2
สังคม สิ่งแวดล้อม และพลังงานที่ยั่งยืน
(Social -Environment and Sustainable energy) (2)
2.3.3 พลังงานที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และสัตว์ประกอบด้วย :
1. พลังงานความร้อน (Thermal energy) คือปริมาณความร้อนที่สามารถทำงานได้ และสามารถใช้ประโยชน์ทางด้านต่างๆ พลังงานความร้อนมาจากหลายแหล่ง เช่น เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ การเผาไหม้เชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์หรือห้องเผาไหม้ และการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ นอกจากนี้พลังงานความร้อนยังเกิดจาก พลังไฟฟ้า พลังงานนิวเคลียร์ และพลังงานความร้อนจากใต้พื้นพิภพ เป็นต้น
พลังงานความร้อนสามารถทำให้สาร เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกายภาพและทางเคมี ความร้อนทำให้สารมีอุณหภูมิสูงขึ้น และพลังงานความร้อนยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานในรูปต่างๆเช่น พลังงานแสง พลังงานกล พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
พลังงานความร้อนสามารถวัดได้เป็น แคลอรี หรือ จูล ( joule /calorie) โดยใช้เครื่องมือ แคลอรีมิเตอร์ (calorimeter)..พลังงานกล 4.18 joule มีค่าเท่ากับ 1calorie…..ความร้อนสามารถเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ เรียกว่า "การถ่ายโอนความร้อน" โดยใช้ตัวกลางเป็นสื่อทางเดินของการถ่ายโอนความร้อน ตัวกลางที่ดีได้แก่ โลหะ ส่วนอากาศและน้ำก็จัดเป็นตัวกลางของการถ่ายเทความร้อนเช่นกัน
การถ่ายเท /การส่งผ่าน / การนำ…ความร้อนถ่ายเทจากที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปสู่ที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า….การส่งผ่านโดย การนำความร้อน (conduction of heat) ด้วยตัวนำความร้อน เช่น ทองแดง ทองเหลือง อลูมิเนียม หรือสารที่เป็นโลหะทั่วไป ส่วนวัสดุที่ไม่เป็นตัวนำ แต่ต้านทานและสกัดกั้นไม่ให้ความร้อนส่งผ่านตัวมันเองได้เรียกว่า…. “ ฉนวนกันความร้อน(insulation) ” ….. เช่น ไม้ ยางสังเคราะห์ และพลาสติก
การพา ความร้อน (convection of heat)….เป็นการถ่ายเทความร้อนของสารเมื่อได้รับความร้อน เช่น อากาศ เมื่อได้รับความร้อนจะมีความหนาแน่นของอนุภาคน้อยลง….ขยายตัวลอยตัวสูงขึ้น….พร้อมทั้งพาความร้อนไปด้วย ส่วนอื่นที่ยังไม่ได้รับความร้อน….มีความหนาแน่นของอนุภาคมากกว่า….จะเคลื่อนมาแทนที่จนอากาศนั้นได้รับความร้อนทั่วกันทั้งหมด
การแผ่รังสี (radiation of heat ).…เป็นการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากแหล่งกำเนิดความร้อนหนึ่ง ถ่ายเทไปยังสารอีกแห่งหนึ่งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง เช่นการตากข้าวเปลือกในลานข้าว การตากผักกาดก่อนเข้ากระบวนการดอง การตากกล้วยเพื่อทำกล้วยตากกลางแดด เป็นต้น
เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวัดระดับความร้อนในสารชนิดต่าง ๆ ว่ามีระดับความร้อนสูงหรือต่ำ ลักษณะเป็นหลอดแก้วยาวกลมด้านนอกข้างหลอดแก้ว มีสเกล ข้างในบรรจุของเหลวที่มีการหดหรือขยายตัวได้ง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ของเหลวคือปรอทหรือแอลกอฮอล์ สเกลที่กำกับไว้เป็นขีดเท่าๆ กัน โดยให้ 1 ขีด มีค่าเท่ากับ 1 องศา แบบปรอท จะวัดอุณหภูมิได้สูงสุด 357 oC และวัดได้ต่ำสุดได้ -39 oC ทั้งนี้เพราะจุดเดือดของปรอทอยู่ที่ 357 oC และจุดเยือกแข็งอยู่ที่ -39 oC ในการกำหนดสเกลของเทอร์โมมิเตอร์นั้นจะมีการกำหนดจุดเยือกแข็งของน้ำแข็ง(Freezing Point) เป็นจุดเยือกแข็งของน้ำบริสุทธิ์ และจุดเดือดของน้ำ (Boiling Point) เป็นจุดเดือดของน้ำบริสุทธิ์
รูปที่6 แสดง กลไกระบบการถ่ายเทความร้อน/ส่งผ่านความร้อน
//////////////////////////////////////
19/10/56
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที