ผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรงระบบเครือข่ายหรือ MLM นั้นจะต้องสร้างและขยายทีมงานให้ทำคุณสมบัติและยอดขายตามที่แผนการตลาดกำหนดไว้ได้ ซคึ่งดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ยากแต่พอลงมือทำงานเข้าจริงๆ ปรากฎว่าทีมงานที่ชัดชวนมาได้นั้นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดไม่ค่อยมาประชุมไม่ยอมมาเรียนรู้ ไม่ลงมือทำงานสักที ทำให้ธุรกิจของเราไม่เติบโต รายได้หรือโบนัสน้อยเกินไปจนทำให้เรารู้สึกผิดหวังเหนื่อยใจ จนกระทั่งเราเองบางครั้งอาจเกิดความรู้สึกท้อใจและอาจตัดสินใจเลิกทำธุรกิจและทิ้งโอกาสไปเลยก็มี
ปัญหาลูกทีมและทีมงานใหม่ๆ ไม่ค่อยยอมมาเข้าประชุมเรียนรู้และขยายทีมงานเกิดจากสาเหตุอะไร? และเราจะแก้ไขอย่างไร?
ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจก่อนว่า ธุรกิจขายตรงนั้นเป็นงานอิสระส่วนตัวไม่มีเจ้านาย ไม่มีลูกน้อง มีแต่แม่ทีมกับลูกทีม เราจะไปบังคับให้ลูกทีมทำตามคำสั่งไม่ได้ และถ้าหากท่านไปบังคับ เขาก็ไม่ยอมทำ หรือถ้าเขาเกรงใจท่าน เขาก็ทำโดยไมได้ทำงานจากใจของเขา ผลงานก็จะไม่มีเช่นกัน และท่านก็ทราบดีว่า ถ้าทีมงานใหม่ๆของท่านไม่มาประชุมไม่ยอมมาเรียนรู้ก็จะทำงานไม่เป็น ตัวท่านก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จในงานด้านนี้
เมื่อท่านโทรศัพท์ติดตามนัดหมายให้มาทำงานประชุม เรียนรู้ ก็จะเจอคำปฏิเสธเป็นประจำ เช่น พอดีไม่ว่าง บังเอิญติดงานอยู่ ฯลฯ แต่หากท่านโทรฯนัดหมายชักชวนให้ไปเที่ยวหรือชอปปิ้ง ทำในสิ่งที่เขาชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจะพยายามบริหารจัดการหาวิธีทำตัวให้ว่างและไปกับท่านได้ แต่หากชักชวนมาประชุมขายตรง เขาจะไม่พยายามทำตัวให้ว่างเลยเพราะจะได้ไม่ต้องไปประชุม
...“ยิ่งถ้าท่านให้ทีมงานใหม่ๆไปด้วยตัวเอง โดยไม่มีท่านไปด้วยก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะไปประชุม ถึงแม้ว่าเขาจะว่างอยู่ก็ตาม”...แปลกดีไหมครับ? แล้วอะไรล่ะคือสาเหตุที่ทำให้ลูกทีมใหม่ๆ ไม่ชอบไปประชุมขายตรง!
1.ไม่มีคนรู้จักหรือกลุ่มเพื่อน ธรรมชาติของคนส่วนใหญ่จะไปไหนก็ตาม จะเลือกไปในที่ที่มีเพื่อนหรือไปกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักสนิทสนม ตัวอย่างเช่น ถ้าเดินทางไปท่องเที่ยวทัศนาจรคนเดียวบนรถบัสนั้น เราไม่รู้จักใครเลยสักคน เราก็อาจเลือกที่จะไม่ไป เพราะมีความรู้สึกเป็นส่วนเกินไม่อบอุ่น แต่ในทางกลับกันหากบนรถบัสนั้นเรารู้จักสนิทสนมกับคนส่วนใหญ่เรากลับอยากจะไปด้วย ถึงติดธุระก็จะพยายามจัดการทำตัวให้ว่างที่จะไปให้ได้ เพราะรู้สึกสนุก อบอุ่น ปลอดภัย รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ไม่ได้เป็นส่วนเกิน
เฉกเช่นงานขายตรงนั้น ทีมงานใหม่ๆของท่านจะรู้จักท่านเพียงคนเดียวหรือรู้จักคนอื่นๆบ้าง แต่ยังไม่สนิทสนม หากท่านโทรฯบอกให้เขาไปประชุม จิตใต้สำนึกเขาจะรู้สึกโดดเดี่ยวไม่อยากจะไปเป็นทุนเดิมอยู่ ประกอบกับทีมงานใหม่ๆ จะมีงานหรือธุรกิจเดิมทำเป็นประจำอยู่ เขาก็จะไม่พยายามจัดการเวลาตัวเองให้ว่างเพื่อที่จะมาประชุมอาจจะปฏิเสธหรือผลัดไปก่อน
การแก้ไขสาเหตุควรทำดังนี้ เมื่อท่านชวนทีมงานใหม่ๆสมัครได้แล้ว อย่ามัวพะวงสอนงานขายตรงอย่างเดียว แต่ควรหาวิธีการหรือกุศโลบายทำให้เขารู้จักและสนิทสนมกับกลุ่มคนที่ตั้งใจทำธุรกิจอยู่เดิมที่มีทัศนคติด้านบวกคู่กันไป อาจจะรวมกลุ่มไปทานข้าวด้วยกัน หรือพาเข้าร่วมกิจกรรมที่ผู้นำหรือบริษัทจัดขึ้นก็ได้ โดยมีเป้าหมายหลักคือ ทำให้เขาเข้ากลุ่มหรือมีเพื่อนในธุรกิจของเราเสียก่อนโดยเร็วที่สุด ตรงนี้เรียกว่าการสร้าง “สายสัมพันธ์” เมื่อเขามีเพื่อนร่วมธุรกิจแล้วเขาจะรู้สึกสนุก รู้สึกอบอุ่นไม่เป็นส่วนเกินและอยากมาประชุม ถ้าท่านทำให้เขาเกิดความรู้สึกนี้ได้ ถึงแม้เขาจะไม่ว่างเขาก็จะพยายามบริหารจัดการให้ตัวเองมีเวลาว่างมาประชุมให้ได้
2.รู้สึกเป็นส่วนเกินของงาน หากท่านได้รับบัตรเชิญไปงานแต่งงาน ซึ่งในงานนั้นท่านรู้จักแต่คุณพ่อของเจ่าบ่าวเพียงคนเดียว... ผมเดาว่าท่านคงไม่ค่อยอยากไปร่วมงานแต่งงานนั้น แต่ถ้าจำเป็นต้องไปท่านก็อาจจะปลีกตัวกลับก่อนงานจบแน่ๆ ในธุรกิจขายตรงก็เช่นกันลูกทีมใหม่ๆ จะมีความรู้สึกเช่นนั้น ท่านต้องทำให้เขามีบทบาทหรือส่วนร่วมในการประชุม หากลูกทีมใหม่ๆมาร่วมประชุมท่านต้องพยายามหาวิธีการอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขามีบทบาทหรือส่วนร่วมในการประชุม เช่น เชิญแชร์ประสบการณ์สั้นๆว่าทำไม? ถึงสมัครร่วมทำธุรกิจหรือประทับใจสินค้าอะไรบ้างหรือเชื้อเชิญให้เข้ามาร่วมสาธิตสิยค้าก็ได้แล้วแต่จังหวะและโอกาส
...“การที่เขาได้มีส่วนร่วมในการประชุมนั้นทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ดี ทั้งยังเป็นการพัฒนาทักษะในการแสดงออกอีกด้วยธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์นั้นต้องการให้คนยอมรับอยู่แล้ว หากที่ใดที่มีคนยอมรับคนๆนั้นก็ชอบที่จะไปที่ตรงนั้น”...
3.ไม่เข้าใจความสำคัญของการประชุม มนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยยอมขาดทุนหรือเสียอะไรโดยไม่ได้ประโยชน์คืนมา แต่ถ้าต้องลงทุนหรือต้องเสียอะไรแล้วได้ผลคืนมามากกว่าเดิมก็จะยอมลงทุน ในธุรกิจขายตรงนั้นเหล่าแม่ทีมนั้นก็จะโทรนัดให้ลูกทีมใหม่ๆไปประชุม จะสังเกตุได้จากช่วงโทรฯนัด หมายเลขส่วนใหญ่จะรับปากมาร่วมประชุม แต่ถึงเวลากลับมาไม่ได้ โดยอ้างว่าติดธุระกัน
...“ลูกทีมใหม่ๆ ที่ยังขาดความรู้และประสบการณ์ เมื่อถูกเชิญประชุมก็จะมองอีกด้านหนึ่งว่าการไปประชุมนั้นเสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าใช้จ่ายและยังต้องแต่งตัวด้วย ไม่เห็นว่าจะได้อะไรกลับคืนมาเลย”...
วิธีแก้ไขปัญหาในข้อนี้ คือเมื่อโทรฯนัดหมายเชิญลูกทีมใหม่ๆมาประชุมจะต้องอธิบายความสำคัญของการประชุมในวันนั้นด้วย ส่วนใหญ่มักบกพร่องตรงที่ว่าไม่อธิบายหัวข้อรายละเอียดตลอดจนวัตถุประสงค์ของการประชุมเลยและไม่ได้ให้คำแนะนำ ควรทำอย่างไร? หรือควรจะพาผู้มุ่งหวังใหม่ไปถ้าเป็นการประชุมแนะนำธุรกิจเบื้องต้น ตลอดจนประชุมแล้วจะได้ประโยชน์อะไรบ้างทั้งทางตรงและทางอ้อม และถ้าหากไม่ไปประชุมจะเสียโอกาสอะไรบ้าง? การอธิบายเพิ่มเติมนี้ทำให้ทีมงานใหม่ๆ เข้าใจความสำคัญของการประชุม จะเป็นการเพิ่ม “แรงจูงใจ” ให้อยากมาเข้าร่วมประชุม
เนื้อหาในบทความนี้เป็นเรื่องหรือเป็นปัญหาใกล้ตัวมากๆ ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไป แต่เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจขายตรงทุกคนต้องพบเจออยู่ตลอดเวลา ผมอยากให้ทุกท่านเชื่อและยอมรับว่า “ทุกปัญหามีทางแก้” เพี่ยงแต่ท่านยังไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเท่านั้น ฉะนั้นปัญหาลูกทีมใหม่ๆไม่ชอบไปประชุม ก็แก้ให้เขาอยากไปประชุมได้เช่นกัน ความฝันที่จะประสบความสำเร็จก็จะเป็นความจริงได้!
ที่มา : ดร. กิตติพันธ์ ตัณฑะพงษ์. "วิธีทำให้ลูกทีมใหม่ๆชอบไปประชุม" Leader time. 2555 : 104-105; มิถุนายน 2555 ,
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที