ต้นกล้า ต้นใหม่
ฉันลืมตาตื่นด้วยความสดชื่นเพราะแสงสีทองของดวงอาทิตย์กำลังฉายอยู่ที่ขอบฟ้า เสียงมวลหมู่นกต่างๆ กำลังขับขานบทเพลงรับอรุณด้วยความไพเราะเป็นสัญญาณให้เหล่าสรรพสิ่งทั้งหลายในทุ่งหญ้าแห่งนี้ให้ตื่นขึ้นและและเริ่มดำเนินชีวิตต่อไป สายหมอกสีขาวลอยอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม พาเอาความสดชื่นและชีวิตชีวากลับคืนสู่ตัวฉันอีกครั้ง ฉันยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าแห่งนี้ด้วยความสุขใจ ดวงอาทิตย์เริ่มลอยขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ แสงแดดสีทองไล่สายหมอกสีขาวจนหายไป เหลือไว้แต่เพียงหยดน้ำใสเกาะตามใบหญ้าที่ส่องประกายระยิบระยับยามต้องแสงแดด เด็กชายคนหนึ่งเดินฝ่าทุ่งหญ้ามาเรื่อยๆจนมาถึงตัวฉัน พร้อมยื่นมือลูบตัวฉันเบาๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ขอฉันวาดรูปเธอหน่อยนะเด็กชายพูดแล้วหยิบกระดาษพร้อมดินสอในกระเป๋าออกมา
ได้สิฉันได้แต่ตอบคำถามกับตัวเองเบาๆ ใช่สิ ก็ฉันมันพูดไม่ได้นี่ เด็กน้อยคนนั้น นั่งลงบนผืนหญ้าแล้วเริ่มทำงาน
เด็กชายคนนี้มาหาฉันทุกวัน บางวันมาวาดภาพ บางวันมานั่งเล่น บางวันมานั่งร้องไห้ บางวันมาคุยกับฉันทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าฉันพูดไม่ได้ เขาเป็นเด็กที่อ่อนโยน ใจดี จนฉันอยากจะให้ของขวัญตอบแทนกับเขา แต่ฉันก็ไม่สามารถทำได้ ที่พอจะให้ได้ก็มีเพียงแต่ร่มเงาเท่านั้น
นี่เธอ ฉันจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วนะวันหนึ่ง เด็กชายคนนั้นกอดฉัน น้ำตาของเขาไหลผ่านผิวกายสีน้ำตาลที่แข็งกระด้างของฉัน นี่เธออย่าย้ายไปไหนเลย อยู่กับฉันที่นี่แหละ ถ้าเธอไป ฉันคงเหงาแย่เลย
ฉันไปก่อนนะ ฉันสัญญาว่าเมื่อถึงเวลาฉันจะมาอยู่ข้างๆตัวนาย เป็นเพื่อนนายตลอดไปเด็กชายเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ แล้วเดินจากไปในยามพระอาทิตย์อัสดง โธ่ เด็กน้อย เธอช่างใจร้ายกับฉันจริงๆ
**********
วันเวลาผ่านไป จากวัน เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ฉันก็ยังเฝ้านึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา เฝ้านึกถึงใบหน้าอันมีความสุขของเด็กชายคนนั้น เฝ้านึกถึงหยาดน้ำตาของเขาที่ไหลรินรดผิวกายของฉัน แต่เอ๊ะ! นั่นใครกำลังเดินมาทางนี้นะ
มะขามต้นนี้ต้นใหญ่จริง คงขายได้หลายบาทนะชายวัยกลางคนคนหนึ่งในกลุ่มบอกกับเพื่อนๆของเขา
เสียดาย ไม่ออกฝัก ไม่งั้นก็เอาไปทำมะขามเปียกขายได้อีกผู้ชายผิวคล้ำอีกคนหนึ่งบอก แล้ว ก้มหยิบเครื่องมือโลหะ ที่มีฟันแหลมคมเต็มไปหมด เขากดลงบนปุ่มนูนบนเครื่องมือชิ้นนั้น มันส่งเสียงคำรามจนฉันรู้สึกตกใจ เขานำฟันแหลมคมมาจี้ไปที่ตัวฉันแล้วกดลงไป
โอ๊ย...............
ความเจ็บปวดแสนสาหัสแผ่มาจากบาดแผล พวกนั้นมันกำลังตัดลำตัวของฉันโดยไม่ได้คำนึงว่าตัวฉันจะรู้สึกอย่างไร คนกลุ่มนั้นตัดตัวฉันออกเป็นชิ้นๆ แล้วเอารถบรรทุกขนออกไป ฉันได้แต่มองร่างของฉันที่อยู่บนรถด้วยใจอาลัยและเจ็บแค้น มนุษย์ทำไมช่างใจร้ายเช่นนี้ จากวันนั้นฉันที่เคยสูงใหญ่ เคยให้ร่มเงาแก่สัตว์เล็กๆ ก็กลายมาเป็นเพียงตอไม้แห้งๆ ที่ไร้ค่า โธ่...เด็กน้อยคนนั้น เธอจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเธอกลับมาแล้วเห็นฉันในสภาพแบบนี้
**********
วันเวลาล่วงเลยมานานแล้วฉัน วันนี้ฉันได้แต่มองและเฝ้ารอเด็กชายคนนั้นซึ่งป่านนี้คงจะกลายเป็นชายชราที่แสนใจดีที่อยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ แต่นั่นใครกำลังเดินมาทางนี้
......
ชายชราผมสีดอกเลาคนหนึ่งกำลังเอามือที่หยาบกร้านลูบไปมาบนแผลที่ถูกตัดอย่างช้าๆ น้ำตาของเขาไหลเอ่อลงมาอาบแก้ม
โธ่...เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันชายชราพูดซ้ำไปซ้ำมา ในขณะที่ความทรงจำทั้งหมดในอดีตไหลวนอยู่ในจิตใต้สำนึกของฉัน ใช่แล้วชายชราผู้นี้คือเด็กชายเพื่อนของฉันนั่นเอง เขานั่งลงบนตัวฉันพร้อมทั้งเล่าประสบการณ์ การเดินทางในชีวิต พร้อมให้สัญญาว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันตลอดไป บัดนี้ฉันได้หลับลงภายใต้แสงระยิบระยับจากดาวประกายพรึกที่อยู่บนฟากฟ้า
***********
เสียงนกร้องเพลงได้ปลุกให้ฉันตื่นขึ้น เพื่อจะบอกอรุณสวัสดิ์ชายชราคนนั้น แต่ฉันไม่พบใครเลย พบเพียงแต่สายลมฤดูหนาวที่ส่งเสียงหวีดหวิวและต้นมะขามต้นเล็กๆต้นหนึ่ง ข้างๆตัวฉัน
จบ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที