อ.อุดม

ผู้เขียน : อ.อุดม

อัพเดท: 21 พ.ค. 2007 15.00 น. บทความนี้มีผู้ชม: 125564 ครั้ง

สรุปโรคร้ายในภาคอุตสาหกรรมไทย จากประสบการณ์การให้คำปรึกษา


โรค "เด็กรุ่นใหม่ ขี้เกียจ"

ผู้บริหารองค์การหลายๆแห่งบอกกับผมอย่างนี้ครับ "อาจารย์ ผมรู้สึกว่าเด็กยุคนี้ไม่ขยัน เวลาทำผิดก็โทษโน่นโทษนี่ ไม่คิดที่จะบอกว่าตัวเขาเองจะช่วยแก้ได้อย่างไร พอตัวเองทำผิดก็ไม่ค่อยรับผิดชอบ ไม่พอใจนิดหน่อยก็ลาออก ไม่มีน้ำอดน้ำทนเหมือนคนสมัยก่อน " ไม่ก็ "อาจารย์ แถวนี้ผมหาแรงงานได้ยากมากเลย บางคนเช้ามา บ่ายหาย เจออีกทีอยู่ในห้าง อากาศเย็นๆ ร้อนๆ นี่เขาไม่ทำกันแล้ว" ไม่ก็ว่า "เดี๋ยวนี้แปลก ไอ้ที่ทำๆอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่อยากจะทำให้ได้ดี" ผมถามว่าอะไรหรือที่ว่าไม่ควรทำ "ก็เช่นเช้าๆ มานั่งด่าคนโน้นคนนี้ แล้วบอกว่ามีคนรอฟัง ต้องทำให้ดีที่สุด ดิชั้นว่า นี่มันผิดศีลข้อมุสา นะ เป็นสิ่งไม่ควรทำ แต่ทำไมกลายเป็นว่า ต้องทำให้ดีที่สุดด้วย" เออ นั่นสินะ ทำไม.... 

ผมเจอกับตัวครับที่หลายองค์การ รับเด็กจบใหม่มาทำงาน เด็กรุ่นนี้ผมไม่ได้บอกว่าเขาไม่เก่งครับ เขาเก่งในแบบฉบับที่เรียนรู้ความผิดพลาดจากผู้อื่นได้อย่างดีมาก จนไม่กล้าจะลงมืออะไรให้ผิดพลาด เวลาจะทำอะไรก็คอยลอก คอยก็อบปี้ แล้วอย่างนี้มันจะพัฒนาล้ำหน้ากว่าต้นตำหรับที่เขาได้เรียนพลาดมาได้อย่างไรกัน


ผมเป็นห่วงองค์การเกิดใหม่ หลายๆองค์การ ที่ยังไม่มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองอย่างฝังรากลึก เมื่อมีพนักงานที่จบใหม่ๆ เข้ามาทำงาน องค์การเหล่านี้จะวุ่นวายมากพอสมควร ต่างกับองค์การที่มีวัฒนธรรมของตนเองอย่างฝังรากลึก เมื่อมีพนักงานจบใหม่เข้ามาทำงาน พวกเขาจะถูกวัฒนธรรมเดิมกลืนเขา เพราะหากไม่ทำ ตัวเขาจะเป็นตัวแปลก และอยู่ในองค์การไม่ได้  

องค์การเกิดใหม่มักถูกวิถีการบริหารตามแนวทางตะวันตก และสุดท้ายก็ไม่มีความสุข เพราะคิดบริหารแบบแยกส่วน ไม่สามารถสร้างสมดุลแห่งการบูรณาการได้เป็น ผู้คนก็กลับไปใช้ช่องทางพวกใครพวกมันเหมือนเดิม เช่นธนาคารบางแห่ง รับพนักงานมาจากธนาคารอีกแห่ง แล้วช่วงแรกก็รับผู้บริหารระดับสูงเสียด้วย หลังๆผู้บริหารท่านนี้ก็รับ พวกตนที่เคยทำงานที่ธนาคารเดิม (แต่บริหารแล้วเจ๊ง ถูกขายกิจการ) เข้ามาทำงานในธนาคารแห่งนี้ และ ขยายคนลงไปทุกแผนก แม้แต่แผนกประเมินผลการปฏิบัติงาน ใครพวกกูก็แก้ไขคะแนนประเมินผลเสียสูง ใครไม่ใช่พวกกูมักถูกแกล้งใช้งานหนัก ประเมินผลก็แค่ 1-2 อย่าหวัง 4-5 เพราะกันไว้ให้พวกกูเสียแล้ว ธนาคารที่ว่า นั้น มีอักษรตัวแรกคล้ายๆชื่อผมนี่แหละครับท่าน

ประการต่อมา ที่ผมมาเขียนเช่นนี้ เพราะหลังๆ มีเมลล์มาขอบทความผมเยอะมาก และโดยเฉพาะ นักศึกษา ที่เป็นกำลังของชาติในอนาคต ท่านขอดื้อๆ ครับ ขอลอก ไม่ก็ขอไฟล์ เพื่อเอาไปตัดแปะ ส่งรายงานให้อาจารย์ ท่านไม่คิดที่จะเข้าห้องสมุด ค้นคว้าตำรา หรือสรุปเรื่องที่อ่านโดยสมองของท่านเองเลยเหรอ หรืออาจารย์ประจำวิชาท่าน ไม่ได้บอกหนังสืออ้างอิงหรือครับ ท่านถึงเลือกใช้วิธีนี้ เฮ้อ อนาคตของชาติ ท่านทำแบบนี้ ผมไม่ปลื้มนะครับ

อย่างไรก็ตามครับ ผมเข้าใจว่าไอ้ที่ดีๆ ก็มีอีกเยอะนะครับ ดังนั้น ไม่ว่า ท่านผู้บริหาร ท่านจะได้พนักงานแบบไหนมา ท่านต้องสร้างกระบวนการหล่อหลอม ที่เน้นวัฒนธรรมที่ดีขององค์การ เพื่อปรับผู้คนที่มาจากสถานที่ต่างๆ ร้อยพ่อพันแม่ เพื่อที่จะนำไปสู่หนทางที่เป็นทางเดียวกันนั่นเอง ไม่มีอะไรที่พร้อม แล้วเข้ามาให้เราบริหารแบบง่ายๆ หรอกครับ นี่แหละคือหน้าที่ของผู้บริหารล่ะ...

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที