เราทุกคนล้วนเคยได้สัมผัสนวัตกรรม เพราะมันเป็นเสมือนขั้นบันไดเล็ก ๆ แห่งวิวัฒนาการ อย่างหนึ่งของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ หากเราเป็นมนุษย์ เราต้องเคยได้พึ่งพิงเทคโนโลยีที่อำนวย ความสะดวกในมิติใดมิติหนึ่งอย่างแน่นอน แต่เมื่อเราสามารถสร้างและประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่เราจะสามารถใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างยาวยาวนานอีกทั้งไม่กลับมาทำร้ายเราและธรรมชาติที่เรารักและหวงแหน
โลกใบนี้ก็คงจะเหมือนกับต้นไม้ ต้นเล็ก ๆ ในสวนหลังบ้านของคุณที่จะต้องมีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปทุก ๆ วินาที ส่วนเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ก็คงจะเปรียบเสมือนปุ๋ยและฮอร์โมนที่คอยเติมเต็มให้ต้นไม้ต้นเล็กนั้นได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เร่งดอก ออกผล ให้เป็นที่พึงพอใจแก่คนที่ปลูก ซึ่งก็ไม่ต่างจากเทคโนโลยีที่ทำให้เศรษฐกิจ การเมือง ชีวิตประจำวัน สุขภาพ และทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะมีผลทั้งในแง่บวกและแง่ลบในตัวของมันเอง เช่น รถยนต์ที่เราใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทาง นอกจากจะให้ความสะดวกสบาย ประหยัดเวลาแล้ว ก็แถมมาพร้อมกับมลพิษทางอากาศ ความร้อนจากเครื่องยนต์ จนไปถึงปัญหารถติด ที่ทำให้สุขภาพจิตใจเสียไปตาม ๆ กัน จนเราต้องมากลับคิดคำนึงว่า เทคโนโลยีด้านการขนส่ง ที่เราเรียกกันว่า รถยนต์ ให้ข้อดีหรือว่าข้อเสียมากกว่า
นวัตกรรมมีความหมายหลายแขนงว่ากันตามตำรามากมาย เช่น นวัตกรรมคือ ความคิด การปฏิบัติ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ หรือ การพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัย ซึ่งฟังดูก็ไม่พ้นไปจากนวัตกรรมแบบจอมปลอมที่เราคุ้นเคย ทั้งยังไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีคุณภาพมากนัก เพราะทัศนะเหล่านี้เป็นเพียงการพรรณนาถึงคุณภาพของนวัตกรรมกับ การเปลี่ยนแปลงโลกในอุดมคติเท่านั้น ซึ่งแม้จะมีความหมายด้านบวกแสนงดงามเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยากที่จะสัมผัสได้ในชีวิตจริงอย่างเป็นรูปธรรม
ในมุมมองของข้าพเจ้านั้น นวัตกรรมนั้นกลับหมายถึง ความคิด หรือ สิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่แล้วแต่เราสามารถเข้าใจมัน และนำมันมาเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราก้าวไปสู่วิวัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การผลิตยารักษาโรคต่าง ๆ ที่ทำให้การเสียชีวิตของคนในปัจจุบันน้อยลงกว่าเดิม 60 % หรือการผลิตกระดาษเพื่อการจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้รวม ๆ กันเรียกว่า วิวัฒนาการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นเป็นเหมือนของขวัญจากคนในอดีต ที่มอบให้แก่คนในอนาคตดูแล และต่อยอดต่อไปเรื่อย โดยหวังว่าคนในโลกอนาคตจะพัฒนาให้มันไม่ทำร้ายสภาพแวดล้อม และไม่ทำร้ายคนที่ใช้มัน (นั้นก็คือ มนุษย์) ไปมากกว่านี้ เพราะปัจจุบันเราเก่งที่จะสร้าง แต่ไม่ได้เก่งที่จะดูแลมัน จนตอนนี้สิ่งเหล่านี้กลับมาทำร้ายธรรมชาติอันสวยงามของเรา หรือแม้กระทั้งโลกอันเข้มแข็งของเราตอนนี้ก็กลายโลกที่อ่อนแอแล้ว
มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาที่จะมีความสุข ในการชีวิตที่วิ่งแข่งกับเวลา คาดหวังที่จะมีเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของตัวเองในทุก ๆ ด้าน วาดฝันถึงนวัตกรรมที่มาพร้อมกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่หากเขาเอาแต่ปรารถนาโดยไม่รู้วิธีการใช้มันอย่างถูกวิธีแล้ว ความปรารถนาของพวกเขาก็เป็นแค่เพียง '' จินตนาการ'' อันว่างเปล่าในงาของกาลเวลาเท่านั้นเอง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
