หมูน้อย

ผู้เขียน : หมูน้อย

อัพเดท: 08 เม.ย. 2014 10.43 น. บทความนี้มีผู้ชม: 61038 ครั้ง

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มกาแฟที่สุด


ช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มกาแฟที่สุด

 

          ผู้คนส่วนมากจะคิดว่าช่วงเวลาการดื่มกาแฟที่ดีที่สุดคือช่วงเช้าตรู่ หากแต่ที่จริงแล้วคาเฟอีนในกาแฟจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดถ้าบริโภคเวลา 10.30 น.

 

          นักประสาทวิทยา สตีเว่น มิลเลอร์ จาก Uniformed Services University of the Health Sciences (USUHS) ในรัฐแมรี่แลนด์สหรัฐอเมริกา ระบุว่า การดื่มกาแฟจะได้ผลดีที่สุด เมื่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายต่ำ ในช่วง 09.30-11.30 น. ซึ่งคาเฟอีนในกาแฟจะเข้ากับฮอร์โมนได้ดี

 

          ดังนั้น หากตื่นนอนในช่วง 9โมงเช้า ควรเว้นระยะให้คอร์ติซอลลดระดับลงประมาณ 1 ชั่วโมง นั่นก็คือเวลา 10โมงครึ่งพอดีสำหรับเวลาการดื่มกาแฟ

 

          นอกจากนี้ระดับคอร์ติซอลจะสูงสุดในเวลาอาหารกลางวัน และเวลา 17.30-18.30 น. หมายความว่า ช่วงเวลาเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะดื่มกาแฟ ถ้าดื่มเข้าไปประสิทธิภาพของคาเฟอีนจะไม่ช่วยให้ตื่นตัวเท่าใดนัก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่แปลกที่ว่า บางทีเมื่อดื่มกาแฟตอนเช้าตรู่แล้ว จะรู้สึกว่าต้องการกาแฟอีก หรือต้องการเพิ่มความเข้มของกาแฟ

          และสำหรับใครที่สงสัยว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลคืออะไร ฮอร์โมนคอร์ติซอลคือฮอร์โมนที่ผลิตมาจากต่อมหมวกไต และจะถูกสร้างมากขึ้นในตอนเช้า เพื่อช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ช่วยให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมอง และช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือดด้วย เพื่อให้เราพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาระหว่างวัน ก่อนที่ระดับของฮอร์โมนจะค่อย ๆ ลดลง จนกระทั่งตกเย็น และนอนหลับไป

 

          แต่หากระหว่างวันเราเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งหลั่งคอร์ติซอลออกมาเพิ่มขึ้น เพื่อต่อสู้กับความเครียด แล้วรู้ไหมว่า การที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลหลั่งมาก ๆ มันจะไปกระตุ้นให้เรารู้สึกโหยหิว อยากทานอาหารที่ให้พลังงานสูงมากขึ้น แล้วเก็บสะสมไขมันนั้นไว้เป็นพลังงาน เพื่อดึงออกมาใช้เมื่อคราวจำเป็น ซึ่งนี่เป็นกลไกของร่างกายที่จะชดเชยพลังงานที่คุณสูญเสียไปกับความเครียด ทำให้เรามีเรี่ยวแรงไปต่อสู้กับความเครียด นั่นหมายความว่า ยิ่งเครียดมากเท่าไร คุณก็ยิ่งอ้วนมากขึ้นเท่านั้น (แบบนี้คุณสาว ๆ คงไม่ปลื้้มแน่) เพราะอยากทานอาหารไขมันสูง ขนมหวาน ๆ อย่างบอกไม่ถูก

 

          นอกจากนี้ คอร์ติซอล ยังจะหลั่งออกมามากในคนที่อดหลับอดนอนบ่อย ๆ เพราะยิ่งนอนน้อย ร่างกายก็จะยิ่งอ่อนแอ เมื่อร่างกายอ่อนแอ ก็จะเกิดความเครียดขึ้นตามมา จึงไม่แปลกที่จะมีงานวิจัยชี้ว่า คนที่นอนน้อยมีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่นอนในระดับปกติ คือ 6-8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม คอร์ติซอล ไม่ได้มีบทบาทเกี่ยวกับความเครียดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ลดการอักเสบของร่างกายด้วย

          ทั้งนี้ หากระดับคอร์ติซอลสูงมาก ๆ เป็นเวลานาน ปัญหาที่ตามมาก็คือ การทำงานของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ความจำ ทำให้การทำงานของสมองส่วนนี้จะลดลง เซลล์ประสาท แขนงประสาทจะลดลง รวมทั้งไปขัดขวางเซลล์ใหม่ ๆ ที่มีการสร้างขึ้นด้วย

 

          เห็นความร้ายกาจแบบนี้แล้ว เราก็ควรรักษาระดับคอร์ติซอลให้สมดุล ไม่ให้หลั่งออกมามากเกินไป ด้วยการจัดการที่ต้นเหตุ นั่นก็คือ "กำจัดความเครียด" ซะ โดยอาจหากิจกรรมอื่น ๆ ทำ ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเดินช้อปปิ้ง ฟังเพลงเพราะ ๆ หาหนังตลกมาดู ทำสมาธิอย่างน้อยวันละ 10 นาที นวดคลายเครียด หรือถ้าจะให้ดีก็ลุกขึ้นไปออกกำลังกายซะเลยดีกว่า นอกจากจะลดคอร์ติซอลได้แล้ว ยังเพิ่มระดับเอ็นดอร์ฟิน และช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ด้วย ต่อมาก็คือ พยายามอย่าอดหลับอดนอน และไม่ควรนอนดึกจนเกินไป ดังนั้น อย่าดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ เพราะมีสารคาเฟอีนไปทำให้เราไม่รู้สึกง่วงนอน และเป็นที่มาของอาการนอนไม่หลับ

 


ขอบคุณข้อมูลจาก :

http://www.kapook.com/

http://www.dailynews.co.th/


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที