ความสำคัญของการบริหารการผลิต
วงการอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตแทนการผลิตด้วยมือ ปริมาณผลผลิตจึงมีปริมาณมากในเวลาไม่มากนัก จึงทำให้การบริหารการผลิตเกิดความยุ่งยากซับซ้อน นักบริหารอุตสาหกรรมจึงได้มีการจัดระบบการบริหารงานผลิตในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นมา ดังนี้ (ธีรวุฒิ บุณยโสภณ และวีรพงษ์, 2537 : 56-57)
-
การผลิตเปลี่ยนมาเป็นการผลิตด้วยเครื่องจักร (Machanization)
-
ผลิตได้จำนวนมาก ๆ (Mass Products)
-
จัดระบบมาตราฐานการผลิต (Standardization)
-
การจัดช่างชำนาญเฉพาะงาน (Specialization)
-
การผลิตด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ (Automation)
-
การวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development)
-
การผลิตเปลี่ยนมาเป็นการผลิตด้วยเครื่องจักร (Machanization) ในช่วงเริ่มต้นของการผลิตผลิตภัณฑ์ได้เกิดจากการทำด้วยมือซึ่งการทำด้วยมือจะทำให้ได้ผลผลิตปริมาณต่ำ และคุณภาพไม่ได้มาตราฐาน จึงได้มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรช่วยในการผลิต ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีมาตราฐาน และได้ปริมาณที่มาขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด
-
ผลิตได้จำนวนมาก ๆ (Mass Products) การผลิตสินค้าในปัจจุบัน มุ่งผลิตสินค้าให้ได้ปริมณมาก ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อขึ้นลง
3. จัดระบบมาตราฐานการผลิต (Standardization) คือการกำหนดแบบแผนวิธีการทำงานด้านการผลิตเอาไว้ทุกขั้นตอน และคอยควบคุมดูแลให้การผลิต ดำเนินไปตามแบบแผนที่วางเอาไว้ เช่น
กำหนด มาตราฐานวัตถุดิบ กำหนดมาตราฐานของอุปกรณ์ มาตราฐานของเครื่องจักร มาตราฐานการทำงานของระบบเป็นต้น
-
การจัดช่างชำนาญเฉพาะงาน (Specialization) ปัจจุบันการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีการจัดระบบการผลิตแบบการผลิตให้ได้จำนวนสินค้าทีละมาก ๆ (Mass Products) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย (High Technology) โดยให้วัตถุดิบ (Meterial) เคลื่อนเข้าสู่สายการผลิตแต่ละหน่อยผลิตด้วยตัวของมันเองจนไปถึงหน่วยผลิตสุดท้ายและออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ส่วนคนงานก้อมีหน้าที่กำกับดูแลเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเพื่อปรับปรุงแก้ไขเครื่องจักนั้น ๆ
งานลักษณะนี้ จะทำให้งานของคนงานแคบลง บางครั้งคนงานอาจจะต้องดูแลเครื่องจักรเครื่องเดียว ทำหน้าทีผลิตสินค้าหรือวัตถุดิบแบบเดียวตลอดไป ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียของการทำงานในระบบนี้ คือ จะทำให้คนงานเกิดความเบื่อหน่ายต่องานที่จะต้องทำจำเจอยู่กับงานลักษณะเดิมทุกวัน
-
การผลิตด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ (Automation) เป็นการนำเครื่องจักรอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิตแทนแรงงาน การผลิตแบบนี้จะเป็นการผลิตแบบต่อเนื่อง (Continuous Production
-
-
การวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development) สินค้าประเภทเดียวกันที่ออกสู่ตลาดในปัจจุบันมีปริมาณมากขึ้นและมีหลายบริษัทที่ผลิตจำหน่าย การแข่งขันการจำหน่ายในตลาดก็เข้มข้นมากขึ้น การวิจัยและพัฒนาสินค้า ก็เป็นส่วนที่มีความสำคัญที่จะช่วยให้ สินค้าติดตลาดหรือพยุงสินค้าให้อยู่ได้ในตลาด ผลของการวิจัยนำมาเป็นส่วนในการปรับปรุงสินค้าที่เป็นสีสรร กลิ่น รูปลักษณ์ ราคา ในการออกสินค้าใหม่ หรือใช้ปรับปรุงสินค้าเก่าที่จำหน่ายอยู่แล้วในตลาด เป็นต้น เพื่อจะเอาชนะคู่แข่งของบริษัทอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งในท้องตลาดที่เป็นสินค้าประเภทเดียวกัน นอกจากนี้การโฆษณาก็เป็นหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดการจำหน่ายได้
นอกจากทางที่กล่าวมาข้างต้น ความสำคัญของการบริหารการผลิตก็คือการหาวิธีช่วยให้การผลิต มีความสะดวก มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้ปริมาณในเวลาที่ต้องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดแต่กำไรได้มาก
อ้างอิงจาก
(ธีรวุฒิ บุณยโสภณ และวีรพงษ์, 2537 : 56-57)
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : ความสำคัญของการบริหารการผลิต