นวัตกรรมจากจุดเล็กๆ...ที่เรียกว่ามนุษย์
ทุกท่านทราบไหมว่าหากลองย้อนเวลากลับไปในขณะที่พวกเรายังไม่มีตัวตน ยังไม่ปรากฏน้ำและดิน โลกและดวงดาว รอบกายของเราจะถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งใด คำตอบคือ มีเพียงความว่างเปล่า แต่ในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ ทันทีที่แสงสว่างจากแรงระเบิดอันมหาศาลได้ปะทุขึ้น ผู้ใดเลยจะหาญกล้านึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ นอกเสียจากชาวโลกอย่างพวกเรา ในขณะที่เซลล์อื่นๆ ได้วิวัฒนาการตนให้สยายปีกกลางเวหา ผงาดตัวกลางทุ่งหญ้าและหน้าผาใหญ่ ร่ายรำท่ามกลางกระแสน้ำเกรี้ยวกราด กลับมีเซลล์ๆหนึ่งที่ได้เข้าสู่กระบวนการวิวัฒนาการขั้นสูงสุดจนเกิดเป็น สิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ใจ นั่นคือพวกเราชาว มนุษย์ ที่เป็นผู้กำเนิดสิ่งใหม่ๆทั้งที่เป็นไปได้ และ เป็นไปไม่ได้แต่เชื่อไหมว่าสิ่งนั้นได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว
ในทุกๆครั้งที่โลกได้โคจรรอบตัวเอง นั่นหมายความว่ากาลเวลาได้เคลื่อนต่อไป พร้อมกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ย่อมมีพัฒนาการไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะพวกเรา สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ทุกท่านทราบไหมว่า เราแตกต่างอย่างไร มิใช่การเดินสองขา หรือ การมีเส้นผมที่บริเวณศีรษะ แต่เป็นความคิดและจินตนาการ ที่อยู่ในตัวของพวกเราทุกคน เพราะทุกการกระทำย่อมมีการคิดและจินตนาการเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งสองสิ่งได้สรรค์สร้างการลงมือที่ยิ่งใหญ่ไว้มากมาย พวกเราบินไม่ได้แต่ได้เคยนำมือไปสัมผัสปุยเมฆมา พวกเราหายใจในน้ำไม่ได้แต่เคยดำดิ่งลึกสู่สะดือทะเลมาก่อน หากเรากล้าที่จะคิด จินตนาการจะพาเราก้าวล้ำไปตามกาลเวลา สู่ประตูแห่งโลกของสิ่งใดๆที่ถูกพัฒนาจากความสามารถของมนุษย์เพื่อตัวมนุษย์เอง มนุษย์ทุกชนชาติมี ลักษณะ ภาษา วัฒนธรรมที่ต่างกัน จึงเกิดการพัฒนาที่ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมของประเทศนั้นๆ นวัตกรรมมากมาย อาทิ ยานยนต์ หุ่นยนต์ การสื่อสาร เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลในการสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา แต่มันก็ยังมีทั้งสิ่งที่จำเป็นและมากเกินความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สิ่งมีชีวิตชนิดนี้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของความจำเป็นการดำรงชีวิตได้
จากเพียงแค่จุดเล็กๆเพียงจุดเดียวที่อาศัยอยู่ในเอกภพนี้ ได้สามารถสร้างที่ต่างๆขึ้นมากมาย โดยที่สิ่งเหล่านั้นได้สัมพันธ์กับกาลเวลาและเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับโลกใบนี้ แม้เวลาจะผ่านไปเพียงวินาที นาที ชั่วโมง วัน เดือน หรือ ปี สิ่งที่ผ่านมาแล้วย่อมเป็นความจริงว่า สิ่งที่กำเนิดก่อนสิ่งที่จะกำเนิดหลังจากนี้ เราไม่อาจทราบได้ว่า จินตนาการและความคิดของมนุษย์จะสามารถไปไกลกว่าการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่ถ้าหากมนุษย์ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ตราบนานเท่าใด จิตนาการและก็ยังคงที่จะโลดแล่นท่ามกลางกระแสแห่งห้วงกาลเวลาเท่านั้น สิ่งใหม่ๆจะถูกพัฒนาขึ้นตราบจนโลกจะไม่หมุนรอบตนเอง นวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยังรักษาสมดุลระหว่างกัน เมื่อใดที่เราได้รับรู้ถึงการสิ้นสุดของจักรวาลนั่นหมายถึงการสูญสลายของทุกสิ่ง เว้นเสียแต่จุดเล็กๆจุดหนึ่ง ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครา
Jeremy H.
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
