การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม
ในกรณีที่บริเวณรอบบ้านต่ำกว่าถนนสาธารณะ ซึ่งเพิ่มความสูงมาทีหลัง ทำให้บ้านต่ำมาก มีวิธีแก้ปัญหาดังนี้
การแก้ปัญหาก็คือ ทางเข้าหน้าบ้านทำความลาดเป็นลักษณะหลังเต่า เพื่อป้องกันน้ำจากถนนไม่ให้เข้าบริเวณบ้านและต้องทำขอบคันดินรอบบ้านหรือทำรั้วด้านล่างให้ทึบ เพื่อป้องกันน้ำพร้อมทั้งทำท่อระบายน้ำรอบบ้าน โดยมีบ่อพักรวมเพื่อปั๊มน้ำออกนอกบ้านเมื่อเวลาจำเป็น อีกวิธีถ้ามีเงินพอ ก็ควรถมที่ให้สูงกว่าระดับถนนสาธารณะเลย ก็จะแก้ปัญหาได้ถาวร
ถ้าน้ำท่วมมากๆจะยกบ้านให้หนีปัญหาน้ำท่วมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มีสิ่งต่างๆที่ต้องระวังอย่างมาก ถ้าเป็นบ้านที่มีโครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้ก็พอที่จะเป็นไปได้ เพราะมีน้ำหนักเบา แล้วการยึดส่วนต่างๆก็ยังยืดหยุ่นได้มากกว่า ถ้าเป็นบ้านที่มีโครงสร้างเป็นปูน ส่วนต่างๆจะยึดติดกันเป็นเนื้อเดียว ซึ่งเมื่อบิดเพียงเล็กน้อยก็จะเกิดการแตกร้าวได้ ทั้งยังมีน้ำหนักมากด้วยและบ้านปูนยังมีเสาเข็มที่หล่อติดกับตัวฐานรากจะต้องตัดออกแล้วเสริมฐานรากใหม่ซึ่งทำได้ยากมาก
นอกจากโครงสร้างแล้ว ยังมีงานระบบต่างๆที่ติดกับพื้นดิน เช่น ท่อประปา ท่อไฟฟ้า ส่วนต่างๆเหล่านี้ต้องตัดออก แล้วเชื่อมใหม่ทั้งสิ้น ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าผู้รับเหมาไม่มีความชำนาญพอก็จะเสี่ยงมาก อาจจะเสียบ้านไปทั้งหลัง ค่าใช้จ่ายเหมือนสร้างใหม่เลย
ถ้าเวลาน้ำท่วมบ้านเกิดน้ำซึมขึ้นมาบนพื้นห้องอาจจะเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้
1.โครงสร้างพื้นแตกร้าวอยู่เดิมแล้วหรืออาจจะเกิดจากแรงดันน้ำก็ได้ แก้ไขโดยสกัดออกให้ร่องแล้วใช้กาวคอนกรีตอุดให้เรียบร้อยแล้วจึงปิดด้วยวัสดุปูพื้นให้เหมือนเดิม
2. เนื่องจากพื้นเป็นพื้นสำเร็จรูปหรือระบบพื้นที่วางอยู่บนดินไม่ได้ต่อยึดกับคาน ถ้ามีรอยซึมสามารถใช้ซิลิโคนอุดรอยรั่วได้
3. เกิดจากรูที่บริษัทกำจัดปลวกเจาะทิ้งไว้ วิธีแก้ไขเมื่่อเจอรูแล้วก็อุดเสียให้เรียบร้อยด้วยไม้และอุดทับด้วยซิลิโคน
หลังน้ำท่วมถ้าพื้นไม่เสียหายก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็สามารถใช้ได้ แต่ถ้าเสียหาย มีวิธีแก้ไข คือ
-พื้นไม้ปาร์เก้จะหลุดล่อนง่ายเมื่อโดนน้ำท่วมเพราะติดกับพื้นคอนกรีตด้วยกาว วิธีแก้ก็คือ ถ้าแผ่นปาร์เก้ไม่เสียหายมากก็ผึ่งลมให้แห้งก่อน รวมถึงพื้นคอนกรีตด้วย แล้วจึงทาด้วยกาวลาเท็กซ์หนา 1-2 มิลลิเมตร ค่อยๆกดลงไปที่เดิมให้แน่น ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วันจึงใช้งานได้ ถ้าเสียหายมากจะเปลี่ยนใหม่ต้องใช้ไม้ชนิดเดียวกับของเดิม
-พื้นพรมต้องลอกออก แล้วนำไปซักและตากแดดให้แห้งสนิทแล้วจึงนำกลับมาปูใหม่ โดยพื้นคอนกรีตต้องแห้งก่อนเช่นเดียวกัน
วัสดุต่างๆที่ใช้ทำผนังบ้าน เมื่อเวลาถูกน้ำท่วมนานๆก็จะเกิดความเสียหายแน่นอน มีวิธีแก้ไข คือ
1. ถ้าเป็นผนังไม้เช็ดทำความสะอาด เพื่อให้ผิวสามารถระเหยความชื้นได้ง่าย เมื่อแห้งดีแล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชะโลมที่ผิวหรือทาสีต่อไป วิธีที่ดีควรทาสีด้านในบ้านก่อน ทิ้งไว้ 5-6 เดือน จึงทาสีด้านนอก
2. ถ้าเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนก็ใช้วิธีเดียวกับผนังไม้แต่ต้องทิ้งให้ระเหยความชื้นนานกว่าผนังไม้ เพราะมีความหนามากกว่า
3. ถ้าเป็นผนังยิบซั่มบอร์ดก็เลาะเอาแผ่นที่เสียออก ถ้าโครงเคร่าเป็นโลหะก็สามารถติดแผ่นใหม่ได้เลย แต่ถ้าโครงเคร่าเป็นไม้ต้องทิ้งไว้ให้ความชื้นในไม้ระเหยหมดก่อน จึงจะติดแผ่นใหม่ได้
เมื่อน้ำท่วมบ้านที่มีผนังบุด้วยวอลล์เปเปอร์ มีวิธีแก้ไขและซ่อมแซม ดังนี้
วอลล์เปเปอร์จะมีลักษณะคล้ายสี ถ้าโดนความชื้นมากๆจะลอกหรือร่อน การแก้ไขก็โดยการลอกออกให้หมดเพื่อให้ผนังที่ชื้นสามารถระเหยออกมาได้ โดยรอให้ผนังแห้งจริงๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วจึงปิดวอลล์เปเปอร์ทับลงไป อาจจะปิดเองถ้าทำได้หรือตามช่างมาก็ได้ ถ้าส่วนไหนขึ้นราหรือเป็นคราบเช็ดไม่ออกก็สามารถเปลี่ยนแผ่นใหม่ โดยเลือกให้มีลวดลายเหมือนเดิม ก็จะได้ผนังสวยงามเหมือนก่อนน้ำท่วม
การซ่อมแซมฝ้าเพดานจะมีลักษณะคล้ายๆการซ่อมผนังและพื้นปนกัน มีวิธีการแก้ไขคือ ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ด หรือกระดาษอัดถ้าเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำก็ควรเลาะออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย ทิ้งไว้ให้ทั้งหมดแห้งสนิทจริงๆแล้วจึงทาสีทับ
- ถ้าเป็นฝ้าโลหะให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิมก็ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีทับเข้าไปใหม่
- ระบบสายไฟส่วนใหญ่จะเดินในฝ้าเวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูว่าความเรียบร้อยว่ามีส่วนใดชำรุดหรือเปล่าด้วย
- ถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้เกิดการแอ่นหรือทรุดตัวต้องแก้ไขให้ได้ระดับก่อนการติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่
ประตูต่างๆเมื่อถูกน้ำแช่อยู่นานๆก็จะบวมขึ้นหรือไม่ก็จะเกิดเป็นสนิม มีวิธีแก้ไขคือ
1. ประตูไม้ เมื่อโดนแช่น้ำก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้ก็โดยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมากก็ควรจะเปลี่ยนเลย
2.ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยอย่าลืมทาสีกันสนิมก่อน แต่อย่าลืมดูรอยต่อต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็กว่ามีน้ำหลงเหลืออยู่เหลือเปล่า ต้องให้แห้งจริงๆก่อนจึงจะทาสีได้
อุปกรณ์ต่างๆ เช่น บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ ทำด้วยโลหะ เมื่อโดนน้ำท่วมย่อมมีปัญหาตามมา มีวิธีแก้ไข คือ
- เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำยาหล่อลื่นชโลมตามจุดรอยต่อและรูต่างๆให้ทั่ว
- อย่าใช้จาระบีหรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้ จะทำให้ฝังอยู่ข้างในและจะเป็นปัญหาในภายหลัง
- ถ้ายังใช้การไม่ได้ก็ลองทำตามวิธีที่ว่านี้หลายๆครั้ง ถ้ายังมีปัญหาก็ควรจะต้องถอดออกแล้วซื้อมาเปลี่ยนใหม่
การทาสีบ้านหลังน้ำท่วมควรจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย ควรที่จะซ่อมแซมส่วนอื่นๆเสียก่อน ปล่อยให้แห้งสนิทก่อนแล้วจึงทำการแก้ไข เพราะสีทุกชนิดที่ใช้ทาบ้าน เมื่อโดนน้ำท่วมนานๆก็จะเกิดการลอกและล่อนออกมาได้ เนื่องจากความชื้นของน้ำ วิธีแก้ไขคือ ต้องขูดสีเดิมที่ลอกและล่อนออก ทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อย ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท ถ้าทำได้ควรจะเป็น 3-6 เดือนเลยยิ่งดี เมื่อแห้งแล้วจึงทาสีรองพื้นชนิดกันเชื้อราแล้วจึงทาทับด้วยสีจริงอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง
หลังน้ำท่วมระบบที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามไปก็คือ ระบบประปาภายในบ้าน มีสิ่งที่ควรตรวจสอบ ดังนี้
- ถังเก็บน้ำใต้ดิน ต้องตรวจดูว่าน้ำท่วมถึงหรือเปล่า ถ้าท่วมควรล้างภายในถังทั้ง หมด เพราะน้ำที่ท่วมไม่สะอาดเท่าน้ำประปา
- ถ้ามีปั๊มน้ำต้องตรวจดูว่าเครื่องทำงานผิดปกติหรือเปล่า แรงดันน้ำลดหรือไม่ ถังอัดลมเก็บแรงอัดไว้ได้นานหรือเปล่า แต่ถ้าน้ำท่วมปั๊ม ต้องรอให้แห้งเสียก่อน อย่าใช้งานทันที ถ้ามีปัญหาควรตามช่างมาแก้ไขจะดีกว่า เพราะอาจจะทำให้ไฟไหม้ได้
ปัญหาต่างๆของบ้านหลังน้ำท่วมจะมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับส้วมมีในระหว่างน้ำท่วม เราคงปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมด แต่เมื่อน้ำลดแล้วเราต้องตรวจสอบดังนี้
1. เปิดคัตเอ๊าต์ให้ไฟเข้าระบบ ถ้าส่วนใดยังชื้นอยู่คัตเอ๊าต์จะตัดและฟิวส์จะขาดทิ้งไว้ประมาณ 1 >วัน เปลี่ยนฟิวส์ แล้วลองเปิดใหม่ ถ้ายังตัดอีกคงต้องตามช่างไฟฟ้ามาตรวจดู
2. เมื่อไฟไม่ตัดแล้วลองเปิดไฟดูทุกดวง แล้วใช้ไขควงชนิดตรวจกระแสไฟโดยเฉพาะ
3. ดับไฟทุกจุดและถอดเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปลั๊กออกทั้งหมด แล้วตรวจดูที่มิเตอร์ไฟฟ้าว่าตัวเลขยังเดินอยู่หรือเปล่า ถ้าเดินแสดงว่าระบบไฟฟ้าในบ้านรั่ว ควรตามช่างไฟฟ้ามาเช็คดู
ระบบไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มีอันตรายมาก สำหรับบ้านที่น้ำท่วมเป็นประจำ ควรเตรียมระบบไฟฟ้าใหม่ ดังนี้
- ตัดระบบไฟฟ้าของปลั๊กเดิมทิ้ง ย้ายให้สูงขึ้นมาจากระดับพื้นประมาณ 1 เมตร เพื่อให้พ้นระดับน้ำ ส่วนชั้นบนของบ้านสองชั้นไม่จำเป็นต้องย้ายเพราะระดับน้ำท่วมไม่ถึง
- แยกระบบไฟฟ้าในส่วนที่น้ำท่วมบ่อยๆออกเป็นอีกวงจรหนึ่ง เพื่อสะดวกในการปิด- เปิดโดยเฉพาะ ส่วนปลั๊กที่อยู่ชั้นล่าง
ถ้าท่านรู้ตัวว่าบ้านของท่านอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมบ่อย เวลาออกแบบบ้านก็ควรให้วิศวกรแยกระบบไฟฟ้าตั้งแต่แรก ก็จะประหยัดงบประมาณได้มากและจะสวยงามกว่าที่จะมารื้อและแก้ไขในภายหลัง
เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆจะมีมอเตอร์และเครื่องจักรกลต่างๆ เมื่อโดนน้ำเข้าไปแล้วจะมีความชื้นอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายมาก มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
- ก่อนอื่นต้องทิ้งเอาไว้ให้แห้งสนิทจริงๆบางส่วนถึงถอดออกได้ก็ควรเปิดออกมาตากลมให้แห้งก่อน
- เมื่อแน่ใจว่าแห้งแล้วก็ลองเปิดเครื่องดู ถ้ามีความผิดปกติก็ควรดับเครื่องทันที
- และสำหรับที่คัตเอ๊าต์ไฟฟ้าควรมีฟิวส์ไว้เมื่อเกิดการลัดวงจรไฟฟ้าจะได้ถูกตัดออก
- ถ้ามีปัญหาจริงๆก็ควรนำไปให้ช่างแก้ไขดีกว่าจะทำเอง
การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ก็คล้ายๆกับการซ่อมแซมพวกประตู หน้าต่าง พื้น หรือฝ้า เพดาน มีวิธีดังนี้
- พยายามเอาความชื้นออกจากเฟอร์นิเจอร์ให้มากที่สุด
- พวกประเภทที่บุด้วยนุ่นหรือฟองน้ำ ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยน เพราะน้ำจะพาเอาเชื้อโรคมาติดอยู่ ถึงจะตากแดดให้แห้ง เชื้อโรคก็ยังมีอยู่
- เฟอร์นิเจอร์ที่ติดกับที่ที่เรียกว่า Built in ต้องตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างและสายไฟที่ฝังอยู่ในตู้ รวมถึงทำความสะอาดรูกุญแจและลูกบิด
- ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้ไม่ควรนำไปตากแดด เพราะจะทำให้บิดงอได้และถ้าจะทาสีใหม่ ควรรอให้แห้งสนิทก่อน มิฉะนั้นจะลอกได้
ถ้าบ้านน้ำท่วมนานๆ ต้นไม้กำลังจะตาย มีวิธีช่วยให้อยู่รอดได้ ดังนี้
1. อย่าให้ปุ๋ย เพราะน้ำท่วมทำให้รากอ่อนแอ ต้องการเวลาพักฟื้น
2. ขุดหลุมกว้างประมาณ 50 ซม.-1 เมตรไว้ข้างๆต้นไม้ เพื่อให้น้ำที่ขังอยู่บริเวณรากไหลมารวมกันแล้วเอาเครื่องดูดน้ำออกไป หรือจะใช้วิธีตักออกก็ได้
3. ถ้ารากต้นไม้ไม่แข็งแรง อย่าอัดดินลงไปจะทำให้ต้นไม้ตาย ควรใช้ไม้ค้ำยันลำต้นไว้ เมื่อรากแข็งแรงแล้วจึงเอาไม้ค้ำออก
เมื่อน้ำท่วมอยู่นานๆรั้วบ้านก็จะมีปัญหาเช่นกัน มีวิธีซ่อม คือ
- ลองเล็งด้วยสายตา ถ้าเอียงเล็กน้อยก็นำไม้มาค้ำยันไว้ก่อน ถ้าเอียงมากก็ควรตามช่างมาซ่อม
- ส่วนใหญ่ข้างล่างของรั้วจะมีคานคอดินอยู่ บางครั้งน้ำจะพัดเอาดินใต้คานนี้หายไปเป็นโพรง ต้องรีบนำดินมาถมให้แข็งแรง มิฉะนั้นดินในบ้านจะไหลออกไปข้างนอกหมด ถ้าไหลออกไปมากๆอาจทำให้บ้านเอียงได้
- ควรตรวจประตูรั้วด้วย สำหรับที่เป็นเหล็กก็ขูดสนิมออกให้หมดแล้วทาสีใหม่ ส่วนบานพับก็หาน้ำมันหล่อลื่นมาหยอดเพื่อที่จะได้เปิด-ปิดได้สะดวก ถ้าเสียหายมากก็ควรเรียกช่างมาเปลี่ยนใหม่
ที่มา : http://www.softbizplus.com อ้างอิงข้อมูลจาก "ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง"
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที