อิทธิพลของ "สื่อออนไลน์" ในทศวรรษนี้ได้พลิกโฉมการสื่อสารต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารการตลาดของบรรดาแบรนด์สินค้าต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกิดเสียงตอบรับจากผู้บริโภคได้แบบทันทีทันใด และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ไร้การควบคุม และเปลี่ยนบทบาทผู้บริโภคจากเพียง "ผู้รับสาร" ให้กลายเป็นผู้กำหนด "คอนเทนต์" ตัวจริงเป็นปรากฏการณ์ที่นักโฆษณาและเจ้าของสินค้าต้องตื่นตัวกันมากขึ้น
ในงานเสวนา "How do we co-create respensibly for the brand ?" ที่จัดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนของแบรนด์สินค้าและผู้สร้างสรรค์งานโฆษณา ได้มาร่วมขบคิดหาวิธีทำให้แบรนด์เป็นที่ชื่นชอบอย่างยั่งยืน แต่ยังต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ในสภาวะที่ช่องทางการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปมาก และ "สื่อออนไลน์" เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากกับผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน
"อ่อนอุษา ลำเลียงพล" นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ระบุว่า ทุกวันนี้คอนเทนต์คือพระเอกของโลกการสื่อสาร ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่มีเทคโนโลยีอย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเลต ฯลฯ ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น และสามารถผลิตคอนเทนต์ ส่งต่อข่าวสาร-ความรู้สึก-ความคิดเห็นให้แก่กันได้อย่างรวดเร็ว
"เป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับนักโฆษณาและนักการตลาด เพราะคอนเทนต์ไปถึงผู้บริโภคได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันหากเกิดการสื่อสารผิดพลาดก็อาจหมายถึงความเสียหายที่ยากต่อการ จำกัดวงเช่นกัน"
ดังนั้น ยอดคลิกไลก์ แชร์ หรือแม้แต่คนที่เข้ามาถกกันในเรื่องนั้นๆ เป็นอีกรูปแบบเสียงสะท้อนความคิดเห็นจากผู้บริโภคในโซเชียลมีเดีย ที่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แบรนด์สินค้าให้ความสนใจ
โจทย์ของนักโฆษณาวันนี้ จึงต้องหาวิธีทำโฆษณาให้คอนเทนต์ของตัวเองถูกพูดถึง และบอกต่อกันในวงกว้างในสังคมออนไลน์
ด้าน "สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์" ประธานและประธานกรรมการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด เอเยนซี่โฆษณา มองว่า เนื้อหาโฆษณาที่นำเสนอความซาบซึ้ง หรือกล้าที่จะพูดในเรื่องที่แตกต่าง ล้วนแต่เป็นกลวิธีดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค แต่ก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
อาทิ การดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งมักจะเกิดกับโฆษณาแบบไวรัลที่ต้องการให้เกิดปรากฏการณ์ "พูดถึงและเล่าต่อ" แต่ก็มีทั้งผลดีและความรู้สึกทางลบที่ควรระวัง
"ทุกวันนี้มีแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมากมาย สำหรับเอเยนซี่โฆษณาก็คิดงานยากขึ้น เพราะเรารู้ผลตอบรับจากผู้บริโภคเร็วขึ้น รูปแบบการสื่อสารในปัจจุบันจึงทำให้คนคิดโฆษณา นอกจากต้องสร้างสรรค์แล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบกับแบรนด์สินค้าและสังคมโดยรวม"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของตัวแทนแบรนด์สินค้า "สิทธิโชค นพชินบุตร" รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ที่ให้มุมมองว่า การแนะนำสินค้าหรือกลยุทธ์ "ปากต่อปาก" ที่นักการตลาดต้องการให้เกิดขึ้น วันนี้ได้แปรรูปมาเป็นการคอมเมนต์ การแชร์ ในสื่อออนไลน์ หรือแม้แต่การเขียนบล็อก รีวิวสินค้า โดยข้อมูลและความคิดเห็นที่ถูกเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าด้วย
"บริษัทเคยได้รับการ ร้องเรียนปัญหาการใช้บริการศูนย์ซ่อมโทรศัพท์ ลูกค้าเข้ามาคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตเยอะมากซึ่งทำให้เรามองการเพิ่มจุดให้ บริการให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้นคำร้องเรียนก็ซาลงไป การแก้ไขปัญหาดีกว่าการแก้ตัวอย่างแน่นอน เพราะผู้บริโภคต้องการความจริงใจ การหลอกลวงจะทำให้เกิดความรู้สึกลบต่อแบรนด์ขึ้นมาในทันที ซึ่งความไม่พอใจนี้อาจแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเกินการควบคุมและนำไปสู่ความ เสียหายใหญ่หลวงต่อแบรนด์สินค้าในที่สุด"
"อ่อนอุษา" ย้ำว่า วันนี้ไม่ว่าการสื่อสารจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร การสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนยังต้องยึดหลัก "เก่งและดี"
ควบคู่กันไป คือนอกจากแบรนด์จะมีประสิทธิภาพตอบโจทย์ความต้องการแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ผู้เป็นกระบอกเสียงสำคัญ ที่จะชี้ชะตาความสำเร็จและ "ความยั่งยืน" ของแบรนด์ในระยะยาว
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393569082
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
