ถ้าไม่เชื่อ...... Ù
นี่ก็หนุ่มสันทรายอีกคนหนึ่ง จะว่าไปแล้วก็สันทรายเดียวกับผมนั่นแหละ พูดถึงหนุ่มที่มีโครงสร้างทางกายภาพ และ ชื่อ หาสอดคล้องกันไม่แล้ว พูดไปคงไม่มีใครไม่รู้จักเขาคนนี้ เอ๊ ๆ! แถมเป็นลูกชายคนเดียวที่พ่อแม่หวงซะด้วยสิ แต่เรื่องนี้ก็คงไม่สำคัญอะไรกับผมหรอก ถ้าจะเทียบกับที่บ้าน ผมหมายถึง สิ่งที่อยู่ในบ้านนะ คือบ้านของมันมีของกินกับขนมที่เพียบ กิจกรรมของผมในยามว่างก็คือ การไปหามันที่บ้านเพื่อช่วยมันกินของที่บ้านมันบ่อยๆก่อนที่ของที่บ้านมันจะบูดเน่าไปซะก่อน นี่หวังดีนะครับ เพื่อน ๆ (อิ่มท้องไปหลายมื้อเลย) ถึงกระนั้นบ้านมันแม้จะมีขนมเยอะ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับด้วยความซนปนความน่ารักเล็กน้อยของผมทำให้ผมกวาดตา ( เสือก ) ไปเจอนี่เลย ถุงยังชีพกันตาย มาม่าถุงเบ้อเริ้มภายในบ้านมัน แล้วด้วยเหตุที่บ้านมีมาม่าเยอะ(หรือว่าไอ้ตุ้ยมันกินมาม่าเป็นอาหารหลักหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) เขาเป็นผู้ที่ถือได้ว่า เป็นคนแรกของโลกในนี้ ที่บุกเบิกศาสตร์และศิลป์ใหม่ๆในการกิน มาม่า โดยการเปิดซองและกินเข้าไปเลยจากนั้น ก็ดื่มน้ำตามมาก ๆ พร้อมกับไปแอบเขย่าตัวให้ไอ้ที่มันกินเข้าไปเมื่อกี้นะ ผสมเข้ากันเป็นอย่างดี ผมไม่กล้าถามเขาซึ่งหน้าหรอกว่าไอ้ที่มึงกินเข้าไปนี้ มันอิ่ม และ อร่อยสักแค่ไหน แต่ดูจากท่าทางแล้ว.......ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่มีใครทำตามอย่างแน่นอน............ไอ้บ้า !กูว่านะให้ทำตามคำแนะนำ ตามเขาเขียนไว้ข้างซองไว้ดีกว่า อร่อยกว่ากันแยะ
ปกติแล้วไอ้ตุ้ยมันจะเป็นคนนิ่งๆ ใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวได้เป็นเลิศหาผู้เทียมทาน จนทำให้ ผมเชื่อและปราศจากข้อข้องใจใดๆ ก็ตรงที่ว่า ไม่ว่าเพื่อนจะหัวเราะ หรือมีเรื่องที่ตลกขบขันภายในกลุ่มมากน้อยเพียงใดก็ตาม เชื่อไหมครับ เหอะ เหอะ เป็นเสียงแทนความมีส่วนร่วมภายในกลุ่มที่แสดงให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้เขาสนุกไปกับพวกเราด้วยเป็นอย่างมาก จนผม และ เพื่อน ๆ ทุกคน อดถามไม่ได้ว่า
นี่มึงตลกจริง ๆ หรือเปล่าวะ
ไม่แปลกใจเหรอครับว่าไอ้คนแบบนี้เป็นเดือนของชั้นปีได้ไง เห็นอย่างนี้นะครับ ขอบอก เครื่องสำอางครับ เครื่องสำอาง ก็จะ
อะไรเหรอ ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งมีเพื่อนตัวดี ของเราดันไป(เสือก)ค้น
ภายในกระเป๋า Outdoor สีแดงนั้นคือ Olay Cream (450 บาท) พอซักไซ้เข้าจริงแล้วได้ความว่า
ไอ้คนที่คนกระเป๋า เฮ้ย ตุ้ยนี่ของมึงเหรอ พร้อมชี้ไม้ชี้มือไปที่สิ่งนั้น
ตุ้ย เปล่า.......ของแม่กู
สรุปว่ามันขโมยของแม่มาใช้.....
ก็บอกว่าขโมยของแม่มาใช้ แต่ที่จริงแล้ว เอ ยังไงกันแน่ ไม่กล้าคิดต่อ .................................เสียวอุ๊ย ก็แหงหละครับ เขาสถาบันรับรองนี่ครับ ใช้แล้วหน้าเกลี้ยงยิ่งกว่าการทำสปาร์หน้าเด้งดึ๋ง....งงง.....งงงงอีก
ต่อด้วยเรื่องของกระเป๋านั้น กระเป๋าของเขาไม่มีอะไรมาก จนไม่มีอะไรเลย......เห็นแต่ว่ามีสมุด lectureหนึ่งเล่มไม่ค่อยจดบ้าอะไรหรอกจุดประสงค์ที่เอามาคือเอาไว้วาดรูปเล่น และแฟ้มเก็บชีสที่มีแต่ลวดลายศิลปะการ์ตูนของมันบนชีสที่อาจารย์แจกให้ เพื่อที่จะทำให้กระเป๋าหนักขึ้นมันจึงต้องใส่หนังสือการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูนที่ออกรายปักษ์ รายวัน ทุกวันศุกร์ รวมเล่ม หรือแม้แต่ออกตามใจคนแปลการ์ตูนเรื่องนั้น มันก็มีให้อ่าน ถ้าอยากอ่านการ์ตูนก็ไปเปิดกระเป๋ามันเลย ..... ( ถึงกูไปค้นบ่อยๆแต่ไม่เคยเจอ Olay Cream นะเว้ย )
เพราะมันคือร้านการ์ตูนเคลื่อนที่...
บ้านอยู่สันทรายแต่ชีวิตส่วนใหญ่ของมันมักจะอยู่ที่มหานคร ( ย่านร้านเกมส์ใกล้กับวิลัย ) ไม่ว่าจะกินข้าว ตัดผม หรือไม่รู้จะไปไหนมันก็ไปที่นั่น แม้แต่โดดเรียนก็ไปอยู่ที่นั่นผมก็ไปกับมันช่วงชั้นปีที่ 1 กับ 2 จะมีคนอยู่สามคนที่ชอบนั่งหน้าชั้นเรียนมีผม ไอ้ตุ้ย พี่เบียร์ เวลาโดดกันก็จะไปกันที่นั่นเสมอๆ เวลาหายไป เรียกกันว่าหายไปยกแผงหน้า (เพราะส่วนใหญ่พวกเราสามคนมักจะเป็นแนวหน้าในการนั่งเรียนด้านหน้าเสมอๆ) และอีกที่ที่มันมักจะไปอยู่คือร้านเกมส์หลังวิลัย ถ้าจะตามหามันก็ไปสองที่นี่น้อยครั้งที่จะไม่เจอ ที่มันไปบ่อยคงเพราะที่นั้นมีเรื่องสนุกๆเกิด ขึ้นตอนปี 2 นี้แหละขณะพี่เบียร์กับไอ้ตุ้ยไปนั่งเล่นเกมส์ Counter Strike กันที่นั่น ( โดดเรียนหายยกแผงหน้าอีกตามเคยแต่มันแอบไปกันสองคน )วันนี้แปลกกลับมาเร็วเกินคาดทำให้ผมสะกิดใจและถามมันไปว่า..
วี เฮ้ย...เป็นไงแอบไปกันสองคนนะเป็นไง......ไมกลับมาเร็วว่ะ
พี่เบียร์ + ไอ้ตุ้ย ................... ได้ใจความว่า
ขณะที่เล่นเกมส์ที่แบ่งทีมเป็นโจรกับตำรวจไล่ยิงกันสักพักตำรวจจริงๆก็มาที่ร้านเกมส์ ไม่ได้มาผ่านแต่เข้ามาในร้าน แต่ตำรวจเขาไปคุยกับเจ้าของร้าน
พี่เบียร์ เฮ้ย....ตำรวจมาทำไมหว่ะ
ไอ้ตุ้ย ไม่รู้หว่ะ เห็นไหม....มึงนะ.....ยิงตำรวจเยอะไปตำรวจเลยมาเลย
วันนั้นตำรวจมาจับเรื่องลิขสิทธิ์เกมส์เขาก็ยกเครื่องคอมไปหมดก็อดเล่นเลยต้องกลับเข้าไปเรียนกันเหมือนเดิม สมน้ำหน้ามันโดดเรียนไปเล่นเกมส์แล้วดัน ไม่บอกกัน..
ถ้าจะให้พูดไปมันเป็นบุคคลที่เล่นเกมส์เก่งมาก เวลาว่างๆผมจะไปเล่นเกมส์แข่งกับมันบ่อยๆ อย่าให้มันได้ชนะหละไม่งั้นโดนมันคุยทับถล่มจนติดลั้วจมลงดินไปเลย ทำให้ตอนนั้นผมเหมือนตัวตุ่นไปพักหนึ่งเลยเพราะผมชนะมันนับครั้งได้
อีกอย่างด้วยความที่เป็นคนง่ายๆไปไหนไปกันของมันใครชวนไปไหนไปหมดตอนปี 1 ที่เราไปนั่งกินเหล้ากันที่บ้านน้ำปิงเป็นร้านเล็กๆบรรยากาศดีแถวริมน้ำปิง แต่ว่าได้ยินข่าวล่าสุดตอนปี3ว่า มันเจ๋งไปแล้วว่ะ..................
ในตอนนั้นเพื่อนส่วนใหญ่....มันเมาไปหมดแล้ว เป็นโอกาสที่เรา
ไอ้ตุ้ย เออ....ๆ คินโยบิ คร็อก ฟุบ ( คินโยบิ = วันศุกร์ )
เป็นที่น่าเศร้าที่ผมหมดแนวร่วมในการเป็นขุนทลายกับไปโดยปริยาย
ด้วยความที่เพื่อนคนอื่นเห็นมันนอนฟุบโต๊ะอยู่จริงถามแบบเป็นห่วงว่า
เพื่อน เฮ้ย.......ไอ้ตุ้ยเป็นไรว่ะ ไอ้ตุ้ย
ไอ้ตุ้ย เออ....ๆ คินโยบิ คร็อก ฟุบโต๊ะต่อ
จะบอกทามไมว่าวันนั้นวันศุกร์กูอ่ะรู้แล้ว
หลังจากไอ้ตุ้ยคินโยบิแล้วก็ไม่มีใครสนใจมันไปพักใหญ่ ต่อมาไม่รู้มันมาพิศวาสอะไรผม พอมันโงหัวขึ้นได้ เดชะบุญผมนั่งตรงข้ามมันพอดี มันก็หันมาหาผมทันที
ไอ้ตุ้ย เฮ้ย...วี ๆ มึงจะขี่กูปะ
วี ขี่ไรวะ.....งงกูไม่ขี่มึงหรอก
ไอ้ตุ้ย เฮ้ย...วี ๆ มึงจะขี่กูปะ
วี ขี่เหี้ย....ไรมึงวะไอ้สาด
ไอ้ตุ้ย เฮ้ย...วี ๆ มึงจะขี่กูปะ
เก็บเอารถมันไปขี่แล้ว
ถ้าไม่เชื่อผมอะนะ.........อมขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมเลย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที