ดิฉันเคยได้ยินเพื่อน ๆ หลายคนคุยบนโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงรุ่น (แรกแย้มฝาโลง) เกี่ยวกับหน้าที่การงาน ครอบครัว สามี ลูก ๆ หรือ เพื่อนร่วมงาน ซึ่งในทุกครั้งหัวข้อสุดฮิต ก็มักจะหนีไม่พ้นการนินทาเจ้านาย
ความจริงถ้าจะนิยามคำว่านินทา ก็น่าจะหมายถึงการกล่าวถึง พูดถึงผู้หนึ่งผู้ใด โดยที่ผู้ที่ถูกพาดพิงถึงไม่ได้อยู่ในสถานที่นั้น ๆ โดยมากเวลาเราพูดถึงใครลับหลังก็มักจะหนีไม่พ้น การพูดถึงเรื่องไม่ดีของคนคนนั้น ซึ่งก็ไม่พ้นแม้แต่เจ้านาย เพราะอะไรคุณรู้มั้ย ..ก็เพราะ 1 วัน มี 24 ชั่วโมง เราใช้เวลา 8 ชั่วโมงในการทำงานนั้นคือ 8 ชั่วโมงนี้ เราจะต้องพบกับเจ้านาย (ถ้าคุณไม่เป็นนายเสียเอง) เกือบทั้งวัน ซึ่งแน่นอน ใน 8 ชั่วโมงนี้ คงไม่ใช่ Honey moon period เสมอไปจริงไหม อย่างน้อย ๆ ก็คงต้องมีใครสักคนระหว่างคุณกับเจ้านายที่น้ำผึ้งขมกันบ้างสักช่วงแหละ ซึ่งเวลาที่น้ำผึ้งขมนี้ เป็นความรู้สึกเกินกว่าจะบรรยายเลยจริงมั้ย
สิ่งที่เกินบรรยายซึ่งดิฉันมักจะได้ยินเพื่อน ๆ พูดถึงเจ้านายของพวกเขาเหล่าชายหญิง มีทั้งที่เป็นชายจริง หญิงแท้ หรือแบบไม่แท้ หรือแบบว่ากำลังสับสนชีวิตอยู่ จะเลือกเพศไหนดีนั้น ที่คล้ายคลึงกันก็คือความรู้สึกว่าตนเองฉลาดกว่า (เจ้า) นาย หรือจะให้พูดกันชัด ๆ ว่า นายโง่ นั่นเอง พฤติกรรมที่บ่งบอกว่านายโง่ ที่มักได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ เวลามีปัญหาแล้วไม่สามารถช่วยพวกเขาแก้ปัญหา แต่กลับโยนลูกไปทางโน้นทีทางนี้ที หรือไม่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแนวความคิดเลยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และกลัวการเปลี่ยนแปลง บ้างก็ไม่เคยสอนงานลูกน้อง แต่มักจะพูดว่า ตอนที่ผมอายุเท่าพวกคุณก็ไม่มีใครสอนเหมือนกัน คุณก็ควรจะเรียนรู้เอง ผมยังเติบโตมาได้ คุณก็ควรจะทำได้ (ปัดโธ่ ! จะไม่โตมาได้อย่างไร ก็พ่อของนายเป็น ซีอีโอของบริษัทนี่หว่า เอ็งไม่โตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และก็ไม่รู้ว่าใครจะ (เสือก) กล้าไปสอนเอ็งวะ บริษัทนี้เป็นของเอ็งนี่หว่า ..เฮ้อ ! เซ็งมั้ยล่ะ)
ทีนี้ถามว่าเจ้านายโง่ งี่เง่าอย่างนี้ มีเฉพาะคนไทยรึเปล่า ตอบได้เลยว่าทุกชาติทุกภาษา ล้วนมีคนโง่และคนฉลาดปะปนกันไม่เว้นแม้ประเทศเดียว สุดแล้วแต่คุณจะโชคดีเจอคนประเภทใดเท่านั้นเอง สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณจะเจอนายโง่หรือฉลาด เอาเป็นว่าถ้าเจอนายฉลาดก็ถือเป็นบุญของคุณ แต่ก็ไม่ใช่บุญดีเสมอไป เพราะถ้านายคุณฉลาดเป็นกรด แต่ไม่สอนงานคุณเลย หรือสอนแล้วคุณเรียนรู้ไม่ทันด้วยว่า ไอคิวไม่สมมาตรกัน ก็ต้องถือว่ามีบุญแต่กรรมมาบัง ส่วนถ้าเจอนายโง่ก็ต้องถือเป็นความซวย ที่อาจจะต้องนึกทบทวนว่าชาตินี้ หรือชาติที่แล้วแต่ปางก่อนทำบุญด้วยอะไร ถึงต้องมาประสบนายกึ๋นน้อยอย่างนี้เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญคือ คุณสามารถบริหารนายคุณได้มากน้อยเพียงใด .. อ๊ะ ! อ๊ะ ! อย่าเอ็ดไป ใครว่านายจะต้องบริหารลูกน้องเสมอไป เราเองก็ต้องบริหารนายเหมือนกัน เพราะต้องพบกันครึ่งทาง ที่ฝรั่งเรียก win win ไง แล้วที่ว่าการบริหารนายเพื่อให้ win win ในการทำงานนี้ เขาทำกันอย่างไร ดิฉันบอกได้เลยว่ามันเป็นศิลปะที่คุณต้องเรียนรู้และฝึกฝน มันเป็นเรื่องของการมี กึ๋น
ดิฉันเองมีประสบการณ์ทำงานกว่า 20 ปี บอกได้เลยว่านายที่พบแต่ละคน บุคลิก วิธีการทำงาน แนวคิด ระดับดีกรีของความโง่และฉลาดต่างกัน บางคนคิดเร็ว ชอบสอน ช่างสังเกต เห็นใจลูกน้อง บางคนวางตัวเหมือนพ่อ เป็นห่วงคิดเผื่อลูกน้องตลอด บางคนขี้เกียจทำงาน โยนงานเป็นประจำ หรือบางคนรู้ตัวว่าไม่ฉลาด แต่โอกาสในการเป็นเจ้านายมาถึงก่อนเพราะเกิดเร็วกว่า คนประเภทหลังนี้ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าไม่ค่อยกล้ามอบหมายงานที่สำคัญให้ลูกน้องทำ และจะคอยควบคุมกำกับดูแลลูกน้องอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นกังวล เรื่องรัศมีความฉลาดของลูกน้อง ที่อาจเปล่งประกายเฉิดฉายเกินหน้าตน
ถามว่าแล้วเราต้องทำอย่างไร จึงจะทำงานกับเจ้านายหลาย ๆ ประเภทนี้ได้อย่างมีความสุข คำตอบก็คือ คุณต้องปรับตัวเข้าหานาย ต้องเรียนรู้ช่างสังเกต เพื่อให้เข้าใจบุคลิก แนวคิด วิธีการของนายแล้วเลือกวิธีการที่จะเข้าหานาย (ไม่ได้ปล้ำนายนะ หมายถึงหาวิธีการที่จะทำงานกับนายอย่างราบรื่น เหมือนกับที่การบินไทยบอก Smooth as silk ไง )อย่าคิดให้นายปรับเข้าหาคุณ เพราะนายเช่นนี้อาจจะมีไม่มากในโลกแห่งความเป็นจริง ที่สำคัญคือคุณต้องเป็นคนที่เก่งงานด้วย หมายความว่า งานที่รับผิดชอบในหน้าที่ของคุณนั้นก็ไม่ควรให้มีข้อผิดพลาดจนเป็นผลเสียต่อองค์กร เพราะจะทำให้ไม่ได้รับความไว้วางใจ วิธีการเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจนายนี้ ก็จะแตกต่างกันตามบุคลิกของนายแต่ละคน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเข้าถึง ขอเพียงคุณเป็นคนเปิดกว้าง ยอมรับ และตรงไปตรงมา การขยันสื่อสารกับนายไม่ว่าจะด้วยวิธีการเผชิญหน้า (พูดคุย) การส่งเมลทางอินทราเน็ต (อินทราเน็ต หมายถึง การสื่อสารอินเตอร์เน็ตภายในองค์กร) การเขียนรายงานประจำเดือน อื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการที่จะทำให้คุณเข้าใจนาย และนายเข้าใจคุณได้ดีขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เหมือนคำกล่าวที่ว่าความไม่แน่นอนคือความแน่นอนฉันใด วิธีการบริหารนายของคุณก็อาจไม่เป็นไปตามที่คิดนึกไว้ จนบางครั้งคุณอาจท้อแท้ เกิดความรู้สึกเซ็ง อาจจะอยากเทยาพิษใส่กาแฟให้นายกินทุกเช้า และให้ตายไปอย่างช้า ๆ หรืออาจนึกอยากจะเอาที่เขี่ยบุหรี่ขว้างหัวนายสักครั้ง เพื่อให้คลายแค้น เป็นต้น ไม่ว่าคุณจะคิดหรือรู้สึกอย่างไร โปรดจำไว้ว่า ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ความคิดว่า ทำไมเกิดมาทั้งที ชีวิตนี้ต้องมีนาย ผุดขึ้นในเซลล์สมองซีกใดซีกหนึ่งและคุณไม่สามารถขจัดความคิดนี้ให้หายไปได้ โปรดจงบอกลาซาโยนาระ แบบนายจ๋าขี้ข้าลาก่อนอย่างด่วนจี๋ ก่อนที่นายคุณจะเป็นฝ่ายจัดการให้คุณบ๊าย บาย เสียเอง แต่ถ้าคุณไม่คิดจะล่าทัพแล้วละก็ คุณก็ต้องมีวิธีการนำทัพอย่างชาญฉลาด มาลองดูว่าจะจัดการอย่างไรให้พิชิตนายได้อย่างราบรื่น
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
by : เอริโกะ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที