งู เป็นสัตว์เลื่อยคลานที่น่าสนใจแตกต่างกันหลายสายพันธุ์ และรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย จะขึ้นอยู่กับชนิดของงู ปราดเปรียวและว่องไวในการเคลื่อนที่ มีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้สำหรับรับความรู้สึกทางกลิ่น จัดอยู่ในชั้น Reptilia, ตระกูล Squamata, ตระกูลย่อย Serpentes โดยทั่วไปแล้วงูจะกลัวและไม่กัด นอกเสียจากถูกรบกวนหรือบุกรุก จะเลื้อยหลบหนีเมื่อมีสิ่งใดเข้ามาใกล้บริเวณที่อยู่ ออกล่าเหยื่อเมื่อรู้สึกหิว โดยกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหาร ยกเว้นงูบางชนิดที่กินงูด้วยกันเอง แล้วแต่ความสารถของงูแต่ละชนิด
ขอบคุณแหล่งภาพ : http://xn--22c0bajka1a3b3a2jhb0qc0iud.com/%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B9-2-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7.html
1. งูเหลือมต้นไม้สีเขียวมรกต (Emerald Tree Boa)
ขอบคุณแหล่งภาพ : http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10_20.html
เจ้างูสีเขียวสวยนี้พบในป่าฝนของอเมริกาใต้ ตัวเต็มวัยมีขนาดความยาวประมาณ 6 ฟุต หรือ 1.8 เมตร พวกมันวิวัฒนาการฟันด้านหน้าได้ใหญ่กว่างูไม่มีพิษสายพันธุ์อื่น ขึ้นชื่อว่างูแล้ว จะสีสวยแค่ไหน มันก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ
2. งูเห่าแผ่แม่เบี้ย (The Spectacled Cobra)
ขอบคุณแหล่งภาพ : commons.wikimedia.org
ลักษณะของงูเง่า มันมักจะแผ่แม่เบี้ยเวลามันชูคอขู่ ดูแล้วช่างน่ากลัว และมันมีลายคล้ายแว่นตาที่ด้านหลังแม่เบี้ย อาศัยอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กินหนู นก กบ หรือสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เป็นอาหาร
3. งูตาบอด (Blind Snake)
ขอบคุณแหล่งภาพ : http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10_20.html
ขอบคุณแหล่งภาพ : sensationalserpents.com
เป็นหนึ่งในสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ มันอาศัยอยู่บนเกาะมาดากัสการ์ ตัวเต็มวัยมีขนาดความยาวประมาณ 1 ฟุต มันมีพฤติกรรมคล้ายกับตัวหนอน มันชอบขุดดินและอาศัยอยู่ในนั้น มันคล้ายหนอนมากเพียงแต่มันเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่าและมีกระดูกสันหลัง
4. งูเหลือมเผือกพม่า (Albino Burmese Pythons)
ขอบคุณแหล่งภาพ : wallpaperweb.org
เป็นงูเหลือมที่มีสีสันแปลกตาจากงูเหลือมทั่วไป คือมีสีขาวและสีเหลืองนวล บางคนนำเอางูนี้มาเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะมันมักจะค่อนข้างที่จะเชื่อง แต่ก็มีจำนวนของงูชนิดนี้ที่ถูกทิ้งโดยเจ้าของที่ไม่สามารถเลี้ยงมันได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
5. ไบรท์พิ้งค์สเนค (Bright Pink Snake)
ขอบคุณแหล่งภาพ : mvences.de
เจ้าตัวไบรท์พิ้งค์สเนคนี้เมื่อโตเต็มวันจะมีขนาดประมาณ 40 เซ็นติเมตร อาหารของมันคือพวกสัตว์ฟันแทะและสัตว์เลื้อยคลานอย่างกิ้งก่า ลายสีชมพูสดทำให้มันเป็นหนึ่งในงูที่มีสีสันมากที่สุดในมาดาร์กัสการ์ มีรายงานว่าถูกพบครั้งแรกในปี 2010 ที่ Masoala อุทยานแห่งชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์
6. เนลสันมิลค์สเนค (Nelson's Milksnake)
ขอบคุณแหล่งภาพจาก : flickriver.com
งูชนิดนี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์งูคิงสเนคที่พบในเม็กซิโก มันมีความยาว 110 เซ็นติเมตรหรือมากกว่าเมื่อตัวเต็มวัย มันเป็นงูไม่มีพิษมีลายสีแดงสลับกับสีชมพูรอบลำตัว ชื่อของมันตั้งขึ้นเพื่อให้เกียรติ Edward Nelson อดีตหัวหน้าการสำรวจทางชีววิทยาสหรัฐฯ อาศัยอยู่ในที่กึ่งแห้งแล้งและป่าผลัดใบในเขตร้อน เหยื่อของมันมีหนู นก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
7. งูปะการังสีฟ้า (Blue Coral Snake)
ขอบคุณรูปภาพจาก : tapandaola111.blogspot.com
งูปะการังเป็นงูมีพิษอยู่ในวงศ์ Elapidae พบในป่าฝนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสีสันที่สวยงาม คือสีฟ้าสด แต่งูชนิดนี้มีพิษต่อให้มันมีสีสันสวยงามแค่ไหนก็ไม่สมควรที่จะเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเจ้านี่หรอกนะค่ะ
8. งูงวงช้าง (Elephant Trunk Snake)
ขอบคุณรูปภาพจาก : en.wikipedia.org
งูงวงช้าง ชื่มันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามันมีรูปร่าง สี และขนาดที่คล้ายกับงวงช้าง จึงเป็นที่มาของชื่อของมัน พบได้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินโดนีเซียเหนือของประเทศ ออสเตรเลีย นิวกีนี และมีในประเทศไทยด้วย
9. Langaha Nasuta
ขอบคุณรูปภาพจาก : astonishingcreatures.blogspot.com
อาจจะด้วยสภาพอากาศ หรือ การปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้กลมกลืนกับลักษณะที่อยู่ก็ตามแต่ เจ้า Langaha Nasuta ตัวนี้ เป็นงู ที่มีนอยื่นแหลมยาวออกมา ไว้ใช้เพื่อปกกันตัวหรือเพื่อรูปลักษณ์ที่แตกต่างก็ตาม มันก็ยังคงเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะน่ากลัวเอามาก และได้พบเจ้า Langaha Nasuta มันที่มาดาร์กัสการ์
10. งูฮอร์นไวเพอร์ (Horned Viper)
ขอบคุณรูปภาพจาก : fineartamerica.com
เป็นงูที่อยู่ในวงศ์ Viperidae หรือวงศ์เดียวกับงูแมวเซา ออกหากินเวลากลางคืน อาศัยอยู่ในทะเลทราย Negev ประเทศอิสราเอล และทะเลทรายทั่วไปดูจากรูปแล้วมันคล้ายสัตว์จำพวก กิ้งก่า ไดโนเสาร์ ยังไงไม่รู้ แววตาก็ดูน่ากลัวชอบกล ก็เข้าใจหรอกนะว่าร่างกายเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับให้เข้ากับสภาพอากาศ
ปัจจุบัน บางสายพันธุ์ก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแก่มนุษย์ ร่วมทั้ง อาหารด้วย เราควรให้อยู่ในที่ๆของมัน ไม่ควรนำมาเลี้ยง หรือ นำมาทำเป็นอาหาร ยกเว้นบางสายพันธุ์ที่ไม่มีพิษ ที่เพาะเลี้ยงเล่นโดยเฉพาะก็มี สำหรับคนที่สนใจและใจรักจริงๆ
ขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140507180607513
: http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10_20.html
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที