ประวัติและความสำคัญของเทคโนโลยี

ประวัติและความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

จากในอดีตเรามีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมากมาย นั้นเพราะว่า ความต้องการของมนุษย์ที่ต้องการความสะดวกสบายนั้นไม่มีที่สิ้นสุดจึงต้องมีการคิดค้นสิ่งต่างๆ สรรค์สร้างเทคโนโลยีเพื่อสนองตอบต่อความต้องการ ณ เวลานั้นให้สะดวกสบายมากขึ้น แม้เทคโนโลยีในยุคแรกๆอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาบางและการแก้ไขก็ล่าช้าแต่นั้นก็ทำให้เกิดความสะดวกสบายขึ้นมาไม่มากก็น้อย การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของเทคโนโลยีเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ในที่นี้จะยกตัวอย่างที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตที่สำคัญๆ โทมัสเอดิสัน เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟหลอดแรกจากการทื่ โทมัสเอดิสันต้องการที่จะให้มีแสงไฟส่องสว่างในยามค่ำคืนนั้นได้ทำการทดลองต่างๆมากมายเพื่อหาไส้หลอดไฟและเมื่อทำสำเร็จนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของยุคที่มีแสงไฟยามค่ำคืน  อเล็กซานเดอร์เกรแฮมเบลล์ ยังได้ประดิษฐ์โทรศัพท์เพื่อย่นระยะเวลาการติดต่อสื่อสารต่างๆให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ?

ทำไมจึงได้เกิดเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา ? จากที่กล่าวในประวัติข้างต้นนั้น จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนั้นเกิดขึ้นจากความต้องการของมนุษย์ทั้งสิ้นนั้นก็เพราะต้องการความสะดวกสบายต้องการความราบรื่นในการทำงานหรือแม้แต่ความปลอดภัยที่มากขึ้นในการใข้การ ( Market pull ) ในที่นี้จะกล่าวถึงเรื่องโทรศัพท์มือถือ  ในอดีตนั้นโทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นเมคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมูลค่าที่สูงมาก จนบุคคลทั่วไปยากที่จะซื้อหามาครอบครองได้ ด้วยราคาที่สูงถึงหลัก 80,000 – 120,000 บาทต่อหนึ่งเครื่องแต่แลกมาด้วยฟังชั่นการใช้การที่น้อยมากสามารถทำได้แค่โทรเข้าโทรออกได้เท่านั้นแลกกับขนาดที่ใหญ่เทอะทะยากต่อการพกพาแต่ไม่มีตัวเลือกมากนักจึงจำเป็นต้องซื้อหามาใช้งานในสมัยนั้น จากนั้นเป็นต้นมาเทคโนโลยีทางด้านโทรศัพท์มือถือนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดจนถึงบุคปัจจุบัน ความต้องการของตลาดส่วนใหญ่นั้น ต้องการฟั่งชั่นการใช้งานที่หลากหลายเรียกได้ว่าโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่องนั้นจะเป็นดีไวท์หนึ่งเครื่องที่ สามารถทำได้ทุกอย่าง เช่น ดูหนังฟังเพลงส่งไฟล์รับไฟล์เชื่อมต่อินเอตร์เน็ตด้วยความรวดเร็ว เป็นมัลติฟังชั่น ในเครื่องเดียวสิ่งเหล่าที่ถูกกำหนดโดย ( Market pull ) ความต้องการของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคเป็นส่วนใหญ่ จากเทคโนโลยีในยุคแรกนั้นราคาต่อ 1 เครื่องมีราคาแพงเพราะไม่มีวัสดุในการทำที่เป็นตัวเลือกมากนักและเครื่องมือการผลิตที่ยังไม่ทันสมัยทำให้กว่าจะได้ 1 เครื่องต้องใช้เวลามาก แต่ในปัจจุบันนี้ วัสดุ หรือ เทคโนโลยีการผลิตนั้นหาได้ง่ายราคาก๊ถูกลงด้วยกลายเป็น สมาร์ตโฟนที่ครบทุกฟังชั่นแต่เป็นราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้. (Technology push) เมื่อเราทราบความต้องการของตลาดแล้วการตอบรับเพื่อสร้างสิ่งเหล่านิ้ ป้อนเข้าสู่ตลาดและปรับตามนิสัยของผู้บริโภคว่าต้องการอะไรในเทคโนโลยีนั้นจึงนำมาปรับและแก้ไข

                                                                                                           

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีตั้งแต่ ค.ศ.1990-2011

ข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยี

ตัวอย่างการศึกษาเทคโนโลยี

จากที่ได้กล่าวข้างต้นในประวัติการใช้งานเทคโนโลยีนั้นเรื่องที่เห็นและเป็นปัญหาในการใช้งานเทคโนโลยีในขณะนี้คือ เรื่องโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันมีคำกล่าวที่ว่า “เมื่อซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์รุ่นใหม่ล่าสุดในวันนี้ ในวันพรุ่งนี้อุปกรณ์ชิ้นนั้นจะกลายเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าไปในทันที” คำกล่าวที่ใช้ได้ดีกับการก้าวกระโดดของเทคโนโลยียุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จากการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยความก้าวหน้าดังกล่าวทำให้เทคโนโลยีรุ่นเก่านั้นถูกทิ้งให้เป็นขยะอิเล็กทรอนิคส์ที่ไร้ค่าเกิดปัญหามากมายตามมาเพราะว่าขยะเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้และเป็นขยะที่มีพิษในบางประเทศเช่นประเทศจีนกลายเป็นแหล่งที่มีขยะเหล่านี้จากทุกมุมโลกนำมาทิ้งไว้ทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผู้คนทั้งๆที่มนุษย์นั้นที่เป็นคนสร้างสรรค์เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อความสะดวกสบาย แต่ก็เป็นมนุษย์อีกนั้นละที่ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง

สรุป

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าความต้องการของมนุษย์นั้นไม่สิ้นสุดต้องการที่จะหาสิ่งที่สะดวกสบายต่อตนเองและคนรอบข้างมาบำเริญความสุขให้มากที่สุดในบางครั้งการที่เราหลงอยู่กับวัตถุนิยมเหล่านี้มากไปจนลืมใส่ใจคนรอบข้างหรือว่าใส่ใจโลกใบนี้ของเราอาจจะเป็นระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังทำลายมนุษย์ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐสร้างสรรค์สิ่งสวยงามและความสะดวกแต่มุนษย์อีกเช่นกันละที่เป็นคนลำลายโลกหรือสังคมดีๆไปอย่างช้าๆ “ขออันเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นข้อคิดให้ผู้อ่านได้ตรึกตรองดูสักนิด”  “  เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจของทุกอาชีพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 ซึ่งต่อมาได้มีการนำแนวความคิดไปปฏิบัติกันหลายหน่วยงาน แต่คนส่วนมากมักเข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของเกษตรกรเท่านั้น ซึ่งแท้จริงผู้ประกอบอาชีพอื่น ก็สามารถนำเอาแนวพระราชดำรัสไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ้น

"ผู้ที่เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้โดยเน้นการผลิตด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง และไม้ควรทำอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกินไป เพราะหากขนาดใหญ่เกินไป ก็จะต้องพึ่งพิงสินค้าวัตถุดิบและเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาผลิตสินค้า ต้องคำนึงถึงสิ่งที่อยู่ในประเทศไทยก่อน เพื่อให้ไม่ต้องพึ่งพิงต่างชาติอย่างเช่นปัจจุบันผู้ที่เป็นเกษตรกร หากมีความพอประมาณในใจตน ไม่นึกแต่จะซื้อรถคันใหม่ หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกอยู่ร่ำไป ก็จะมีความสุข"
  
เศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นพระราชดำรัสที่พระราชทานให้ประชาชนดำเนินตามวิถีชีวิตแห่งการดำรงชีพที่สมบูรณ์ โดยมีธรรมะเป็นเครื่องกำกับ และมีใจตนเป็นสำคัญ ซึ่งก็คือวิถีชีวิตไทย ที่ยึด ทางสายกลาง ของความพอดี

5. http://www.google.co.th/search?q=ipad&hl=th&gbv=2&biw=1366&bih=587&tbm=isch&source=lnt&tbs=isz:i&sa=X&ei=45MaTqaeBoHxrQe8kJDQAQ&ved=0CAwQpwUoAw