ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาขาดดุลทางการค้าถึง 4,000 ล้านบาท เนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมัน ทำให้เกิดผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง การประหยัดพลังงานและลดจำนวนการใช้น้ำมันจึงเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรการจำกัดการนำเข้าน้ำมันหรือมาตรการในการผลักดันและรณรงค์ให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานด้านการสื่อสารภายในประเทศ เช่น บริษัททรูคอร์ปอเรชั่นได้สัมปทานโครงการวางโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมายในเขตกรุงเทพฯ บริษัทชินวัตรสามารถส่งดาวเทียมไทยคม 1 และไทยคม 2 ได้สำเร็จ ขณะเดียวกันบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นประกาศดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวี โดยใช้เครือข่ายใยแก้วนำแสง และบริษัทเอกชนไทยก็เข้าไปลงทุนกิจการสื่อสารในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการโทรศัพท์และดาวเทียมสื่อสารในอาเซียนและภูมิภาคอินโดจีน โดยมักเป็นการร่วมทุนกับต่างประเทศ จากการที่เทคโนโลยีสารสนเทศได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากซึ่งสามารถทำให้การติดต่อสื่อสารทำได้แบบ real time และเป็นการติดต่อสื่อสารที่ครอบคลุมทั้งการรับส่งข้อมูล เสียง ภาพและภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังสามารถใช้สื่อสารแบบโต้ตอบกัน (Interactive) ได้ ดังนั้น E-working หรือการทำงานผ่านเครือข่ายอิเล็คทรอนิกส์ จึงสามารถนำมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยประเทศชาติประหยัดการใช้พลังงานในยุคที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที