหมือนตรัสรู้อะไรบางอย่างจากนั้มันไม่พูดพลั่มทำเพลง อะไรเลยดึงถุงพลาสติกจากมือผมไปแล้วก็มองซ้าย มองขวา และเอาถุงพลาสติกเข้าไปด้านในล็อคขนมนั้นอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย ยิ่งกว่าบาทาไร้เงาที่แอบเตะก้นเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างคุณเสียอีก
วี เฮ้ยไอ้ริดมึงทำไรว่ะ ถ้ามีกล้องวีดีโอจับไว้ละซวยเลยนะเว้ย
ไอ้ริด โอย...ไม่เป็นไรหรอกนะไอ้วีมึงตื่นเต้นไปได้
พี่เบียร์ - - อึ้งไปเลยไม่คิดว่าหนุ่มน้อยน่าตาปัญญาอ่อนไร้พิษสงจะมีพิษสงมากถึงเพียงนี้
ไอ้ริด เอาเป็นว่ามื้อนี่กูเลี้ยงละกัน
แนะยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก...
ไอ้นี่น้ำนิ่งไหลลึกเว้ยเฮ้ย ไหลแรงซะด้วย
ผมเลยตกลงกับพี่เบียร์ว่า เฮ้ย...เบียร์ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราไม่รู้จักมันนะ
พี่เบียร์ตอบมาอย่างไม่ขัดเขิน เออ กูเอาด้วย ( อนึ่งคำว่า เอา ในที่นี้หมายถึง เอาตัวรอด นะครับ )
จากการพวกเราก็ไปนอนเล่นกันที่หอไอ้ริดมันหน่อย ทำให้ได้รู้ว่าไอ้ริดคนนี้แหละเป็นคนที่รักธรรมชาติและรักสัตว์แต่ว่า ธรรมชาติและสัตว์นะไม่รักมัน ( ในความคิดของไอ้ริด )ด้วยการที่เขาปลูกต้นไม้ไว้ในห้อง ถึงจะเป็นต้นกระบองเพชรต้นเล็กน่ารักๆ ก็ตาม...แต่แล้วไม่นานนัก...ต้นกระบองเพชรก็ที่แสนจะอดทนต่อ ความ
หลังจากที่ต้นกระบองเพชรแห้งตาย ไอ้ริดไปเที่ยวกาดคำเที่ยงแล้วไปซื้อปลาสอดแดงและดำมาอวดเพื่อนเป็นการใหญ่
ไอ้ริด เป็นไง...สวยไหมน่ารักไหม
เพื่อนๆ เฮ้ย...มึงไปเอามาจากไหนว่ะ
ไอ้ริด ไปกาดคำเที่ยงมาไปเดินดูต้นไม้และก็ไปดูปลา กูว่ามันน่ารักนะเลยซื้อมาเลี้ยง อีกอย่างเวลามันหิวเราก็รู้ได้ดี กว่าต้นกระบองเพชรที่โต้ตอบไม่ได้แล้วก็ไอ้ต้นกระบองเพชรเราไม่รู้ว่าเวลาไหนมันต้องการอาหารเหมือนปลา ( เอ้าพี่ครับ...ก็แค่รดน้ำเวลาไหนได้วันละครั้งทำอย่างกับว่าเวลาปลามันหิวมันไปกระชากคอเสื้อมึงมาให้อาหารมันอย่างนั้นแหละ..)แถมเลี้ยงง่ายไม่ต้องใช้เนื้อที่เยอะด้วย และแล้ววันไปเยี่ยมชมปลาน้อยน่ารักที่ไอ้ริดได้ทำการเลี้ยงก็มาถึงวันนั้นจำได้ว่าผมไปกับพี่เบียร์
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ
.
ริดเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ เป็นอย่างมาเพราะว่าการมาของผมกับพี่เบียร์นั้นกะทันหันเกิน ที่ไอ้ริดมันจะตั้งตัว
พอผมกับเบียร์เขาไปในห้องก็อดไม่ได้ที่จะดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับปลาสอดแดงและดำจากที่ตอนโน้นตัวน้อย ว่ายน้ำไปมาอย่างน่ารักแล้วตอนนี้น่าจะโตขึ้นจากเดิมตอนที่ ไอ้ริดมันเอามาอวดพวกเพื่อนๆ ผมกับเบียร์เลยตรงไปที่โถใสปลาและแล้ว เฮ้ยทำไมปลามันมีขา กระดอง เขียวๆโอโฮ นี่มัน เต่านี่หว่า ( เลี้ยงไงวะจากปลากลายเป็นเต่า )
พี่เบียร์ เฮ้ยไอ้ริด.......ปลาไปไหนแล้ววะ
ไอ้ริด เออ....เออ....คือว่า ตายหมดแล้ว
วี เอ้า...ทำไมวะ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าทำไมกระบองเพชรยังตายเลยเฮอะ
ไอ้ริด นี่....ตัวแรกกูไม่รู้ว่ามันตายได้อย่างไงนะ กูก็ให้อาหารมันตามปกตินะ แต่อีกตัวกูคิดว่าเพื่อนมันตายไปและเห็นกูไม่ค่อยเอาใจไปเล่นกับมันเหมือนตอนที่มีอยู่สองตัวแล้วมันก็เลยคิดว่ากูไม่รักมันเลยตรอมใจตายไปเลย
พี่เบียร์ แล้วทำไมมึงคิดที่จะเลี้ยงเต่าละ
ไอ้ริด ก็เลี้ยงปลาแล้วมันตาย ง๊าย ง่าย.... ( พูดเข้าข้างตัวเองนี่หว่า )
พี่เบียร์ ไอ้ริด ถามจริงเหอะก่อนมึงมาเลี้ยงไอ้เต่าเนี้ย มึงเลี้ยงอะไรมาบ้างวะ
ไอ้ริด ก็เยอะอยู่นะส่วนใหญ่จะเป็นปลา ปลาสอด ปลาบอลลูน อะไรประมาณนี้.....
วี แล้วหายไปไหนหมดว่ะ
ไอ้ริด ตายเรียบ ริดพูดแบบหน้าตาเฉยๆและไร้เยื่อใยอย่างแรง...
พี่เบียร์ กูไม่สงสัยเลยวะ ที่มึงเอามาเลี้ยงนี่ น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน 7 วันวะ ก็ตายแน่เลยหว่ะ
ไอ้ริด พูดแทรกขึ้นมาทันทีและแก้ตัวว่า เอ้า ก็กูนะเอาใจทั้งคนทั้งปลาไม่เก่ง ปลานะมันตายง๊าย ง่าย ( พูดเข้าข้างตัวเองอีกแล้วครับท่าน ) ไอ้การที่กูเปลี่ยนเป็นเต่าเพราะคนขายบอกว่าเต่ามันทนและกูก็คิดว่ามันก็น่ารักดี รับรองว่ามันไม่ตายหรอกน่ะ และพูดทิ้งท้ายว่า โฮ..ใครเลี้ยงเต่าแล้วตายก็แย่มากแล้วไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรหรอก
สำหรับคนที่เลี้ยงต้นกระบองเพชรตาย แล้วมันก็คงจะเลี้ยงอะไรไม่ได้นอกจากเต่า
แต่ว่ากระบองเพชรมันทนกว่าเต่านี่หว่า.....
ผมและพี่เบียร์ไม่ได้เข้าไปเที่ยวเล่นที่หอไอ้ริดนานเป็นเดือนๆ และมีอยู่วันหนึ่งไม่รู้อะไรดลจิตดลใจว่าวันนี้ต้องไปหอไอ้ริดให้ได้และ
แล้วสิ่งแรกที่พวกเรามองเมื่อเข้าไปในห้องของหนุ่มหน้ามนคนเลี้ยงตะบองเพชรตาย
สิ่งแรกที่ผมกับพี่เบียร์จะไปดูก็คือเต่า ไม่ต้องสงสัยเลยครับท่าน ขณะที่ผมและพี่เบียร์เดินตรงไปที่โถใส่เต่าที่วางอยู่ที่หัวเตียงไอ้ริดนั้นเหตุการณ์ที่มิได้คาดฝันก็เกิดขึ้นมานั้นคือ ความว่างเปล่าฝุ่นจับยักใย่ขึ้นโถเลย ตายชัวร์ คำนี้กึกก้องขึ้นมาในหัวเราทั้งสองด้วยความมิแน่ใจจึงถามไอ้ริดไปว่า เฮ้ย.......ริดเต่าหายไปไหน
ไอ้ริดทำหน้าตาเหมือนทุกครั้ง.....และตอบว่า ตาย....เฮ้ยแต่กูดูแลมันอย่างดีแล้วนะคงเป็นเพราะว่ากูไม่ได้ซื้อเพื่อนให้มันมันก็เลยตรอมใจตาย ( ดูดิ..พูดเข้าข้างตัวเองอีกจนได้ ) ถ้าผมกับพี่เบียร์สองคนซื้อหวยละก็ถูกไปนานแล้ว แต่อย่าดีกว่า ส่วนใหญ่นะพวกเรานะก็ไม่เคยคิดจะซื้ออยู่แล้ว แล้วคนซื้อส่วนใหญ่ก็ไม่เคยถูกซักที ถูกกินซะมากกว่า )
วี เฮ้ย ถามจริงๆเหอ ตกลง มึงรักสัตว์เลี้ยงที่มึงเลี้ยงไว้เปล่าวะ มึงรักมันไหม มึงรักมันไหม มึงรักมันไหม
ไอ้ริด นี่กูรักมันทุกตัวนะแต่ว่ากู ไม่ค่อยแสดงออก
รักแบบหลงๆ ลืมละซิไม่ว่า
จบด้วยประการละเท่านี้ ไม่รู้ว่าจะใช้คำบรรยายอะไรเกี่ยวกับการพยายามเป็นคนรักสัตว์ของเขา
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที