ขอเชิญนักเรียน/นักศึกษา บุคคลทั่วไป เข้าร่วมส่งบทความ รูปภาพ ภายในวันที่ 9 ธันวาคม ที่ web-service@tpa.or.th โดยมีกฎเกณฑ์ดังนี้
วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินศิลปาธร ประจำปี 2553 หนึ่งในแกนนำในการจัดงาน “เหตุเกิดที่อัมพวา”
กล่าวไว้ว่า “นับจากวันนี้ชื่อ ‘อัมพวา’ ไม่ได้หมายถึงแค่อำเภอๆ หนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามอีกต่อไป
แต่คำว่า ‘อัมพวา’ จะหมายถึง การปกป้อง รักษาชุมชน วัฒนธรรม วิถีพื้นบ้าน และการดำเนินชีวิตแบบไทยๆ
ที่กำลังเลือนหายไปด้วยเหตุผลบางอย่าง เวลาหรือเงินทุน”
ฟังดูแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าของเหลือทิ้งจะสามารถต่อเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ด้วยผลงานวิจัยของ รศ.เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำเซซิรีนหรือโปรตีนจากกาวไหมมากระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อได้ ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ของโลก ในการคิดค้นผลิตแผ่นเนื้อเยื่อปิดแผลจากของเหลือทิ้ง และยังมีคุณสมบัติช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สร้างหลอดเลือดเพิ่ม (neovascularization) เพิ่มคอลลาเจนในบาดแผล ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ทั้งยังทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ แผลจึงหายเร็ว เพราะเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอับเสบน้อยกว่าการใช้พลาสเตอร์ทั่วไป โอกาสเกิดแผลเป็นก็ต่ำกว่า และการใช้งานก็เหมือนพลาสเตอร์ที่ใช้ปิดกั้นกันเชื้อโรคเข้าไปในแผลที่มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป
กาวไหม คือ น้ำเหลือทิ้งจากการต้มรังไหม ซึ่ง ดร.พรอนงค์ ได้ทำการศึกษาวิจัยโปรตีนในกาวไหมหรือน้ำเหลือทิ้งจากการต้มรังไหม และค้นพบว่า กาวไหมมีเซริซีน (sericin) ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญต่อร่างกาย ที่มีปริมาณสูงถึง 30% ทำให้แข็งตัวเป็นเจล แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ตามอุณหภูมิการผลิต และสารประกอบร่วมมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ดูดซึมน้ำได้ดี จึงทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ใช้ปิดแผลก็เจ็บปวดน้อยลง ที่สำคัญเซริซีนยังกระตุ้นการสร้างเซลล์ไปพร้อมกับเพิ่มการยึดเกาะตัวกัน อันเป็นตัวการช่วยสร้างเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้
ในกรณีแผลขนาดใหญ่ไฟไหม้ เนื้อเยื่อผิวหนังเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อได้ยาก การรักษาต้องกรีดหรือตัดเนื่อเยื่อจากร่างกายส่วนอื่น ทำให้มีแผลเพิ่ม และเสี่ยงต่อปัญหาการติดเชื้อ แผ่นเนื้อเยื่อปิดแผลจากกาวไหมลดปัญหาการติดเชื้อได้ เนื่องจากไม่ต้องเปิดแผลใหม่ แผ่นปิดแผลติดแล้วไม่ต้องลอกออก ปิดครั้งเดียว จากนั้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อจะขึ้นมาทดแทนและโปรตีนกาวไหมจะละบายไปเองใน 21 วัน
มีการวิจัยกับผู้ได้รับบาดเจ็บไฟลวกเป็นบริเวณกว้างถึง 60% จากเหตุเพลิงใหม่สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง พบว่าได้ผลดีและจากการทดลองกับหนูพบว่า เพิ่มคอลลาเจนไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อให้แผลหายเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ทดลองโดยติดกับผิวหนังอาสาสมัคร ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่มีแผล 112 คน เป็นเวลา 23 สัปดาห์ ไม่พบการแพ้ และทดลองกับคนไข้ที่มีบาดแผลจริง 70 ราย ก็ได้ผลดีตามคุณสมบัติและความคาดหมาย
ต้นทุนการผลิตแผ่นเนื้อเยื่อปิดแผลกาวไหม แผ่นละ 250 บาท หรือคิดเป็น 3.6 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งถ้านำมาใช้อย่างจริงจังจะลดรายจ่ายโดยรวมของประเทศลงมิใช่น้อย
ผลพลอยได้อีกทางหนึ่ง คือ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กาวไหม ซึ่งเป็นของเหลือใช้ทางการเกษตร ให้กับแวดวงอุตสาหกรรมไหมไทยได้อีกด้วย
เขียนโดย ชัชมนต์ สมาร์ท สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
ที่มา: http://twitter.com/vp2650
เดลินิวส์ http://www.classifiedthailcom/concept.php?article=25796
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที