ลีน เป็นเครื่องมือในการบริหารอุตสาหกรรมที่ช่วยในการขจัดความสูญเปล่าในขบวนการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยด้วยการช่วยให้การฝึกอบรมประสบความสำเร็จด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
แนวคิดของลีนที่นำมาใช้ในเรื่องของการฝึกอบรมก็คือ คนเราควรได้รับข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและตรงกับความต้องการจริง ๆ
การฝึกอบรมแบบลีนนั้น จะมุ่งเน้นที่การเก็บรักษาองค์ความรู้ ไม่ใช่ที่ปริมาณการฝึกอบรม มองไปที่สิ่งที่ผู้เข้าอบรมได้รับจากการอบรมและนำไปใช้ประโยชน์
การฝึกอบรมในห้องอบรมดูจะมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เมื่อคุณนึกถึงการฝึกอบรมที่มีผู้เข้าอบรมพร้อมกันที่เดียวเป็นจำนวนมาก แต่ทราบหรือไม่จากการศึกษาพบว่าเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 1 เดือนความรู้ที่ผู้เข้าอบรมได้รับจากการฝึกอบรมในห้องอบรมจะเหลืออยู่เพียง 20 %
แม้ว่าทักษะบางอย่างการฝึกอบรมแบบกลุ่มจะให้ผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพที่ดีกว่า แต่ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาเรื่องนี้ก็เชื่อว่า การอบรมควรกระทำเป็นรายบุคคลและกำหนดให้ตรงกับความจำเป็นมากกว่าที่จะทำการอบรมหลาย ๆ หัวข้อในครั้งคราวเดียวกัน การฝึกอบรมแบบลีนให้ประสิทธิภาพมากกว่าในแง่ของการระบุความจำเป็น เป็นส่วนย่อย ๆ แล้วทำการฝึกอบรมโดยไม่ต้องรอ เช่น การอบรมแบบตัวต่อตัว การอบรมหน้างาน ซึ่งการอบรมโดยวิธีดังกล่าวจะทำให้ผู้ฝึกอบรมมีโอกาสประเมินความรู้และประสบการณ์ของผู้เข้ารับการอบรมก่อนทำการอบรม และจัดการอบรมให้ตรงกับความต้องการได้
การนำหลักการของลีน มาประยุกต์ใช้กับการฝึกอบรมนั้นจะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพราะพนักงานจะใช้เวลากับกิจกรรมการฝึกอบรมที่ไม่ได้ผลลัพธ์น้อยลง และผู้เข้ารับการอบรมสามารถรักษาองค์ความรู้หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้มากขึ้น นำไปประยุกต์ใช้กับงานได้มากขึ้น และมีผลการปฎิบัติงานที่ดีขึ้น
และนอกจากนี้การฝึกอบรมแบบลีนยังช่วยผู้ฝึกอบรมในการจัดการกับปัญหาความหลากหลายในเรื่องความรู้ ประสบการณ์ และผลการปฎิบัติงานของกลุ่มผู้เข้าอบรมอีกด้วย
การนำแนวความคิดแบบลีนมาใช้กับงานฝึกอบรม
เป้าหมายของการถ่ายทอดความรู้แบบลีนคือ การปรับปรุงผลการปฎิบัติงานในเชิงธุรกิจที่สามารถวัดได้โดยการจัดส่งความรู้ที่คนจำเป็นต้องรู้ ด้วยวิธีการที่เขาชื่นชอบ ในเวลาที่พวกเขาต้องการ
สำหรับรูปแบบการฝึกอบรมในแบบของลีนนั้นเชื่อว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการดังนี้:
· มีสัญญาณของการเรียนรู้ที่ชัดเจน คนเรามักต้องการที่จะรู้ล่วงหน้าว่าเมื่อไรจำเป็นต้องเรียนหรืออบรม คนเรามักจะทราบหรือเข้าใจขีดความรู้ความสามารถและทักษะของตัวเองเป็นอย่างดี
· ใช้วิธีการ ดึงดูด ไม่ผลักดัน ดึงดูด ให้แต่ละคนทราบถึงความรู้ที่จำเป็นต้องมีเพื่อทำให้งานบรรลุเป้าหมายหรือประสบผลสำเร็จ ดังนั้นกิจกรรมการฝึกอบรมที่จะเป็นตัวผลักดัน ข้อมูลที่จำเป็นให้พวกเขาก็จะทำได้ง่ายขึ้น
· ทันเวลา ทำให้คนสามารถดึงเอาความรู้มาใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็นเพื่อทำให้งานบรรลุเป้าหมาย
· เกิดความพึงพอใจทันที เนื้อหาที่เรียนรู้สอดคล้องกับการนำไปยุกต์ใช้งานได้โดยตรง และเห็นผลทันที
· เรียนรู้เป็นรายบุคคล รูปแบบ จำนวน และอัตราการเรียนรู้ ออกแบบเฉพาะให้เหมาะกับรูปแบบการเรียนรู้ ประสบการณ์ และสถานการณ์ ของแต่ละบุคคล
· มีความทันสมัย/ทันต่อเหตุการณ์ เนื้อหาการเรียนรู้ถูกกำหนดหรือสร้างขึ้นทันหรือใกล้เคียงกับเวลาที่ต้องการมากที่สุด ดังนั้นจึงมีความทันสมัย และตรงกับปัญหาที่เผชิญอยู่
เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับแนวคิดข้างต้น ท่านผู้อ่านท่านใดที่สนใจลองนำไปปรับใช้ดูน่ะค่ะ และได้ผลเป็นอย่างไรก็อย่าลืมส่งข่าวมาเล่าสู่กันฟังน่ะค่ะ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที