หมูน้อย

ผู้เขียน : หมูน้อย

อัพเดท: 27 มี.ค. 2014 09.25 น. บทความนี้มีผู้ชม: 5601 ครั้ง

แตงกวามีประโยชน์กว่าที่รู้ๆกันนะคะ


กว่า 10 เหตุผลที่เราควรทานแตงกวา

          ทุกคนคงรู้จักแตงกวากันอยู่แล้ว เพราะใช้ประกอบอาหารได้หลากหลาย เป็นได้ทั้งผักแกล้มแก้เลี่ยนในอาหารจานเดียว เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง หรือจะเอาไปผัดน้ำมัน ทำแกงจืด ทำน้ำแตงกวาไว้ดื่ม หรือเอามาดองกินกับอาหารก็ได้อีกหลายอย่าง  

          เปลือกแตงกวามีกากใยอาหาร และเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ในแตงกวา 1 ผล เราจะได้ทั้งโปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก,วิตามินบี และซี ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถป้องกันการสะสมน้ำเกินความจำเป็นในร่างกาย และเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ แล้วยังช่วยควบุมความดันเลือด ควบคุมระดับคอเรสเตอรอล และช่วยระบบขับถ่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง แล้วแตงกวานี้มีพลังงานแคลอรี่ที่ต่ำเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

          แล้วแตงกวามีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 96 จึงมีคุณสมบัติแก้กระหาย และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ และสามารถกำจัดของเสียตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย

 

ด้านสุขภาพ แตงกวาเป็นผักที่เหมาะกับการกินยามอากาศร้อนเพราะลดความร้อนและช่วยให้ร่างกายสดชื่น

· แก้อาการเจ็บคอ แก้อาการเจ็บคอโดยกลั้วคอด้วยน้ำคั้นผลแตงกวาวันละอย่างน้อย 3 ครั้ง

· แก้อาการท้องผูก น้ำคั้นผลแตงกวาเป็นยาระบายอย่างอ่อน ลดกรดในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะและช่วยการขับถ่าย

· ลดกลิ่นปาก หากมีกลิ่นปาก ให้เคี้ยวแตงกวา การเคี้ยวแตงกวานี้จะช่วยดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากช่องปากได้เป็นอย่างดีเชียวนะคะ

· ลดอาการเมาค้าง หากตื่นเช้ามาแล้วมีอาการเมาค้าง ลองเปิดตู้เย็นนำแตงกวามาทานคู่กับมายองเนสดูสิคะ

· นอกจากนี้ น้ำแตงกวายังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ, แก้ไข้, ลดอาการนอนไม่หลับ, ลดกรดในกระเพาะอาหาร, แก้กระหายน้ำ และลดอาการโรคเกาต์ โรคไขข้อรูมาติสม์ และอาการบวมน้ำอีกด้วย

 

ด้านผิวหน้า

· ป้องกันสิวและสิวหัวดำ โดยการใช้เนื้อแตงกวาขูดเป็นฝอย นำไปพอกบริเวณหน้าและคอเป็นเวลา 15-20 นาทีเพื่อบำรุงผิว ถ้าใช้บ่อยจะป้องกันผิวหน้าแห้ง ป้องกันการเกิดสิวและสิวหัวดำได้

· ผิวหน้าสดใส โดยการใช้น้ำมะนาวเล็กน้อยและน้ำลอยกลีบกุหลาบ (ที่ปลูกเองแบบปลอดสาร ใช้กลีบกุหลาบมากหน่อย น้ำไม่ต้องมาก วัตถุประสงค์คือให้น้ำมันหอมจากกลีบกุหลาบออกมาอยู่ในน้ำ) ผสมกับน้ำคั้นผลแตงกวา นำมาทาบนผิวหน้าเพื่อทำให้ใบหน้าสดใส (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวมัน)

· ผิวหน้าผุดผ่อง โดยใช้น้ำคั้นผลแตงกวาและนมสดปริมาณเท่าๆกัน เติมน้ำลอยกลีบกุหลาบอีกสัก 2-3 หยด นำมาทาหน้านาน 15-20 นาที ทำให้ผิวหน้านุ่มและขาวขึ้น

· ลบถุงดำใต้ตา โดยใช้น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำคั้นมันฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาทารอบขอบตา พักราว 15 นาทีจึงล้างออก

· บำรุงผิว โดยผสมน้ำคั้นแตงกวา น้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำแช่กลีบกุหลาบ กลีเซอรีน และน้ำผึ้งอย่างละเท่าๆกัน ใช้ทาผิวให้ตึงกระชับเพิ่มความอ่อนเยาว์

· ลดรอยหมองคล้ำใต้รักแร้ โดยการผสมน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนชา, น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และผงขมิ้นครึ่งช้อนชา หลังจากอาบน้ำเช็ดตัวให้ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณใต้รักแร้เป็นวงกลม หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวา น้ำมะนาว และผงขมิ้นให้เข้ากัน ทาใต้รักแร้ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกและเช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

· ลบรอยด่างดำ การดื่มน้ำคั้นแตงกวาจะช่วยลดรอยด่างดำบนผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่องรอยจากยุงกัด และให้ทาน้ำแตงกวาผสมน้ำลอยกลีบกุหลาบอัตราส่วนเท่าๆ กันด้วย

· มิตรแท้ของดวงตา หั่นแตงกวาเป็นแว่นตามขวาง หลับตาแล้ววางแว่นแตงกวาลงบนเปลือกตา นอนในที่เงียบแสงสลัวๆ จะบรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา ที่เกิดจากการใช้งานนานๆ ที่ได้รับฝุ่นควัน แสงจ้า หรือการใส่คอนแท็กเลนส์นานเกินไป

 

 

ด้านผิวพรรณและเส้นผม

· ช่วยการเจริญของผม ให้ดื่มน้ำคั้นผลแตงกวาและน้ำแครอทเป็นประจำ ซิลิก้าและกำมะถันในน้ำแตงกวาจะบำรุงเส้นผม เล็บและผิวหนัง

· ทรีตเม้นท์ลดความเสียหายของผมจากคลอรีน ผสมไข่ 1 ฟอง, น้ำมันมะกอก 3 ช้อนชา และแตงกวาปอกแล้ว 1 ส่วน 4 ผล ชโลมลงบนเส้นผม ทิ้งไว้ 10 นาทีจึงล้างออก

· หรือลองดื่มน้ำคั้นผลแตงกวาก็ได้นะคะ เริ่มด้วยการนำแตงกวา 2 ผล, น้ำ 2 ถ้วย, น้ำแข็ง 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะหรือตามชอบ น้ำมะนาวครึ่งผล ใส่เครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน อาจจะใส่ผลไม้อื่นด้วยเช่นแคนตาลูปหรือแตงโม ถ้าใส่ผลไม้อื่นสามารถลดน้ำตาลได้ด้วย หรืออาจใช้น้ำเพียง 1 ถ้วย ปั่นแล้วเทใส่แก้วแล้วเติมโซดาเย็น 1 ถ้วยก็ได้ ด้วยการที่เราทานน้ำแตงกวานี้จะทำให้เรามีผิวพรรณที่ดี เปล่งปลั่งสวยงามกันเลยทีเดียว

 


ขอบคุณข้อมูลจาก :

http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type1/tech03/28/food_drink/cucumber.html

http://health.spokedark.tv/2013/10/18/9-reasons-2-eat-cucumbers/#.UzN7Qfl_uSp

http://blog.eduzones.com/dekjang/33569


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที