ทุกครั้งที่เราทำบุญ ส่วนใหญ่มักจะอธิษฐานกัน เพื่อหวังอยากได้ในสิ่งที่เราพึงปารถนาการทำบุญแล้วอธิษฐานจึงเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธมักทำคู่กันเป็นประจำ
มีคำถามว่า การอธิษฐานนั้น จะให้ผลจริงตามแรงอธิษฐานหรือไม่
คำตอบคือ ให้ผลได้จริง
เพราะคำว่า อธิษฐาน แปลว่า การจดจ่อแน่วแน่ของจิต จิตของคนเรามีพลานุภาพมากเมื่อจิตจดจ่อและตั้งมั่นอยู่ในเรื่องใดนานเข้า จิตจะสามารถน้อมนำสิ่งนั้นมาสู่เราได้
แต่สิ่งที่น้อมนำมานั้นเป็นวิบากคือผล ดังนั้นต้องสร้างเหตุก่อนแล้วผลนั้นจะตามมา
ก่อนที่จะอธิษฐานจิต จึงต้องมีการทำบุญสร้างเหตุให้ดีเสียก่อน แล้วผลที่ดีจะตามมา
โดยอาศัยการอธิษฐานจิตเป็นเครื่องเหนี่ยวนำความต้องการของเรา
บางคนชีวิตนี้ต้องพบกับปัญหาด้านความรัก ต้องทุกข์เพราะคนรัก หรือไม่สมหวังในความรัก
จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิต ขอให้ชาติหน้าได้พบคู่ครอที่ดี หรือสมหวังในความรัก
บางคนเกิดมาร่างกายไม่สมประกอบ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำเค็ญจึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิต ขอให้ชาติหน้าได้เกิดมามีร่างกายที่สมประกอบครบ 32
บางคนชาตินี้ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายทำให้รำคาญใจ และไม่มีความสุข จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิต ขอให้ชาติหน้าเกิดมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
บางคนชาตินี้เกิดมามีฐานะยากจน มีชีวิตที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวองอย่ายากลำบาก เมื่อได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมจึงเข้าใจเหตุและผลของกรรมและวิบากกรรมจึงทำบุญเพื่อให้พบชาติต่อไป ได้เกิดมารวย มีอันจะกิน ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่อีกต่อไปหรือ
บางคนเกิดมารูปร่างหน้าตาไม่งาม จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิตขอให้ชาติหน้าเกิดมาหน้าตาดี มีเสน่ห์
การอธิษฐานจิตดังกล่าวนี้ แทบจะเห็นกันอยู่เสมอๆทุกครั้งที่ปุถุชนคนส่วนใหญ่มักอธิษฐานกัน
แต่ขอให้รู้ว่า การอธิษฐานเช่นนี้ เรียกว่า
"การอธิษฐานด้วยตัณหา"
ไม่ใช่เป็นการอธิษฐานที่ดีที่สุด เพราะคนที่ตั้งจิตอธิษฐานดังกล่าวนี้ เป็นอธิษฐานที่เจือด้วยกิเลส อยากได้ใคร่มีเพราะเป็นอำนาจของความโลภ เพื่อหวังในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพื่อสนองอัตตาของกิเลสของตนเองจึงไม่ได้ชื่อว่าเป็นการอธิษฐานที่ดีเลิศเพราะขึ้นชื่อว่ากิเลส ย่อมมีความมัวหมองในจิต
แต่การอธิษฐานอย่างไรจึงชื่อว่าเป็นการอธิษฐานที่ดีที่สุด
การอธิษฐานที่ดีเลิศคือ
"การอธิษฐานด้วยปัญญา"
ปัญญาคือการรู้แจ้งแทงตลอดในกลไกลของเหตุผลของสรรพสิ่งนั้นๆผู้ที่เข้าใจชีวิตตามแนวทางคำสอนของพระพุทธองค์จะเห็นความจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย ว่าทุกอย่างล้วนเป็นมายา เพราะชีวิตและธรรมชาติทั้งหลายอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ทุกสิ่งล้วนไม่ยั่งยืน
ทุกสิ่งล้วนเป็นทุกข์
และทุกสิ่งไช่ตัวตน
แต่ผู้มีปัญญาน้อย หรือ ปัญญาทุรพล คือผู้ที่ไม่ได้เข้าใจหลักความจริงสากลของธรรมชาติจึงเกิดความไม่รู้ หรือ อวิชชา และ ปรุงแต่งไปทางบุญบ้าง บาปบ้าง และต้องวนเวียนเกิดเวียนตายเสพทุกข์ สุขไปตามแรงกรรม
ผู้ที่เห็นภัยในวัฎฎะ ผู้นั้นจึงขึ้นชื่อว่า ผู้มีปัญญาได้เห็นความจริงของมายาการจึงไม่ปารถนาต้องมาพบกับความแปรปรวนของทุกข์และสุขในสังสารวัฎฎ์อีกต่อไป จึงได้หมั่นทำบุญแล้วอธิษฐานจิตเพื่อจะไม่มาเกิดอีก จึงเรียกว่า การอธิษฐานด้วยปัญญา
ส่วนการอธิษฐานด้วยตัณหา เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจในความจริงของสรรพสิ่งของผู้นั้นจึงยึดติดในกิเลสและอุปทาน จึงทำไปด้วยอำนาจของกิเลสที่หวังในลาภ ยศ สรรเสิรญ สุขในทางโลกแม้จะได้สิ่งที่ต้องการมา แต่ก็ไม่อาจอยู่กับผู้นั้นได้นานเพราะความแปรปรวนของสรรพสิ่ง และยิ่งเป็นการเพิ่มภพชาติให้มากขึ้น และทุกข์ก็ตามมามากขึ้นตามภพชาติที่เกิด
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า " การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ "
เราลองมาสำรวจตัวเราเองกันเถิด ว่าที่ผ่านมาเราทำบุญแล้วอธิษฐานด้วยอำนาจแห่งตัณหา เพื่อให้สร้างภพสร้างชาติต่อไปหรือ อธิษฐานด้วยปัญญา
หากผู้ใดเข้าใจในการความเป็นไปของชีวิตและเบื่อหน่ายในความแปรปรวนของสรรพสิ่ง
และการหลอกลวงด้วยภาพมายาชีวิตที่ไม่มีอยู่จริงและพึงหวังสิ่งที่เลิศกว่า คือการไม่มาเกิดอีก
ขอให้ท่านนั้นจงตั้งจิตอธิษฐานดังนี้ทุกครั้งภายหลังจากทำบุญแล้ว
"ด้วยผลแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในครั้งนี้ ( นึกถึงบุญที่เราทำ )
ขอให้เป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด
แต่หากข้าพเจ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดทุกภพชาติที่จะต้องเกิด ขอให้ให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิขอให้ได้พบพระพุทธศาสานา ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องได้พบกัลยามิตรชี้ทางสว่างให้แก่ข้าพเจ้าและได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมชั้นสูงอันเป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด"
นี่คือการอธิษฐานที่ดีเลิศที่สุด ไม่มีส่วนใดเจือด้วยกิเลสเลย
ลองมาวิเคราะห์คำอธิษฐานนี้ดู
ขอให้เป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้
การเดินทางของชีวิต มีจุดหมายคือการพ้นทุกข์ เป้าหมายของเราคือการเข้าถึงพระนิพพาน
และ ในอนาคตกาลอันใกล้ เพื่อระบุให้ภพชาตินั้นไม่ยืดยาว เพื่อความทุกข์ต่างๆจากภพชาติจะได้สั้นเข้าไปอีก
แต่หากข้าพเจ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิด
ทุกภพชาติที่จะต้องเกิด ขอให้ให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิ
หากเรายังไม่บรรลุธรรมชั้นสูง แน่นอนว่ายังต้องกลับมาเกิดอีก
แต่การเกิดนั้น หากไปเกิดในครอบครัวของผู้ที่ไม่เลื่อมใส ศรัทธาในพระพุทธศาสนา อาจทำให้เราเดินทางผิดได้ เพราะครอบครัวนั้นอาจไม่เชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม ไม่ทำบุญ หรือซ้ำร้ายอาจทำทุจริตเห็นผิดเป็นชอบ เราอาจถูกสอนให่ทำไปตามนั้น ซึ่งนำมาซึ่งโทษภัยได้
ดังนั้นการอธิษฐานเพื่อให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิ เป็นเครื่องช่วยให้เราดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องเพราะสัมมาทิฎฐิหรือความเห็นที่ถูกต้อง หรือความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง เป็นประตูด่านแรกแห่งการเดินทาง
สู่ทางพ้นทุกข์ สัมมาทิฎฐิจึงเป็นประธานของ มรรค 8 นั่นเองเมื่อมีสัมมาทิฎฐิ แล้วสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา และอื่นๆจะตามมา
ขอให้ได้พบพระพุทธศาสานา ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
การอธิษฐานเพื่อให้ได้พบพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก
คำสอนของพระพุทธองค์ เป็นเครื่องชี้ทางให้เราพ้นทุกข์ได้
การได้ฟังธรรมที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของการเดินทางสู่การพ้นพทุกข์
เพราะ แม้ว่าเราจะได้พบพระพุทธศาสนา แต่หากได้ฟังธรรมมาผิดๆ จะทำให้เราเดินผิดทางได้
ได้พบกัลยามิตรชี้ทางสว่างให้แก่ข้าพเจ้า
การได้พบกัลยาณมิตรหรือผู้รู้ธรรมพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
เพราะกัลยาณมิตรจะคอยแนะนำทางที่ถูกที่ควรให้เรา
ในมงคล 38 ประการ ข้อที่สำคัญที่สุดคือ มงคลข้อที่ 1"อเสวนา จะพาลานัง ปัณฑิตา ณัญจะ เสวะนา”"
อย่าคบมิตรชั่ว ให้คบแต่กัลยานมิตร หรือคบผู้รู้
และได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมชั้นสูงอันเป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด
การได้ฟังธรรมที่ต้องแล้วยังไม่พอ ต้องฎิบัติธรรมจนบรรลุด้วยจึงจะขึ้นชื่อว่าได้เข้าถึงปัญญาในการรู้แจ้งแทงตลอดอย่างสมบูรณ์
แล้วคำถามว่า ถ้าเราอธิษฐานด้วยปัญญาแล้ว เงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญจะเกิดกับเราหรือไม่
คำตอบคือ เราได้รับแน่อนอนอยู่แล้วแม้ว่าจะไม่ได้อธิษฐานถึงสิ่งเหล่านี้เพราะสร้างเหตุไว้อย่างไร ผลที่ได้รับย่อมตรงตามเหตุนั้น
ดังนั้นการทำบุญครั้งต่อไป ควรอธิษฐานด้วยปัญญากันได้แล้ว
ขอขอบคุณที่มาhttp://www.yantip.com/viewthread.php?tid=5711
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที