ที่มา : toptenthailand
BMW R 1200 R ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นี้ ต้องเรียกว่า BMW ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาจากเวอร์ชั่นก่อนๆ ที่ครองใจนักบิดที่รักความเร็วอย่างเต็มที่เลยทีเดียว โดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขุมพลังขนาด 1,170 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ มีการควบคุมความสมดุลของเครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน เครื่องยนต์ให้กำลังถึง 110 แรงม้า อัตราการอัดอยู่ที่ 12.0:1 โดยมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 119 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที
สำหรับ Triumph Tiger Explorer ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นต้องเรียกได้ว่าเป็นบิ๊กไบค์แนวทัวร์ริ่งที่ได้รับการออกแบบมาให้มีความ แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว พร้อมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับขุมกำลังขนาดกระบอกสูบ 1,215 ซีซี 3 สูบ 12 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว มีระบบหัวฉีดแบบ Ride By Wire, Fuel Injection โดยให้กำลังถึง 137 แรงม้าที่ 9,300 รอบต่อนาที และมีอัตราการเร่งอยู่ที่ 121 นิวตันเมตรที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงสะใจกันไปเลยงานนี้
สำหรับ BMW R NineT By Urban Motor ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นต้องเรียกว่ามีพื้นฐานในการอัพเกรดมาจากโรดสเตอร์แรงอย่าง BMW R NineT เลยทีเดียว โดยมาการเสริมหล่อความแรงลงไปอย่างเต็มสูบกันเลยทีเดียว ทั้งบอดี้ชนิดพิเศษที่เรียกว่าเทพสุดๆ มีเชื่อมต่อกับระบบไฟแบบ Mottogadget Motoscope Pro digital LED ที่ให้ความส่วางแบบเทพๆ ไปเลย
สำหรับ APRILIA SHIVER 750 ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นถือเป็นรถแนวสปอร์ตไบค์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขุมกำลังขนาดกระบอกสูบ 749.9 ซีซี ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่น Aprilia V90 four-stroke longitudinal 90 V-twin ที่มีคุณสมบัติเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ โดยมี 4 วาล์วต่อสูบ แบบ DOHC โดยระบายความร้อนด้วยของเหลว ให้กำลังถึง 95 แรงม้า พร้อมกับอัตราการอัดอยู่ที่ 11 : 1 และอัตราแรงบิดอยู่ที่ 73 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบหัวฉีดแบบ Digital electronic, integrated with the injection และระบบจัดการเชื้อเพลิงแบบ Ride by Wire integrated engine control system เรียกว่าแรงสะใจเลยทีเดียว
สำหรับ Yamaha YZF-R6 ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นต้องถือว่าเป็นบิ๊กไบค์แนวซูเปอร์สปร์ตรุ่นกลางๆ ที่น่าในใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 599 ซีซี 4 สูบ แบบ DOHC มีจำนวนวาล์วถึง 16 วาล์วซึ่งทำจากไททาเนี่ยม โดยระบายความร้อนด้วยของเหลว และมีอัตราการอัดอยู่ที่ 13.1 : 1 และมีระบบหัวฉีดเป็นแบบ TCI เรียกว่าจัดหนักกันเลยทีเดียว
สำหรับ HONDA CB1000R ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นถือว่าเป็นรถแนว naked ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 998 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 4 จังหวะ 16 วาล์ว ซึ่งเป็นแบบ DOHC ซึ่งระบายความร้อนด้วยของเหลว พร้อมกับระบบหัวฉีดที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นแบบ digital transistorised with electronic advance โดยมีระบบคาบูเรเตอร์แบบ PGM-FI electronic fuel injection ที่พร้อมทำงานผสานกันอย่างลงตัว สำหรับอัตราแรงอัดอยู่ที่ 11.2 : 1 ในขณะที่อัตราแรงบิดอยู่ที่ 100 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว
Kawasaki Ninja 650 (ABS) : บิ๊กไบค์ รุ่นใหญ่ แรงมากด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 649 ซีซี. 4 จังหวะ 8 วาล์ว DOHC หัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงบิดที่สูงขึ้น เร่งได้รวดเร็ว มาพร้อมกับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต ดุดัน ไฟหน้าคู่แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งนุ่ม และสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการเพิ่มคุณภาพฟองน้ำ ที่หนากว่าเดิม ป้องกันแรงลมปะทะศรีษะได้ดี ด้วยกระบังลมใหม่ปรับได้ 3 ระดับ( 60 มม.) ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งและองศาที่เหมาะสม
คาวาซากิ นินจา 650 ดูสปอร์ตมากขึ้น กับฝาครอบท้ายเบาะสั้นลงอีก 10 มม. กะทัดรัด พ่วงมาด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่เพรียวและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ชลอ หรือหยุดรถได้ดั่งใจ และนิ่มนวลด้วยระบบเบรก ABS หน้าหลัง ท่อไอเสียออกแบบและติดตั้งใต้เครื่องยนต์ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้การควบคุมและขับขี่ที่ง่ายขึ้น ระบบไอเสียผ่านค่ามาตรฐานระดับ 6 หนักแน่นและมั่นคงกับโครงสร้างตัวถังแบบท่อคู่ แบบใหม่ในสไตล์แบคโบน น้ำหนักเบา พร้อมสวิงอาร์มใหม่แบบท่อคู่ ที่ปรับตั้งระบบกันสะเทือนเข้ากับเฟรมได้อย่างสมบูรณ์ ชัดเจน แม่นยำ อ่านง่าย กับมาตรวัดดีไซน์ใหม่ที่แสดงผลทั้งแบบอะนาล็อค+ดิจิตอล มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบ แผงเรือนไมล์พิเศษบอกค่าระยะทางที่ขับขี่ได้จากปริมาณเชื้อเพลิงที่เหลือ อยู่ และอัตราสิ้นเปลือง ให้แฟนๆขับทางใกล้ หรือไกลได้อย่างสบายใจ
สำหรับ Ducati Diave Carbon ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้น ต้องเรียกว่าเป้นบิ๊กไบค์สไตส์ซูปเปอร์สปอร์ตที่ผสมผสานกับแนวสตรี ทไฟต์เตอร์ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว โดยมันมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 1,198 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์แบบ Testastretta 11ที่มีสูบเป็นแบบ L-Twin มีจำนวนวาล์วต่อสูบอยู่ที่ 4 วาล์ว ซึ่งเป็นแบบ Desmodromic, liquid cooled ซึ่งให้กำลังถึง 162 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที ส่วนระบบหัวฉีดใช้ระบบของ Mitsubishi electronic fuel injection systemโดยมีระบบจัดการเชื้อเพลิงเป็นแบบ Electronic Fuel Injection System
สำหรับ KTM 1190 RC8 R ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นเป็นอีกหนึ่งในตระกูล SUPERBIKE ของ KTM โดยมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 1,195 ซีซี แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ spark-ignition ด้วยเครื่องยนต์แบบ 75 V arrangement ระบายความร้อนด้วยของเหลว ให้กำลังถึง 173 แรงม้า แค่เห็นสเปกของเครื่องยนต์ ต้องบอกเลยว่าแรงสมใจนักบิดทางเรียบกันไปเลย นอกจากนี้แล้วระบบหัวฉีดยังเป็นแบบ Contactless ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยผสานการทำงานกับ Liquid cooling system พร้อมด้วยระบบสตาร์ทรถแบบไฟฟ้า
สำหรับ Ducati Monster 1200 S ในเวอร์ชั่นของปี 2014 นั้นต้องเรียกว่าใหญ่สะใจกันเลยทีเดียว โดยมันพกพาความแรงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 1,198 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์แบบ Testastretta 11 L-Twin 2 สูบ 4 วาล์ว โดยมี 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว และมีระบบหัวฉีดแบบ Electronic fuel injection system โดยมีอัตราการอัดอยู่ที่ 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุดถึง 145 แรงม้าที่ 8,750 รอบต่อนาที และมีอัตราการเร่งที่ 124.5 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที
ขอขอคุณที่มา http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140207115940592
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที