1. ประวัติความเป็นมาของแรงกดดันทางสังคมและสิ่งแวดล้อม มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
Internet มีการพัฒนามาเรื่อยจึงก่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ ในสังคมมากมายคนในสังคมเห็นเทคโนโลยีกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิต ช่วยในการติดต่อสื่อสารและทำงานในชีวิตประจำวัน จึงเห็นได้ว่าอิทธิพลของเทคโนโลยีได้ส่งผลต่อการศึกษา วัฒนธรรม ค่านิยม ต่อคนในสังคมเป็นอย่างมากคน เพราะการเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ จากการเรียนรู้ภาษาผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางบวกและทางลบในสังคม, การพัฒนาระบบงานธุรกิจต่างๆ หรือ การศึกษามีการพัฒนาไปทางที่ดี แต่ทางด้านจรรยาและวัฒนธรรมทางสังคมนั้นเปลี่ยนไปมากกว่าแต่ก่อนอิทธิของต่างชาติเข้ามามีบทบาททางสังคมกว่าเดิม ทำให้เด็กในปัจจุบันมีความก้าวร้าวและอารมณ์รุนแรง ซึ่งการพัฒนาระบบInternet มีตั้งแต่ ปี ...
1957-1986
ซึ่งได้มีการสร้างอาร์พาเน็ต (Arpanet) ขึ้นมาในการติดต่อสื่อสารกันเพื่อค้นคว้าและวิจัยทางทหาร ซึ่งทำได้เพียงแค่รับส่งข้อมูลและทำการตรวจสอบความผิดพลาดในการส่งข้อมูล ใช้เพียงแค่หน่วยราชการของทหารเพียงเท่านั้น
1987-1998
การพัฒนาของ Internet เริ่มจากปี 1987 เพราะโลกได้มีการพัฒนาระบบInternetขึ้นมา โดยการสร้าง Internet Explorer ซึ่งเป็นเบราเซอร์ตัวแรกที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารภายในประเทศ
1999-2002
เริ่มมีการสร้างระบบเอ็มเอสเอ็นขึ้นมา ซึ่งให้บริการขั้นพื้นฐาน เช่น การส่งข้อความโต้ตอบ รายชื่อผู้คนที่ติดต่อ รวมทั้งให้บริการในเวอร์ชั่น แต่จะเป็นเพียงแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น จากนั้นไม่นาน และต่อมาจึงได้มีการเพิ่มแบนเนอร์โฆษณาและฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อปรับหน้าตาของโปรแกรมให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น แต่ถึงระบบจะพัฒนามากเท่าไหร่แต่ตัวคอมพิวเตอร์นั้น ยังมีราคาค่อนข้างแพงมาก จึงถูกใช้งานเพียงส่วนงานราชการกับเอกชนเท่านั้น ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร
2003-2006
คอมพิวเตอร์ถูกพัฒนามากขึ้น ประโยชน์การใช้งานมีมากกว่าเดิม ตัวเครื่องและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีราคาถูกลงมาก ผู้คนทั่วไปก็หันมาใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น อีกทั้งระบบก็ยังถูกพัฒนามาเรื่อย โดยนอกเหนือไปจากการสนทนาโต้ตอบกันด้วยตัวอักษรแล้ว ยังเพิ่มลูกเล่นต่างๆมากมาย สังคมเริ่มมีการสื่อสารกันมากขึ้น โลกเริ่มเปิดกว้าง กว่าแต่ก่อน, คนในสังคมเริ่มเห็นความสำคัญของภาษาต่างประเทศ ทำให้ระบบระบบการศึกษาเริ่มมีการพัฒนาจากเดิม คือ มีการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กนักเรียนประถม ซึ่งก่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ แต่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศส่วนภาคธุรกิจนั้น คนหันมาใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นจากเดิมในการทำงาน เพิ่มความสะดวกในการส่งไฟล์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ไปสู่อีกเครื่อง, คอมพิวเตอร์ไปและยังติดต่อกันผ่าน Video call ของระบบ MSN ซึ่งง่ายต่อการติดต่อและประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้โทรศัพท์
2007-2008
อินเตอร์เน็ตถูกใช้แพร่หลาย นักวิชาการหรือหน่วยงานราชการและเอกชน, โรงเรียนได้หันมาใช้อินเตอร์เน็ตในการทำงานหรือติดต่อสื่อสาร ซึ่งปัจจุบันในอินเตอร์เน็ตมีเว็บใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายหรือที่เราเรียกว่า Social Network เช่น Face book, Twitter, Hi-5, MySpace, YouTube etc. ทำให้คนในสังคมเริ่มมีการติดต่อกันมากขึ้น คอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการในการพัฒนางานหรือ ธุรกิจเป็นเครือข่ายที่สามารถ Connect ได้ทั่วโลก เพราะเนื่องจากมีต้นทุนที่ถูก ทำให้เกิดธุรกิจพาณิชมากในสังคม การจ้างงานจึงมีมากขึ้น ทำให้คนในสังคมมีงาน และการศึกษาที่ดีกว่าเดิม
2009-Present
ปัจจุบันความนิยมใช้เว็บไซต์ Social Network ได้รับความแพร่หลาย คนส่วนใหญ่เกือบจะทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพก็พร้อมใจกันใช้เว็บไซต์ประเภทนี้ ในกรับรู้ข่าวสาร ยิ่งเมื่อมีข่าวว่าคนดังในวงการนักการเมือง นักธุรกิจ ดารา ใช้เว็บไซต์ประเภทนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่ามีคนไทยจำนวนมากทั่วประเทศนับจำนวนเป็นแสนๆคนก็นิยมใช้เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด 13.4 ล้านคนในประเทศไทย มีผู้ใช้โปรแกรมวินโดวส์ ไลฟ์ แมสเซ็นเจอร์ ถึง 4.4 ล้านคน และส่งข้อความผ่านทางโปรแกรมนี้ถึงวันละ 120 ล้านข้อความ คิดเป็นจำนวนมากกว่าถึง 12 เท่า ของจำนวน SMS ที่ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ (10 ล้าน ข้อความ) นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีการใช้โปรแกรมแช็ท วินโดวส์ ไลฟ์ แมสเซ็นเจอร์ มากที่สุดเป็นลำดับที่ 9 ในโลก
2. ข้อดีและข้อเสียของแรงกดดันทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
ข้อดี
- เราจะมีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารการบริการและการผลิต ทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น เราสามารถเชื่อมต่อกับธนาคารผ่านระบบธนาคารที่บ้าน (หน้าแรกธนาคาร) โดยอินเทอร์เน็ตออนไลน์และเราจะได้รับความบันเทิงทุกรูปมัลติมีเดีย, พักผ่อน, ข่าวอื่น ๆ
- สื่อสารทางสังคมมากขึ้นและพวกเขาสามารถประหยัดเวลาในการเชื่อมต่อและค้นหาสถานที่ ผู้คนสามารถจับได้อย่างรวดเร็ว
- เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตสร้างโอกาสคนพิการในสังคม มันสามารถทำให้ทักษะและความรู้ของคนพิการและช่วยเหลือคนพิการที่จะทำให้ทุกอย่างจากตัวเองเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นในสังคม
- ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพราะที่จะทำให้คนทราบว่าราคาและปริมาณของสินค้าและทำให้สินค้าที่จะเปรียบเทียบได้รับเป็นอย่างดี
- การทำงานบนอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตจะดีกว่าในเวลาที่ผ่านมา นั่นคือ ประหยัดเวลาในการทำงาน คนส่งผลให้มีเวลามากขึ้นร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อน
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาใน sociality - อินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตได้มีความรู้มากขึ้นสำหรับการศึกษา ช่วยเหลือความสนใจของนักเรียนที่จะเรียนรู้มากกว่าหนังสืออ่านในเวลาที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันเราใช้คอมพิวเตอร์หรือสื่อการสอนสำหรับการสอนในชั้นเรียนผลเราจะรับคนที่ดีสำหรับการพัฒนาทางสังคม
ข้อเสีย
- คนเกิดความเครียดในสังคม เช่น ผู้คนกำลังจับกุมเทคโนโลยีแทนที่มนุษย์ในอุตสาหกรรมเนื่องจากที่ช่วยให้ บริษัท ที่จะลดการผลิต, การประหยัดค่าใช้จ่าย และสินค้าที่มีคุณภาพคนที่ดีกว่า ดังนั้นจึงทำให้คนตกงาน ส่งผลให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา เด็กจึงต้องไปพัฒนาการทางด้านจิตใจในสังคม
- อินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต คือ การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของคนในโลก เพราะวัฒนธรรมการแพร่กระจายจากสังคมหนึ่งกับสังคมอื่นก็ให้ค่านิยมใหม่ในสังคม เช่น พฤติกรรมหรือค่าถูกส่งไปยังเด็กจากเว็บไซต์ที่ทำให้ปัญหานี้เป็นเด็กจำลอง ส่งผลกระทบต่ออารมณ์
- ลดคนในสังคมสำหรับการเชื่อมต่อ เช่น ผู้จัดการด้านการเชื่อมต่อการทำงานของพนักงานบนอินทราเน็ตสำหรับประหยัดเวลาและความสะดวกสบาย แต่มันทำให้ผู้จัดการและพนักงานจะไม่ตอบสนองหรือรับประทานอาหารร่วมกันในสังคม
- บุกรุกความเป็นส่วนตัวเป็นผลกระทบต่อกับคนในสังคม เช่น นำข้อมูล, ข้อมูล, และภาพของคนที่จะโพสต์บนเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ตและจะทำให้เป็นอันตราย ทำให้ประชาชนเกิดปัญหาทางสังคม
- สังคมอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงได้รับปัญหาทางสังคม เช่น อาชญากรรมจากการโจรกรรมอัจฉริยะหรือข้อมูลของ บริษัท ดังกล่าวเป็นไวรัส (Hacker) และแครกเกอร์ (Cracker) แพร่กระจายไปตกองค์กรข้อมูลผลการดำเนินธุรกิจและเครือข่ายสังคม
- ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น คนที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อให้ดวงตาเป็นเวลานานส่งผลให้ปวดเมื่อยและมีผลต่อสุขภาพจิต
3. กรณีตัวอย่าง
ปัญหาภัยเทคโนโลยีกำลังเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากถึงภัยมืดที่แอบแฝงมากับปัญหาความเจริญของเทคโนโลยี เช่น ปัญหาการล่อลวงเพื่อกระทำทางเพศ การล่อลวงเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สินและการล่อลวงเพื่อการค้ามนุษย์ เป็นต้น ทั้งนี้สภาพของปัญหาภัยเทคโนโลยี มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของเด็กและเยาวชนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้เด็กและเยาวชนที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันและในอนาคตมีภาวะความเสี่ยงในการถูกล่อลวงและคุกคามจากภัยเทคโนโลยี
จากการที่เด็กเข้าไปใช้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่เหมาะสม และเป็นบริการที่ไม่มีมาตรการจัดการควบคุมดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นผลให้มีเด็กอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปี หายออกจากบ้านถึง 26 ราย (สถิติปี 2546 - 2549) โดยเด็กกลุ่มนี้ได้เข้าไปใช้บริการ แชทไลน์ทางโทรศัพท์ระบบออดิโอเท็กซ์ แชทไลน์ในระบบอินเตอร์เน็ท และเกมส์ออนไลน์ ซึ่งการหายตัวออกจากบ้านไปของเด็กที่เข้าไปใช้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ นับว่าทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
4. ข้อสรุป
- ในสังคมเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนในสังคมจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพราะทำให้สะดวกต่อคนโดยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์, สื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ ดังนั้น บริษัท หรือองค์กรสามารถใช้พวกเขาสำหรับการทำงาน
- สังคมควรเตรียมที่จะปรับตัวเข้ากับการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการทำงาน เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้คนมีความสะดวกในสังคมการเรียนรู้การจัดการสนทนาการและความบันเทิง รวมทั้งการสร้างโอกาสใหม่ในสังคม หากเราเป็นที่รู้จักและต้องระวังในการใช้ที่ได้รับในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ
อ้างอิงข้อมูลจาก>>
- http://www2.eduzones.com/rangsit/11665
- http://www.bp-smakom.org/BP_School/ComCenter/Surasak/HisNet.HTM
- .http://www.nan2day.com/forum/index.php?topic=1928.0
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที