สงครามกับภาษา...
....เป็นที่น่าสงสัยสําหรับผู้เขียนมาก ว่าทําไมญี่ปุ่น และเยอรมันถึงแพ้สงครามโลก ทั้งๆที่ทั้งสองประเทศต่างมีความแข็งแกร่งทางกําลังทหารเป็นอย่างมากในสมัยนั้น อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและมีจํานวนมหาสารของทั้งสอง ก็ยิ่งเสริมพลานุภาพทางการทหารอันน่าสพรึงกลัวเป็นอันมาก มีข้อสันนิษฐานและหลักฐานมากมายที่ระบุถึงสาเหตุความพ่ายแพ้ของทั้งสองอักษะ ซึ่งจะไม่นํามากล่าวถึงให้เกิดความเครียดต่อต่อมสมองแต่อย่างใด ดังนั้นผู้เขียนจะขอสาธยายถึงข้อสันนิษฐานของตนเองเท่านั้น..เพื่อเป็นเนื้อหาสาระเบาๆ ที่พอบํารุงสมองได้บ้างไม่มากก็น้อย
....ที่ทั้งสองแพ้สงครามเป็นเพราะการใช้ภาษา ของทั้งสองประเทศเอง !!!...ทําไมจึงเป็นเช่นนั้น ซึ่งผู้เขียนจะขออธิบายโดยใช้ประโยคอย่างง่ายของทั้งสองภาษา เพื่อให้เข้าใจข้อสันนิษฐานของผูเขียนได้ง่ายๆ เราลองมาดูที่ญี่ปุ่นกันก่อน
わたしはすしをたべたいwatashi wa sushi o tabetai
ผมอยากกินซูชิ
ถ้าดูรูปแบบของประโยคจะเห็นว่า tabetai ซึ่งเป็นคํากริยาจะอยู่ข้างหลัง ซึ่งเป็นรูปแบบของภาษาญี่ปุ่น กว่าจะรู้ว่าอยากจะทําอะไรกับซุชิก็ต้องรอจนจบประโยค
คราวนี้มาลองดูของเยอรมันดูบ้าง
Ich möchte Bier trinken ผมอยากดื่มเบียร์
ถ็ดูรูปประโยคก็จะคล้ายๆกับรูปแบบของภาษาญี่ปุ่นที่คําว่า trinken ซึ่งเป็นคํากริยาแท้จะอยู่ส่วนท้ายของประโยค อันนี้ก็ต้องรอจนจบประโยคเหมือนกันถึงจะรู้เรื่อง ว่าอยากจะทําอะไรกับเบียร์ อยากดื่ม อยากซื้อ หรืออยากขาย...
ดังนั้นกว่าที่ทั้งสองชนชาติจะพูดจะจากันรู้เรื่องก็ต้องรอจนจบประโยค ซึ่งถ้าเป็นประโยคที่สั่งการทางทหารที่มีความสลับซับซ้อนด้วยแล้ว บางทีอาจต้องรอจนนานกว่าเจ้านายจะพูดจนจบ โดยเฉพาะทางฝั่งเยอรมันเพราะคําบางคํายาวมากๆ ทั้งๆที่แปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษที่ฝ่ายสัมพันธมิตรใช้นั้นสั้นนิดเดียว ดังนั้นเวลาสั่งยิงกันทางฝ่ายพันธมิตรจึงยิงได้ก่อน ที่ฝ่ายอักษะจะพูดจนจบประโยค...!!!
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : สงครามกับภาษา...